ขุนเขาป่าหิมพานต์แห่งล้านนา ดอยหลวงเชียงดาว

รางวัลตอบแทนที่ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายในการพิชิต ยอดเขาหินปูนที่สูงสุดในประเทศไทย “ดอยหลวงเชียงดาว”

ดอยหลวงเชียงดาว สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในสมัยโบราณดอยเชียงดาวเรียกว่า “ดอยอ่างสลุง” ซึ่งชาวล้านนาเชื่อกันตามตำนานเมืองเชียงใหม่ ว่าเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จมาพร้อม พระอรหันต์ 8 องค์ทรงลงสรงน้ำในสลุงทองคำ หรือ บริเวณอ่างสลุง บางคนเรียกว่า “ ดอยหลวง ” เนื่องจากเป็นดอย ที่มีขนาดสูงใหญ่ (“ หลวง ” หมายความว่า “ ใหญ่ ” ) เพี้ยนเป็น“ ดอยหลวงเพียงดาว ” จนกระทั่งกลายมาเป็น “ ดอยหลวงเชียงดาว ” หรือ “ ดอยเชียงดาว ”

ดอยหลวงเชียงดาว ที่อนุญาตให้ขึ้นมี 2 จุด คือ 1)ยอดดอยกิ่วลม ซึ่งเหมาะกับการ ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกยามเช้า 2) ดอยดอยหลวงเชียงดาว เหมาะสำหรับไปชมพระอาทิตย์ตกและพืชพันธุ์ไม้

“ข้อกำหนดในการเปิดเส้นทางเดินป่า ศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว” ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมธรรมชาติได้ทุกวัน ในปี 2560 ได้ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมได้เพียงเฉพาะวันศุกร์-เสาร์ (เดินทางกลับในวันอาทิตย์) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เท่านั้น คือในช่วงระหว่างวันที่ 3 พ.ย.2560 ถึง 11 ก.พ.2561

การเดินสู่ดอยหลวงเชียงดาวปีนี้ กำหนดใช้ “เส้นเด่นหญ้าขัด-อ่างสลุง” รถจะนำนักท่องเที่ยวไปส่งและรับกลับที่เด่นหญ้าขัด(หน่วยฯขุนห้วยแม่กอก) จุดเริ่มเดินเท้าระยะทาง 8.5 กม. การเดินเท้าเริ่ม จนถึงอ่างสลุงเป็นจุดพักแรม

จากวันที่ 1 พ.ย.2561 ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นดอยหลวงเชียงดาวมียอด 807 คน มีชาวไทย จำนวน 771 คน ชาวต่างชาติ จำนวน 36 คน ต่อวันละ 125 คน บนดอยที่มีความหลากหลายแห่งระบบนิเวศน์ โดยเฉพาะพืชพรรณเฉพาะถิ่น”กึ่งอัลไพน์” แห่งเดียวในไทย และยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ “กวางผา” ม้าเทวดา เป็นหนึ่งใน 15 สัตว์ป่าสงวนของไทย ที่อยู่ในระดับเสี่ยงสูญพันธุ์

ความประทับใจที่ต้องแลกมาด้วยพลังกายพลังใจ ด้วยการก้าวเดินสู่ยอดดอยหลวง ผ่านนักท่องเที่ยวที่บอกเล่าความรู้สึก…ดอยหลวงเชียงดาว…แห่งนี้

“สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการได้พิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว คือ การพิชิตใจตัวเอง ระยะทาง 8.5 กม. เป็นระยะทางที่ไกล เดินทางเหนื่อย ลำบาก ยากที่จะไปถึง แต่ระยะทางที่ยาวไกลนี้ทำให้เราได้รู้จักคำว่าเพื่อนแท้ในยามที่ลำบาก ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทางที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แม้ว่าการเดินทางจะเหนื่อยสักแค่ไหน เมื่อเทียบกับการได้ไปสัมผัสบรรยากาศของจุดสูงสุดของยอดดอยหลวงแล้ว เราจะหายเหนื่อยเลยทันที ”
ธีรภัทร ยาวิชัย

“การรอคอยคุ้มค่าเสมอ” เป็นประโยคที่สามารถพิสูจน์ได้ที่ดอยหลวงเชียงดาว ท้องฟ้าที่ถูกแสงอาทิตย์ย้อมจนกลายเป็นสีส้มตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า ก่อนที่สุดท้ายพระอาทิตย์จะค่อยๆเคลื่อนตัว ลงไปอยู่หลังภูเขา กลายเป็นความทรงจำในช่วงเลาสั้นๆ ที่มีค่ามากเป็นความสวยงาม ที่แลกมาด้วยความพยาม และการรอคอย

“นี่เป็นการเดินทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาวครั้งแรกกับไม้คู่หูของฉัน ตลอดการเดินทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ฉันได้มิตรภาพระหว่างการเดินทางอย่างมากมาย จากที่นี่ได้มีการพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่หลายวัย และให้กำลังใจกันว่าเราจะขึ้นไปถึงข้างบนยอดดอยหลวงเชียงดาวให้ได้ ถึงการพูดคุยเพียงเล็กน้อยระหว่างการเดินทาง แต่มันกลับทำให้ฉันได้รับกำลังใจในการเดินต่อไปให้ถึงยังจุดหมาย”
พิมพ์ลภัส โพธิ์งาม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โทรศัพท์ 053 456 623, 081 111 6203
สามารถจองได้ที่ทางเว็บไซต์ http://www.chiangdao-wildlife.com/

ร่วมแสดงความคิดเห็น