110 ปี อำเภอเชียงดาว

หากจะกล่าวถึงอำเภอเชียงดาว ถือได้ว่าเป็นอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่ง ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเส้นทางจากเชียงใหม่ไปอำเภอฝาง เชียงดาวมีความพิเศษและมหัศจรรย์ของแหล่งท่องเที่ยวหลายอย่าง แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนทั้งในและต่างจังหวัดเดินทางมาเยือนไม่ขาดสายได้แก่ ถ้ำเชียงดาว และดอยหลวงเชียงดาว โดยเฉพาะดอยหลวงเชียงดาวนับว่าเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยรองจากยอดดอยอินทนนท์ และดอยผ้าห่มปก ซึ่งมีความสูง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเล

ดอยหลวงเชียงดาว ในอดีตเรียกว่า ดอยหลวงเปียงดาว หรือดอยเพียงดาว ภูเขาที่มีความสูงเพียงดาวบนฟากฟ้า ยามค่ำคืนไร้จันทร์แสงดาวจะส่องประกายระยับอยู่เบื้องบน แสงสว่างสุกใสราวกับอยู่ใกล้เพียงแค่มือเอื้อม นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติของดอยหลวงเชียงดาวแล้ว บริเวณอำเภอเชียงดาวและเขตดอยหลวงยังมีเรื่องราวตำนานลี้ลับ จนได้ชื่อว่าเป็น “ขุนเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์” นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชป่าและสัตว์ป่าที่หายากใกล้สูญพันธุ์

ความศักดิ์สิทธิ์ของดอยหลวงเชียงดาว มีตำนานเล่าขานเรื่องราวหลากหลายไม่ว่าจะเป็นตำนานเจ้าหลวงคำแดงที่โปรดปรานการเที่ยวป่าล่าสัตว์ในแถบสบคาบแม่นะ เทือกดอยเชียงดาวจนถึงถ้ำเชียงดาว กระทั่งเป็นที่มาของตำนานรักระหว่างเจ้าหลวงคำแดงกับนางอินทร์เหลา

ตำนานของดอยหลวงหรือดอยอ่างสลุง (อ่านว่าสรง) กล่าวไว้ว่าในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับที่ดอยหลวงและทรงสรงน้ำในอ่างเชิงเขานี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ดอยอ่างสลุง” ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ดอยหลวงเชียงดาว”

มีนิยายปรัมปราเกี่ยวกับ “ถ้ำเชียงดาว” ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ครั้งอดีตสมัยเมืองพะเยารุ่งเรืองอำนาจ เจ้าผู้ครองนครพระนามว่า “เจ้าหลวงคำแดง” พระองค์โปรดการเสด็จประพาสป่าล่าสัตว์ ครั้งหนึ่งได้เสด็จไล่ตามจับกวางงามตัวหนึ่ง พระองค์พยายามควบม้าไล่ ตามอย่างกระชั้นชิดแต่ก็หาทันไม่ กวางได้วิ่งหนีไปจนถึงเชิงดอยอ่างสลุงและหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในถ้ำเชิงเขา เจ้าหลวงพยายามจะตามจับให้ได้ ลงจากหลังม้าแล้วทรงวิ่งตามกวางเข้าไปในถ้ำ 

ส่วนไพรพลสุดที่จะทัดทานได้และวิ่งตามไม่ทัน เจ้าหลวงคำแดงเข้าไปเที่ยวหากวางในถ้ำแต่ไม่พบ พบแต่สาวงามผู้หนึ่งได้สนทนากันจนเป็นที่พอพระทัย ได้ทรงทราบความจากสาวงามชื่อ “อินทร์เหลา” ว่านางถูกสาปให้มาอยู่ในถ้ำนี้ ถ้าออกนอกถ้ำจะกลายร่างเป็นกวางทันที เจ้าหลวงได้ทรงทราบมีความสงสารและเกิดความเสน่หาได้อยู่กินกับนางกวางในถ้ำ นั้นตลอดมา 

โดยไม่ยอมกลับไปบ้านเมือง แม้พวกข้าราชบริพารจะมาเชิญให้กลับก็ไม่ยอม พระองค์จะพานางไปอยู่ในเมืองก็ไม่ได้ เพราะนางจะกลายร่างเป็นกวาง ฉะนั้นพระองค์จึงตัดสินพระทัยอยู่กินกับนางจนตลอดชีวิต ชาวบ้านยังคงมีเชื่อว่าวิญญาณของเจ้าหลวงคำแดงกับนางอินทร์เหลายังคงสิงสถิตอยู่ในถ้ำเชียงดาวและบริเวณดอยหลวงมาจนทุกวันนี้

ดอยหลวงเชียงดาว อ่างสลุง ถ้ำเชียงดาว ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อความเชื่อของคนในท้องถิ่น ซึ่งแสดงออกได้จากการกระทำพิธีทำบุญของคนพื้นเมืองไม่ว่าจะเป็นที่วัดถ้ำเชียงดาว วัดถ้ำปากเปียงและวัดถ้ำผาปล่อง 

คนท้องถิ่นมักมองดอยหลวงเชียงดาวเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณค่าทางใจ เช่นบริเวณอ่างสลุง มีน้ำฝนตกลงมาไหลรวมกัน ทุก ๆ ปีทางสำนักพระราชวัง พระราชพิธีหรือพิธีกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ก็จะเอาน้ำจากที่แห่งนี้ไปประกอบพิธีกรรม คนท้องถิ่นเชียงดาวเชื่อว่า บริเวณดังกล่าวเป็นที่สิงสถิตย์ของเจ้าหลวงคำแดง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นเจ้าแห่งภูตผีทั้งหลายที่คนล้านนานับถือ

บทความโดย
จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น