ย้อนรอยสยบจอมเผด็จการอิรัก “ซัดดัม ฮุสเซน”

 อดีตผู้นำจอมเผด็จการรายนี้เคยเป็นผู้นำพรรคบะอัธซึ่งเป็นพรรคการเมืองหัวปฏิวัติของอิรักได้มีบทบาทสำคัญในการก่อรัฐประหารในปีพ.ศ.2511โดยซัดดัมได้จัดตั้งกองกำลังรักษาความมั่นคงเพื่ออุดหนุนอำนาจของเขาในการควบคุมรัฐบาลอิรักไว้ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970ราคาน้ำมันปิโตรเลียมที่พุ่งสูงขึ้นได้ช่วยให้เศรษฐกิจอิรักเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากและในอัตราที่สม่ำเสมอในฐานะประธานาธิบดี ซัดดัมได้พัฒนาลัทธินิยมตัวผู้นำอย่างบ้าคลั่งปกครองรัฐบาลเผด็จการ และกุมอำนาจไว้ได้ในช่วงสงครามอิรัก-อิหร่าน (ระหว่างปี พ.ศ.2523 – 2531) ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย (พ.ศ. 2534) ซึ่งทำให้อิรักทรุดโทรม ทำลายทั้งมาตรฐานการครองชีพและสิทธิมนุษยชนรัฐบาลของซัดดัมได้จัดการกับการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคามโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพวกชนกลุ่มน้อย หรือกลุ่มทางศาสนาที่ต้องการเรียกร้องอิสรภาพหรือการปกครองตนเอง

ในระหว่างที่ยังคงเป็นวีรบุรุษที่ประชาชนชื่นชมโดดเด่นในหมู่ผู้นำอาหรับอื่นๆ ในฐานะผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้านสหรัฐฯและให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ภายหลังสงครามอ่าวเปอร์เซีย สหรัฐอเมริกาและชาติอื่นๆ ในประชาคมโลกยังคงเฝ้าระวังจับตามองซัดดัมด้วยความหวาดระแวงว่ามีอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงไว้ในครอบครองก่อนที่จะถูกถอดถอนโดยสหรัฐและฝ่ายพันธมิตรในการบุกอิรักเมื่อปี พ.ศ. 2546 ในเวลาต่อมา

13 ธันวาคมพ.ศ. 2546 ซัดดัม ฮุสเซน (Suddam Hussain) อดีตประธานาธิบดีแห่งอีรักถูกจับกุมโดยกองทัพสหรัฐอเมริกาในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมขนาดเล็ก ในฟาร์มแห่งหนึ่งชานเมืองตีกรีตหลังจากที่จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศทำสงครามกับอีรักด้วยข้อกล่าวหาว่า ซัดดำมีอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงไว้ในครอบครองปกครองประเทศอย่างโหดเหี้ยมแต่หลังจากจับตัวซัดดัมได้แล้วก็ไม่พบอาวุธดังที่บุชกล่าวหาแต่อย่างใดหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าแท้จริงแล้วสงครามครั้งนี้อเมริกาต้องการน้ำมันในตะวันออกกลางต้องการแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร และต้องการโฆษณาอาวุธรุ่นใหม่แม้อเมริกาได้พยายามเข้าไปจัดการเลือกตั้งและยัดเยียดประชาธิปไตยให้อีรักแต่ในทุกวันนี้ก็ยังเกิดเหตุระเบิดและลอบฆ่าอยู่ทุกวัน

ขอบคุณภาพจาก https://www.unilad.co.uk/

ร่วมแสดงความคิดเห็น