นกปีกแพรสีเขียว (Green Cochoa)

“นกปีกแพรสีเขียว (Green Cochoa)” อาศัยอยู่ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ จัดเป็นนกที่พบเห็นได้ยาก เพราะกำลังจะสูญพันธ์แล้ว

วอนทุกคน ทั้งคนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว ช่วยกันดูแลและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของเชียงใหม่ที่เรารักด้วย

“นกปีกแพรสีเขียว (Green Cochoa)” อาศัยอยู่ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นนกที่พบเห็นได้ยาก เพราะกำลังจะสูญพันธ์แล้ว วอนทุกคนทั้งคนเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว ช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติของเชียงใหม่ด้วย

ประวัติ

นกปีกแพร แตกแขนงออกมาเป็นกลุ่มแรกๆในสายวิวัฒนาการของ “นกเดินดง (Thrush) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นญาติห่างๆของนกเขนและนกจับแมลง แต่นกปีกแพรดูต่างจากญาติๆของมัน เพราะมันมีลำตัวที่อวบหนา คอยาว และหัวค่อนข้างเล็กหลิมเมื่อเทียบกับลำตัว บ้างว่าทรวดทรงของนกปีกแพรดูเผินๆคล้าย “นกเขา (Dove) มากที่สุด มิหนำซ้ำ มันยังชอบเกาะกิ่งไม้สูงๆ ด้วยลำตัวค่อนข้างตั้งตรงนิ่งๆเป็นเวลานานเหมือนพวกนกเขาที่อาศัยอยู่ในป่าด้วย

ลักษณะทางกายภาพ

ลำตัวสีเขียวของนกปีกแพรชนิดนี้ ช่วยให้มันดูกลมกลืนไปกับใบไม้ แถบปีกและหางสีฟ้าเงินของมันจึงมักเป็นลักษณะเด่นที่สะดุดตามากกว่าอย่างอื่น ปลายขนปีกและหางมีสีดำ หัวเป็นสีฟ้า คอเป็นสีเขียวเข้มเช่นเดียวกับลำตัว และมีแถบคิ้วสีดำ นกตัวเมียต่างจากตัวผู้ตรงที่มีปื้นสีน้ำตาลที่ปีกด้วย ส่วนนกวัยขวบปีแรกมีแถบกว้างสีขาวที่ข้างคอ และมีคอเป็นสีออกน้ำตาลอมเขียว นกวัยเด็กมีลำตัวสีน้ำตาลอ่อนและมีขอบขนเป็นสีดำ ทำให้เห็นเป็นลายเกล็ดทั่วทั้งตัว แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์แถบปีกสีเงินคาดดำคล้ายตัวเต็มวัย

ที่อยู่อาศัย

ตามปกติแล้ว นกปีกแพรสีเขียว จะอาศัยอยู่ตามป่าดิบที่ระดับความสูงตั้งแต่ 700 เมตรจากน้ำทะเล พบได้ทางตอนเหนือของอินเดียและตอนใต้ของจีน รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านเราในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นมาเลเซีย ในบ้านเรา มีสถานะเป็นนกที่มีประชากรไม่มากตามป่าดิบเขาหลายแห่งทางตอนเหนือของประเทศ และเขาสอยดาวใต้ จ.จันทบุรี ด้วยความที่พวกมันเป็นนกที่ชอบเกาะนิ่งและกลืมกลืนจนสังเกตได้ยาก จึงต้องอาศัยการฟังเสียงร้องคล้ายเสียงผิวปากเบาๆแต่ลากยาวของมันในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พอจะช่วยบอกตำแหน่งที่มันแอบเกาะร้องได้

อาหาร

นกปีกแพร โปรดปรานการกินผลไม้เช่นเดียวกับนกเดินดงและนกเขาบางชนิด แต่พวกมันไม่เดินหากินตามพื้นเหมือนนกเดินดง นอกจากช่วงที่ต้องจับสัตว์เล็กๆตามพื้นดินมาเป็นอาหารให้ลูกอ่อน

รูปภาพ Mark King

ข้อมูล http://oknation.nationtv.tv/blog/plains-wanderer/2010/07/24/entry-1

ร่วมแสดงความคิดเห็น