รู้หรือไม่!! ผู้เสพยาบ้าติดคุกกว่า 2 แสนคน รัฐฯเทหมื่นล้านบำบัด

จากจุดเริ่มของ “กัลยาณี อร่ามเวชนันท์ ” ส่งลูกชายไปเรียนด้านเคมีที่ต่างประเทศ จบมานำความรู้มาปรุงสูตรแอมเฟตามีน เป็นรายแรกของประเทศไทย เมื่อปี 2530 ในบ้านเช่าแถวๆ ย่านบางกรวย นนทบุรี ซึ่งช่วงนั้น สูตรยาที่ใช้กับม้าแข่ง นิยมเรียกว่า ยาม้า ยังอนุญาตให้นำเข้ามาจำหน่ายและผลิตเป็นยาเพื่อสัตว์ได้ เมื่อคนกลุ่มหนึ่งทดลองชิมแล้วติดใจในความคึกคัก เหมือนม้าดีด โจษจันกันทั่วขายดิบขายดี กลายเป็นสารเสพติดต้องห้าม และถูกทลายแหล่งผลิตถูกจับทั้งครอบครัวในเวลาต่อมา แต่มีคนงานหลายคนหลบหนีไป ปรุงสูตรเป็นยาม้ายี่ห้อต่างๆ มากมาย ซึ่งดังสุดในขณะนั้นคือ สูตรท่านเปา
เดิมแหล่งผลิตปักหลักย่านใกล้กรุงและจังหวัดใกล้เคียง เมื่อถูกบุกจับ กดดันหนัก ทำให้กระจัดกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะภาคเหนือ และราวกลางปี 2538 ได้ขยายพื้นที่สู่ชายแดนพม่า เพื่อหนีการจับกุม เมื่อตลาดขยายตัวทำให้ กลุ่มที่เคยร่วมโรงงาน หันมาแยกกันตั้งโรงงานผลิต ทั้งกลุ่มขุนส่า ,กลุ่มเว่ย เซียะกัง,และกลุ่มว้าแดง ต่อมาช่วง 19 ก.ค. 2539 รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวของพร้อมใจผลักดันเปลี่ยนชื่อ”ยาม้าเป็นยาบ้า” เพราะกินแล้วบ้าทั้งบ้าน ทั้งเมือง เปิดยุทธการทำลายล้างอย่างหนัก เนื่องจากพบว่า ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา คนไทยเสพยาบ้ากว่า 120 ล้านเม็ดต่อปี
สถานการณ์ยาเสพติด ที่เคยมี เฮโรอีน กัญชา เป็นปัญหาใหญ่ มียาบ้า และยาไอซ์ เข้ามาในตลาด ซึ่งภาคเหนือจะเป็นเส้นทางลำเลียง แหล่งพักยา รอส่งสินค้าไปตามภาคอื่นๆในเขตที่มีความต้องการเสพย์สูง ทั้งภาคกลาง, ภาคใต้,ภาคอีสาน เนื่องจากมีกลุ่มแรงงาน โรงงาน จำนวนมาก และกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมเสพย์ยาจากการผลิต ลำเลียงผ่านจุดสกัด มีการตรวจค้น ตรวจจับได้จากหลักพัน และหลักหมื่น เริ่มทวีจำนวนเป็น แสนเป็นล้าน และหลายๆล้านเม็ด เพื่อทดแทนส่วนที่หายไปจากตลาด
ปัจจุบัน กำลังการผลิตที่มีมากเกินไป และมาตรการป้องกัน ปราบปรามที่ดุดัน ทำให้ ผู้ค้า ผู้เสพย์หวั่นหวาด อีกทั้ง ยาเสพติดอื่นๆ ในตลาดไม่ว่าจะเครื่องดื่มสูตรพิสดาร เพื่อความเมา หาง่ายกว่าแอบลักลอบ ซื้อหายาเสพติดในราคาที่แพงเกินไป ส่งผลให้ราคายาบ้าในตลาดทั่วประเทศ เริ่มตกต่ำ ราคาเฉลี่ยภาพรวมระดับภาค ยาบ้า เม็ดละ 80 – 200 บาท (เฉลี่ยเม็ดละ 150 บาท) มัดละ 110,000 – 130,000 บาท กัญชาแห้ง ห่อละ 100-500 บาท กก.ละ 15,000 – 18,000 บาท ยาไอซ์ ตักละ 300-500 บาท จีละ 1,500 – 2,500 บาท ขีดละ 110,000 บาท พืชกระท่อม เฉลี่ย ใบละ 2 – 5 บาท กำละ 100 บาท (20-30 ใบ) ขายส่ง กก.ละ 400-1,000 บาท
มูลฐานความผิดกำหนดการครอบครองมากกว่า 15 เม็ด รับโทษเท่าผู้ค้าก่อภาวะ นักโทษยาเสพติดแน่นคุกเพิ่มสูงทุกปี จากนักโทษทุกเรือนจำที่คุมขัง 3 55,543 คน ในปีนี้ มีผู้ต้องขังคดียา 287,601 คน กระบวนการบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยา ปัจจุบันมีผู้เสพยากว่า 1.2 ล้านราย ซึ่งคาดว่าจะ เข้าสู่ระบบ บังคับบำบัด 5 – 6 แสนคน และต้องใช้งบบำบัดผู้ติดยาปีละกว่า หมื่นล้านบาท
นโยบาย บำบัด ผู้ติดยา คืนสู่สังคมนั้น นั้นเป็นเรื่องดี น่าอนุโมทนา มี 187 รายรอประหาร นักโทษค้ายา ขั้นเด็ดขาด ฆ่าผู้อื่นตายเพราะเมายา อยู่ดูแลกว่า 2 แสนแน่นคุก ใช้สิทธิความเป็นนักโทษอย่างจุใจ ในขณะที่ผู้คนในสังคมต้องดิ้นรน สู้เพื่อให้อยู่รอด งบดูแล พวกค้ายา ติดยาเหล่านี้ เอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นจะดีกว่ามั๊ย!!! และราคายาบ้าที่ถูกลงคงได้บ้ากันใหญ่แน่!!

ร่วมแสดงความคิดเห็น