โรงพยาบาลมะเร็ง ลำปาง เปิดบ้านให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็ง โครงการต่อต้านมะเร็งแห่งชาติ

โรงพยาบาลมะเร็ง ลำปาง เปิดบ้านให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็ง โครงการต่อต้านมะเร็งแห่งชาติ ลำปางยังพบอัตราการป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชายป่วยมะเร็งปอดสูงสุด ส่วนหญิงมะเร็งเต้านม

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.61 ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารังสีรักษา โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดโครงการต่อต้านมะเร็งแห่งชาติ โดยจัดกิจกรรม Open House บรรยายให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งกับประชาชน และให้เข้าเยี่ยมชมการทำงานด้านต่างๆภายในโรงพยาบาล โดยมีนายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผอ.โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง กล่าวต้อนรับ

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า โรงมะเร็งยังเป็นสาเหตุอันดับแรกจากการเสียชีวิตของคนไทย ด้วยอัตราการเสียชีวิตเท่ากับ 1 13.7 ต่อประชากร 100,000 ราย ในภาคเหนือพบผู้ป่วยทั้งหมดประมาณ16,860 รายต่อปี โรคมะเร็งพบมากในเพศชายมากกว่าหญิง ซึ่ง จ.ลำปาง ในเพศชายสูงสุดยังคงเป็นมะเร็งปอด ตามด้วยมะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับ ส่วนเพศหญิงอันดับแรกไม่พ้นมะเร็งเต้านม รองลงมาคือมะเร็งมากมดลูก และมะเร็งตับ ซึ่งการป่วยด้วยโรคมะเร็งยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มะเร็งตับ มะเร็งล่าไส้ตรง มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม การเปิดบ้านให้ความรู้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในครั้งนี้ มีความคาดหวังว่าจะช่วยให้ประชาชนได้ทราบถึงการเกิดมะเร็งในลักษณะต่างๆ และเข้าใจในการป้องกันโรคมะเร็งได้มากขึ้น เพื่อลดอัตราการป่วยได้ไม่มากก็น้อย

ด้านนายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผอ.โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งระดับตติยภูมิให้บริการวินิจฉัย รักษา และงานส่งต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งในเขตภาคเหนือ สามารถให้บริการครบวงจรทุกมิติของการรักษาโรคมะเร็ง ทั้งการฉายแสง การให้ยาเคมี บำบัด การผ่าตัด เวชศาสตร์นิวเคลียร์ และการรักษาแบบประคับประคอง

โดยจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลมะเร็งลำปางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในปี 2560 มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ทั้งหมด 2,290 รายต่อปี แยกเป็นเพศชายจำนวน 876 ราย (ร้อยละ 38.3) เพศหญิงจำนวน 1,414 ราย (ร้อยละ 61.7) สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมากที่สุดคือ 629 ราย รองลงมาได้แก่ มะเร็งปอด 327 ราย มะเร็งลาไส้ใหญ่และทวารหนัก 228 ราย มะเร็งปากมดลูก 168 ราย และมะเร็งตับและท่อน้ำดี 116 รายตามลำดับ ส่วนใหญ่มีภูมิลาเนาในจังหวัดลำปาง รองลงมาได้แก่ เชียงราย แพร่ พะเขา และน่าน ตามลำดับ ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่มารับบริการรังสีรักษาร้อยละ 44 (ผู้ป่วยมะเร็งรังสีรักษาปี 2560 จำนวน 1007 ราย)

ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งมีความก้าวหน้าทั้งเทคโนโลยีและยาที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง แนวโน้มของอัตรารอดชีพโรคมะเร็งดีขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและชนิดของโรคมะเร็ง โดยพบว่าโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่ปัจจุบันสามารถรักษาหายขาดได้ หลังการวินิจฉัยมากกว่าร้อยละ 70 โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในระยะแรก อัตรารอดชีพที่ 5 ปี มีมากกว่าร้อยละ 95 แต่โรคมะเร็งปอด และมะเร็งตับ ยังเป็นโรคมะเร็งที่มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ การอยู่รอดของผู้ป่วยมะเร็งที่ 5 ปี หลังการวินิจฉันเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น เนื่องจากเป็นมะเร็งที่มักตรวจพบในระยะลุกลาม

ผอ.โรงพยาบาลมะเร็ง ลำปาง กล่าวว่า การป้องกันโรคมะเร็ง มีหลักการง่ายๆ คือ 5 ทำ 5 ไม่ โดยกิจกรรมที่การท้า “5 ทำ” ได้แก่ 1.ออกกำลังกายประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้งๆ ละไม่ตากว่า 30 นาที 2.ท่าจิตแจ่มใส 3.กินผักผลไม้สดให้ได้วันละครึ่งกิโลกรัม เพราะมีสารต้านมะเร็งเขน วิตามินเอ เบต้าแคโรทีนใยอาหารทำให้ระบบขับถ่ายดี 4 กินอาหารให้หลากหลาย ใหม่สด สะอาด ปราศจากเชื้อรา ลด อาหารที่มีไขมันสูง อาหารปิ้งย่าง ทอดไหม้เกรียม หม้าดองเค็ม และ 5.ตรวจร่างกายเป็นประจำ

สิ่งที่ไม่ควรทำมี “5 ไม่” คือ 1 ไม่สูบบุหรี่ 2.ไม่มัวเซ็กซ์ 3.ไม่ดื่มสุรา โดยผู้ที่ดื่มสุรามากกว่าวันละ 3 แก้ว จะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง 9 เท่าของคนไม่ดื่ม 4ไม่ตากแดดจ้า และ 5.ไม่กินปลาน้ำจืดดิบๆที่มีเกล็ด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสังเกตสัญญาณผิดปกติ สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งมี “7 สัญญาณอันตราย” ได้แก่ 1.มีเลือดออก หรือมีสิ่งขับออกจากร่างกายผิดปกติ เช่น ตกขาวมากเกินไป 2.มีก้อนเนื้อ หรือตุ่มเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งของร่างกาย และก้อนโตเร็ว 3.มีแผลเรื้อรังรักษาหายยาก 4.ถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะผิดปกติ หรือเปลี่ยนไปจากเดิม 5.เสียงแหบ หรือไอเรื้อรัง 6.กลืนอาหารลำบาก หรือทานอาหารแล้วไม่ย่อย และ 7.มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝ หากมีอาการเหล่านี้ขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว