แกนนำต้าน“ป่าแหว่ง”เชื่อถูกคุกคามหลัง ตร.บุกค้นบ้านกรณีป้ายลึกลับ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าจากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นำหมายเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ของนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ซึ่งเป็นแกนนำที่เคลื่อนไหวคัดค้านโครงการบ้านข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 หรือ “บ้านป่าแหว่ง” โดยการเข้าตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ช่วงสัปดาห์ที่แล้วมีการพบว่ามีการนำป้ายที่มีการเปิดเผยรายชื่อของข้าราชการตุลาการที่พักอาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลัง ของโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไปติดตั้งไว้ที่บริเวณประตูช้างเผือก และประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้ไม่ทราบว่าผู้ใดนำไปติดตั้งไว้และตั้งแต่เมื่อใด อย่างไรก็ตามต่อมามีแนวร่วมของเครือข่ายที่ได้ถ่ายภาพป้ายดังกล่าวนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย จนถูกตรวจค้นบ้านพักและแจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งนำไปสู่การตรวจค้นบ้านพักของนายธีระศักดิ์ ในครั้งนี้

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 พ.ย.61) นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 13 พ.ย.61 ที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นาย ได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของตัวเองในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงระหว่างเวลาประมาณ 09.30-10.30 น. ซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องจากกรณีที่แนวร่วมของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพรายหนึ่งถูกตรวจค้นบ้านพัก และตรวจยึดอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง พร้อมถูกแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากการที่ถ่ายภาพป้ายดังกล่าวนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่จากศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งเป็นตัวแทนของข้าราชการตุลาการที่มีรายชื่อตามป้ายดังกล่าวเข้าแจ้งความดำเนินคดี โดยในการเข้าตรวจค้นบ้านพักของตัวเองนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของตัวเองไปตรวจสอบ แต่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ซึ่งตัวเองให้ความร่วมมืออย่างดีทุกอย่างและเชื่อมั่นว่าจะตรวจสอบไม่พบหลักฐานใดๆ เพราะตัวเองและเครือข่ายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นใดๆ ในเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ บอกว่า รู้สึกว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้เหมือเป็นความพยายามที่คุกคามประชาชน รวมทั้งเป็นเรื่องขัดแย้งกับหลักคุณธรรมและจริยธรรม จากการที่ผู้พิพากษากลุ่มหนึ่งเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับประชาชนในกรณีนี้ทั้งที่มีเพียงการโพสต์เรื่องราวลงในโซเชียลมีเดียเท่านั้นและเรื่องการรุกล้ำพื้นที่ป่าก็เป็นเรื่องจริงที่ผู้คนต่างทราบดี ขณะที่เมื่อคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้วผู้พิพากษาก็เป็นผู้พิจารณาตัดสินเอง ทั้งนี้ยืนยันว่าแม้จะถูกคุกคามในลักษณะดังกล่าวแต่ตัวเองและสมาชิกเครือข่ายทุกคนไม่มีความหวาดกลัว เสียกำลังใจ หรือท้อถอยในการต่อสู้เคลื่อนไหวอย่างแน่นอน โดยจะคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องต่อไปด้วยเป้าหมายเดียวเท่านั้นคือขอคืนพื้นที่ป่า

ร่วมแสดงความคิดเห็น