รวบทันควัน ฝรั่งมือบอน ใช้สีสเปรย์พ่นกำแพงโบราณสถานเมืองเชียงใหม่ ตร.ดำเนินคดีหนัก จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเป็นล้าน!!

จากกรณีที่ได้มีนักท่องเที่ยวก่อเหตุใช้สีสเปรย์พ่นกำแพงเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่โบราณสถานเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณข่วงประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึก เวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 18 ต.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีกล้องวงจรปิดจากร้านกาแฟที่อยู่บริเวณตรงข้ามจุดเกิดเหตุสามารถบันทึกภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวที่ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน และได้มีการนำคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อว่าถึงการกระทำของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ และจากการตรวจสอบทราบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้มีการพ่นสเปรย์คำว่า “SCOUSER LEE” และมี B ต่อท้าย จนในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุไปทำการตรวจสอบ และรวบรวมเบาะแสติดตามตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาดำเนินคดี ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด ในวันเดียวกันนี้ เมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่าทาง พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมือง เชียงใหม่ พร้อมด้วยพ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.สภ.เมือง เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมกันจับกุมตัว MR. FURLONG LEE อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ และ MRS.BRITTNEY LORRETTA KATHERINE SCHNEIDER อายุ 23 ปี สัญชาติแคนนาดา ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ก่อเหตุใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นกำแพงเมือง โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณเกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งย่านถนนกำแพงดิน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยจากการสอบถามผู้ต้องหาในเบื้องต้นได้รับสารภาพว่า เหตุเกิดช่วงเช้าที่ผ่านมาประมาณ 04.00 น. ซึ่งตนพร้อมกลุ่มเพื่อนได้ไปท่อวเที่ยว และดื่มกินตามร้านอาหารจนเกิดอาการมึนเมา โดยระหว่างเดินกลับที่พัก ได้เจอกระป๋องสเปรย์วางอยู่จึงเกิดความคึกคะนอง และได้นำไปพ่นที่กำแพง เป็นคำว่า SCOUSER LEE ซึ่งเป็นศัพท์แสลงภาษาอังกฤษ หมายถึงคนพื้นถิ่นที่มาจากเมืองลิเวอร์พูล จนกระทั่งมีรถ ตุ๊ก ตุ๊ก คันหนึ่งขับผ่านมาพบเจอ แล้วได้มีการพูดคุยไม่ให้กระทำการในลักษณะดังกล่าวตนจึงหยุดและได้ทิ้งกระป๋องสเปรย์ไว้แล้วเดินกลับที่พัก จากนั้นในเวลาต่อมาก็มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาจับกุมตัวได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 32 ผู้ใดบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเพื่อนในกลุ่มอีก 2 คนที่อยู่ด้วยกันนั้นได้ให้การว่าไม่ได้เป็นคนใช้สีสเปรย์พ่น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการนำตัวลงบันทึกประวัติและได้ปล่อยตัวไป ซึ่งถือเป็นการดำเนินคดีตามหลักฐานที่ปรากฎ

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในการดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ได้มีการดำเนินคดีจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะถือเป็นโบราณสถานที่เข้าข่ายในการทำลายและทำให้เสื่อมค่า ซึ่งถือเป็นโทษที่หนักกว่าการกระทำโดยทั่วไป ซึ่งหากเป็นการนำสีสเปรย์ไปพ่นตามกำแพง หรือบ้านเรือนก็จะเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ธรรมดา แต่กรณีดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำกับโบราณสถานที่มีการขึ้นทะเบียนไว้ จึงมีความผิดอีกข้อหาหนึ่งที่มีโทษหนักกว่า โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาก็ได้ให้การรับสารภาพว่าทำไปด้วยความคึกคะนองประกอบกับมีอาการมึนเมาสุรา ส่วนคำที่ผู้ต้องหาได้พ่นลงไปบนกำแพงคือ “SCOUSER LEE” และมี B ต่อท้าย โดยคำว่า SCOUSER มีความหมายคือคนที่เกิดในเมือง ลิเวอร์พูล ส่วนคำว่า LEE ก็คือชื่อของคนพ่น อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนนักท่องเที่ยวหรือประชาชนด้วยว่า หากไปเที่ยวตามสถานที่หรือต่างประเทศควรศึกษาข้อมูล ระเบียบต่างๆ รวมถึงวัฒนธรรมของแต่ละที่ที่ไปท่องเที่ยวเพราะหากกระทำผิดไปอาจส่งผลร้ายแรงได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น