บุกรวบหนุ่มทิ้งยาบ้า ลงบ่อเกรอะ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.61 บก.ควบคุม กกล.รส.จ.ลำพูน. โดย ร.ต.วิทยา แสงประสิทธิ์ รอง ผบ.ร้อย.รส.ที่ 1 (ร.7 พัน.1) พร้อมกำลังพล และ ชป.รส. (สห.ร.7) จัดกำลังพล ร่วมกับ สภ.เหมืองจี้, สภ.เมืองลำพูน และ กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 ร่วมกันเข้าทำการจับกุมตัว นายเอ็ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ราษฎร ม.10 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีในพื้นที่ฯ แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดว่ามีการพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาบ้า ให้กับกลุ่มผู้ค้ารายย่อยทั่วไป

จากการสืบสวนฯ ทราบว่านายเอ็ม มีชื่อจริงคือ นายณัฐวุฒิ กีรติปาล อายุ 41 ปี ที่อยู่ 211/1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน จึงได้นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส ตรวจพบหญิงต้องสงสัยมีท่าทางพิรุธ ยืนอยู่ข้างทาง หน้าบ้านเลขที่ 253 ม.10 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 1/2 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาที่สวมใส่อยู่ในขณะที่ทำการตรวจค้น ทราบชื่อคือ น.ส.สิริรัตน์ หรือเหมี๋ยว ฐีตะพงษ์ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 168/1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน โดย น.ส.สิริรัตน์ หรือเหมี๋ยว ยอมรับว่าของกลางที่ตรวจพบนั้นเป็นของตนเองจริง

และต่อมาเมื่อเวลา 12.00 ได้เข้าทำการตรวจค้น ณ บ้านเลขที่ 253 ม.10 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน ผลการปฎิบัติฯ สามารถจับกุมตัว นายณัฐวุฒิ หรือเอ็ม กีรติปาล อายุ 41 ปี ที่อยู่ 211/1 ต.ในเมือง อ. เมือง จ.ลำพูน พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 50 เม็ด ห่อด้วยถุงพลาสติกใส ลอยอยู่ในบ่อเกรอะของห้องน้ำด้านหลังห้องนอน และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า น้ำหนัก 8.02 กรัม พร้อมอาวุธปืนอัดลมยาว แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก และได้ทำการตรวจตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย ปรากฎให้ผลเป็นบวก พบสารเสพติดทั้ง 2 คน พร้อมทั้งได้แจ้งข้อหาให้กับ น.ส.สิริรัตน์ หรือเหมี๋ยว ทราบว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย

และได้แจ้งข้อหา นายณัฐวุฒิ หรือเอ็ม ทราบว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย เบื้องต้นทั้ง ทั้ง 2 คน ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งให้กับ พงส.สภ. นิคมอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป