แกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เตรียมเดินทางรับทราบข้อกล่าวหา หลัง สนง.ศาลแจ้งความดำเนินคดี

แกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เตรียมเดินทางรับทราบข้อกล่าวหา หลัง สนง.ศาลแจ้งความดำเนินคดี พร้อมยืนยันที่จะต่อสู้ในกรอบของกฎหมาย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.61 ที่บริเวณด้านหน้อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมด้วยกลุ่มเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้เดินทางเพื่อมอบช่อดอกไม้และเข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้กำลังใจในฐานะตัวแทนที่จะเข้าร่วมประชุมร่วมกับคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งมี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นประธานการประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อสรุปในการรือย้านบ้านป่าแหว่งหรือไม่ โดยมี นายมนัส ขันใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนในการเข้าพบและพูดคุย พร้อมทั้งรับมอบช่อดอกไม้จากกลุ่มตัวแทนเครือข่ายในครั้งนี้ และในการนี้ยังได้รับฟังแถลงการณ์จากทางกลุ่มเครือข่ายที่ทางกลุ่มเครือข่ายได้เตรียมมายื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย

โดยทาง นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า การเดินทางมาในวันนี้ เพื่อต้องการที่จะมาให้กำลังใจกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมการชุดใหญ่ ในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งทางกลุ่มเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ มีความห่วงใยและอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นจบลงด้วยดี ภายหลังจากที่ได้มีมติกรรมการระดับจังหวัดเมื่อวันที่ 16 ส.ค.61 ที่ผ่านมา 3 ข้อ คือ ข้อแรกให้รื้อย้ายบ้านพัก 45 หลัง โดยเร่งด่วน ข้อที่สอง ให้รื้อย้ายในส่วนของอาคารชุด 9 หลัง และให้ผู้อาศัยในอาคารชุด 9 หลัง ย้ายไปนอกแนวเขตพิพาท หากไม่เพียงพอให้ย้ายเท่าที่จำเป็น และข้อที่สาม ให้ส่งมอบพื้นที่ให้แก่กรมธนารักษ์โดยเร็ว ซึ่งเป็นมติที่ได้มีการประชุมกันแล้วในระดับจังหวัด และอยากฝากข้อความดังกล่าวผ่านไปถึงคณะกรรมชุดใหญ่เพื่อให้รีบดำเนินการตามมติดังกล่าว

ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของกรณีที่มีแกนนำและอาสาสมัครหลายคนถูกทางสำนักงานศาลและทาง ผอ.สำนักงานศาล แจ้งความดำเนินคดี ตามที่ปรากฎไปนั้น ทางตนยังยืนยันว่ายังพยายามที่จะต่อสู้ในกรอบของกฎหมาย และในฐานะของผู้ที่ลุกขึ้นสู้เพื่อให้ได้ผืนป่ากลับคืนมา แต่ก็ต้องมาถูกแจ้งความดำเนินข้อหา ทำให้พวกเราจะต้องลงไป กทม. เพื่อไปสู้คดีและทำให้เกิดความรุ้สึกอึดอัดพอสมควร เนื่องจากผู้ที่แจ้งความนั้นคือทางสำนักงานศาลที่รู้อยู่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยทางสำนักงานศาลที่ กทม. ได้แจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน จำนวน 3 คดี โดยแบ่งเป็นคดีของตน 2 คดี และของ นายเรืองยศ สินธิโพธิ์ อีก 1 คดี ข้อหาเดียวกันคือหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

โดยจากการสอบถามทราบว่าน่าจะเป็นจากกรณีที่ตนให้สัมภาษณ์หลังจากที่ถูกค้นบ้าน และอีกกรณีคือวันที่มีการประชุมเครือข่าย และน่าจะเป็นข้อความที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ไป ซึ่งจะได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ที่ สน.พหลโยธิน เวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนทาง ผอ.สำนักงานศาลที่เชียงใหม่ ได้แจ้งความ นายเรืองยศ สินธิโพธิ์ อีก 1 คดี ข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และช่วงเช้าที่ผ่านมานี้ได้มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ร้านป้ายเพื่อที่จะเอาผิดกับพนักงานร้านป้ายอีก 2 คน ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเรื่องราวขึ้นทางตนยังคงยืนยันว่าจะต่อสู้ในฐานะประชาชนที่ลุกขึ้นมาทวงคืนผืนป่าเช่นเดิม

อย่างไรก็ตามภายหลังจากากรเข้าพบของทางกลุ่มเครือข่ายเสร็จแล้วนั้น ทางด้าน นายมนัส ขันใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าแจ้งให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับทราบ พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณในการที่ทางกลุ่มเครือข่ายได้นำช่อดอกไม้มาให้กำลังใจ โดยหลังจากนี้ก็ต้องให้เป็นไปตามการประชุมของทางคณะกรรมการชุดใหญ่ ในการพิจารณาดำเนินการต่อไป ก่อนที่ทางกลุ่มเครือข่ายจะแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยสถานการณ์เป็นไปอย่างปกติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น