3 เทรนด์แรงแห่งวงการมือถือ

ทุกวันนี้ โลกไร้พรมแดนไม่ใช่เรื่องในจินตนาการอีกต่อไป เทคโนโลยีทางการสื่อสารไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์ มือถือ แท๊ปเล็ต ต่างก็เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตมนุษย์ 

ในปัจจุบัน อินเตอร์เน็ต (Internet) ได้ก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากเมื่อก่อนจะใช้ได้เฉพาะภายในสำนัก และองค์กรของรัฐเท่านั้น แต่ขณะนี้ อินเตอร์เน็ตหาได้ทั่ว ๆ ไป เพียงแค่มี เครื่องคอมพิวเตอร์ พีซี โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์ มือถือ แท๊ปเล็ต ที่พอจะมีประสิทธิ์ภาพในการรองรับการเชื่อมต่อ ก็สามารถเข้าสู่โลก ไซเบอร์ได้อย่างง่ายดาย ชีวิตในโลกไซเบอร์ ทุกคนล้วนมีสถานะอิสระ ได้เป็นเท่าที่ตัวเองต้องการ และอยู่บนพื้นฐานที่มีทั้งความเป็นจริง และ ความหลอกลวงปะปนอยู่ในนั้น และ ณ เวลานี้ เหมือนชีวิตประจำวันได้เชื่อมโยงกับไซเบอร์จนแทบจะแยกกันไม่ออก 

ซึ่งในปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือเอง ก็สามารถ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวก และ ง่ายดาย โดยเฉพาะวัยรุ่น ถึงแม้วัยรุ่นจะไม่สามารถหารายได้ด้วยตัวเอง หากมีผู้ปกครองสนับสนุนและพร้อมที่จะจ่ายให้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่อาจจะเพราะวิถีชีวิตในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปการทำมาหากินรีบเร่ง และไม่มีเวลาจะดูแล ครอบครัวด้วยตัวเองจึงทำให้ต้องพึ่งพาอุปกรณ์สื่อสารและเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเพื่อนทดแทน

ซึ่งหลายสิ่งที่กล่าวมาได้แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเข้ามาในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ต่างจากเมื่อก่อน เราใช้เพียงเพื่อโทรออกหรือรับสายเท่านั้น หรือส่งข้อความหาเพื่อนและคนรู้จัก แต่ตอนนี้ได้เพิ่มปัจจัยอื่นๆ แล้ว ในตะวันออกกลาง รูเล็ตเล่นออนไลน์ ในประเทศไทยคือการอ่านหนังสือ เล่นโซเชียล และซื้อตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่านมือถือ ซึ่งทำได้ง่ายๆ บนมือถือ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ความสำคัญของมือถือกับชีวิตของผู้คนในปัจจุบันนี้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้ โดยปริยาย วันนี้เราลองมาดูเทรนด์ในการใช้มือถือในโลกยุคไอที กันบ้างครับ ว่าเทรนด์แบบไหน ที่กำลังมาแรงในสังคมเมืองไทย

1.ซื้อของและรับจ่ายด้วย QR CODE กันทั่วไทย
การใช้มือถือจ่ายเงินได้ฮิตขึ้นมากในไทยด้วยระบบ QR Code ผู้ให้บริการหลักก็คือธนาคารทั้งหลาย รวมถึงบริษัทบัตรเครดิต ที่จะออกรหัส QR Code ให้ทางร้านค้าติดไว้ในร้านส่วนฝ่ายผู้ซื้อ ก็ต้องโหลดแอพฯ Mobile banking ของธนาคารที่ตัวเองมีบัญชีอยู่ จากนั้นเมื่ออยู่ในร้านแล้ว ก็สามารถเปิดมือถือ เปิดแอพฯ ของธนาคารนั้นๆ แล้วเล็งไปบนแผ่นป้ายเป็นการจ่ายเงินได้เลย

2.ปลดล็อคจอมือถือ และยืนยันตัวตนในแอพฯ และธุรกรรมต่างๆ ด้วยอวัยวะในร่างกาย (BIOMETRICS AUTHENTICATION)

เริ่มจากที่มือถือรุ่นใหม่ๆ ให้ปลดล็อคหน้าจอด้วยลายนิ้วมือ เพื่อความสะดวกไม่ต้องรูดปัดหน้าจอ และไม่ต้องจำไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน และเพื่อความปลอดภัยคนอื่นเข้าใช้มือถือเราไม่ได้ จากนั้นก็เริ่มมีมือถือบางรุ่นที่ให้ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า (Face ID) ได้ หรือไม่ก็ใช้ลักษณะม่านตา (IRIS Scan) ช่วยเพิ่มความสะดวกไปอีกขั้น โดยเฉพาะในเมืองหนาวที่คนส่วนใหญ่ต้องใส่ถุงมือจึงไม่สะดวกต่อการสแกนลายนิ้วมือ โดยรวมแล้วมือถือรุ่นใหม่ๆ และแอพใหม่ๆ ในปี 2018 นี้เป็นต้นไป น่าจะพากันรองรับการยืนยันตัวตนแบบ Biometric ในเรื่องต่างๆ มากมายและหลากหลายขึ้น

3.MOBILE A.I. (ARTIFICIAL INTELLIGENCE) หรือ MACHINE LEARNING สำหรับวงการมือถือแล้ว “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ A.I. คือการที่ระบบและแอพฯ ต่างๆจะช่วยเราทำทุกสิ่ง และจัดการทุกอย่างได้ “เป๊ะ” ขึ้น โดยออกแรงน้อยลง เสียเวลาน้อยลง ตัวอย่างเช่นเมื่อเราถ่ายรูปแล้วเลือกเซฟ เจ้าระบบ A.I. ในแอพฯ นั้นก็จะรู้เลยว่าในรูปนั้นมีเราอยู่ด้วย และมีน้องหมาด้วยหนึ่งตัว แล้วก็ถามเราว่าจะสร้างอัลบั้มน้องหมามาเก็บรูปนั้นมั้ย ? หรือจะเก็บไว้ในอัลบั้มเราเองเลย

A.I. ในมือถือไม่ได้มีแค่ในแอพฯ จัดการรูป แต่จะช่วยทั้งการรับคำสั่งด้วยเสียง โดยสามารถแยกแยะเสียงเราและเสียงคนอื่นๆ ได้หรือการแนะนำเพลงใหม่ๆ ที่เราน่าจะชอบ โดยดูจากเพลงเดิมๆ ที่เราชอบฟัง รวมถึงการปรับแต่งหน้าจอทั้งความสว่าง ไอคอน และสิ่งต่างๆ ให้เอง โดยดูจากพฤติกรรมการปรับของเราเป็นหลักนั่นเอง

ร่วมแสดงความคิดเห็น