มหามงคล 2 พระมหาธาตุเจดีย์ “นภเมทนีดล” – “นภพลภูมิสิริ”

ณ กิโลเมตรที่ 41.5 บนดอยอินทนนท์ เป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์อันยิ่งใหญ่สององค์ “พระมหาธาตุนภเมทนีดล” และ “พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ” พระมหาธาตุนี้มีความเป็นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2530 เนื่องในวาระที่กองทัพอากาศมีอายุครบ 72 ปี ในวันที่ 27 มีนาคม 2530 จวบกับวาระมหามงคลวโรกาสที่พระบามสเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบในวันที่ 5 ธันวาคมปีเดียวกัน ข้าราชการกองทัพอากาศโดย พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ได้เห็นพ้องกันว่า สมควรที่จะร่วมใจบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างอนุสสารณียวัตถุขึ้นเป็นที่ระลึกสาระสำคัญของกองทัพอากาศและเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลในศุภวาระมงคล

ซึ่งการร่วมใจบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างอนุสสารณียวัตถุใดที่จะให้เจริญพระราชกุศลอันยิ่งใหญ่ สมกับวาระมหามงคล คงจะไม่มีอื่นๆใดเทียบเท่ากับการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าการสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ บนยอดดอยอินทนนท์ ดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยจึงเริ่มขึ้น

“พระมหาธาตุนภเมทนีดล” พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนิน ในปีพ.ศ. 2531 มาทรงรับและทรงเปิดพระมหาสถูปเจดีย์ฯ ที่กองทัพอากาศครบ 12 ปี ร่วมใจสามัคคีบริจาคทรัพย์สร้างเป็นอนุสรณ์ น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล วโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2530 และพระราชทานชื่อพระมหาสถูปเจดีย์องค์นี้ว่า “พระมหาธาตุนภเมทนีดล” มีความหมายว่า “พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน”

พระมหาธาตุฯมีสัณฐานทรงระฆัง 8 เหลี่ยม บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของยอดพระมหาสถูปเจดีย์หรือยอดปลี เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่รับจากพระสังฆมหานายกะ สิริมัลวัตตะ อนันดา วัดมัลวัตตะ เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา ส่วนหนึ่ง และสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร อีกส่วนหนึ่ง ความหมายโดยรวมเกี่ยวกับพระมหาธาตุเกี่ยวกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ตลอดจนมีองค์ประกอบอื่นที่แสดงอดีตชาติและพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าโดยย่อ พร้อมทั้งแสดงรูปทรงเจดีย์และฐานให้มีรูปลักษณะหนักแน่นมั่นคงแข็งแรง มีท่วงท่าสง่าแบบทหารที่สงบนิ่ง ทั้งมีเครื่องหมายแสดงลักษณะผู้สร้างไว้ให้ปรากฏด้วย 

ทั้งนี้จึงได้ทำเป็นรูประฆังเหลี่ยมคว่ำ ให้หมายถึงความพากเพียรแสวงหาพระปรมัตถธรรมของพระพุทธเจ้าอันก้องกังสดาลพึงรับรู้กันทั่ว ปานประหนึ่งเสียงของระฆัง พื้นที่โดยรอบทั้งภายในและภายนอกพระมหาธาตุฯมีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพนูนต่ำศิลปะดินเผาด่านเกวียน ที่แสดงถึงเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า , ภาพศิลาจำหลักแบบนูนต่ำ แสดงพุทธประวัติ 4 ตอนสำคัญ คือ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน และประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพรนาม “พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์” มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าบรมศาสดา สร้างเป็นอนุสรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระชนมพรรษา 60”

“พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ” มีความหมายว่า “เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน” ซึ่งในปีพศ.2535 เป็นมหามงคล ด้วยวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2535 กองทัพอากาศตระหนักในพระจริยาวัตรของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอุตสาหะบำเพ็ญมาโดยต่อเนื่องนับแต่ได้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงความมุ่งมั่นแน่วแน่ในพระราชหฤทัยที่จะทรงจำเริญรอยพระยุคลบาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในอันที่จะอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทัยและพระราชทรัพย์ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาปรารถนา 

จึงได้ร่วมใจกันสร้างพระมหาธาตุเจดีย์น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล และเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์พระแม่เจ้าของชาวไทยทั้งปวงบนยอดดอยอินทนนท์ เพื่อเป็นปูชนียสถานสำคัญเคียงคู่พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล ให้ประชาชนที่มาเยี่ยมชมและสักการะ ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง ๒ พระองค์ ไว้ในความทรงจำชั่วนิรันดร์ องเจดีย์มีรูปทรงที่ละม้ายคล้ายคลึงกับองค์พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล มีรูปทรงสัณฐานเป็นรูป ๑๒ เหลี่ยม ที่ยอดปลีขององค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งบรรจุอยู่ในพระธาตุหริภุญชัยจำลอง โดยแยกบรรจุเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานให้ ส่วนที่ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้ ส่วนที่ รัฐบาลศรีลังกา มอบให้ และส่วนที่ ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้มีจิตศรัทธาร่วมอนุโมทนา 

ภายในโถงเจดีย์ของพระมหาธาตุเจดีย์ ตกแต่งด้วยภาพพระราชกรณียกิจ แกะสลักด้วยหินแกรนิตประดับไว้ที่ผนังตอนล่าง ส่วนผนังตอนบนประดับด้วยภาพพุทธประวัติทำด้วยโมเสกแก้ว ซึ่งจัดภาพและสีด้วยคอมพิวเตอร์สั่งทำจากประเทศอิตาลี และที่กลางโถงเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง ซึ่งเป็นพระประจำพระชนมวาร ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระพุทธรูปหินหยกสีขาวนาม “พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล” มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นสิริมงคลและทรงเจริญพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ร่วมแสดงความคิดเห็น