“3 ตำนานผีล้านนา” ที่อ่านแล้วต้องขนลุก!!

ตำนานนิทานเรื่องเล่าขานในภาคเหนือของเรานั้นมีมากมายหลายเรื่อง ที่เป็นความเชื่อ และให้คติสอนใจ บ้างก็เป็นตำนานที่บอกความเป็นมาจากปากต่อปากเล่าขานกันมา บ้างก็หายไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังมีนิทานที่ยังคงเล่าขานมาถึงปัจจุบัน

ซึ่งวันนี้ทาง “เชียงใหม่นิวส์” ขอเสนอตำนานที่น่าสยองของพื้นบ้านล้านนา จะมีตำนานอะไรบ้าง…เราคัดสรรมาให้ท่านอ่านดังต่อไปนี้

ผีม้าบ้อง

1.ผีม้าบ้อง

ในสมัยก่อนถ้าใครได้ยินเสียงม้าวิ่งในยามวิกาลจะต้องเกิดอาการผวา และเป็นอันเข้าใจโดยทั่วกันว่าเป็นเสียงของผีม้าบ้อง เชื่อกันว่า ผีม้าบ้องนี้เกิดจากม้าตัวหนึ่งที่ตายไปแล้ว ซึ่งที่มาของความเฮี้ยนนั้นมาจากการที่ก่อนที่ม้าตัวนี้จะตายนั้นตอนเล็กๆ เจ้าของได้เลี้ยงม้าไว้คู่หนึ่ง เวลาใดที่เจ้าของจะเดินทางก็จะต้องเอาม้าคู่นี้ไปด้วยจึงเกิดเป็นความรักความผูกพันธ์มากขึ้น

แต่อยู่มาวันหนึ่ง ม้าตัวหนึ่งเกิดล้มเจ็บไม่สามารถที่จะออกเดินทางไปกับเจ้าของได้ เจ้าของก็เลยทิ้งม้าตัวนี้ไว้ และนำอีกตัวหนึ่งไป ส่วนม้าตัวที่ล้มเจ็บนั้นก็นอนรอเพื่อนของมัน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเพื่อนของมันจะกลับมาหามันอีก ในที่สุดมันก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวจนกระทั่งมันได้ตายไป เมื่อตายไปแล้ววิญญาณของม้าก็ยังทว่ายังมีความห่วงหาอาลัยถึงคู่ของมันอยู่ นั่นทำให้เมื่อถึงเวลากลางคืนม้าตัวนี้จะออกวิ่งเที่ยวหาคู่ของมัน เมื่อถึงเวลากลางคืนวิญญาณเฮี้ยนของม้าตัวนี้จะออกวิ่งไปตามที่ต่างๆ เพื่อตามหาคู่ของมัน จนกระทั่งบัดนี้ มันก็วิ่งตามหาคู่ของมันอยู่ตราบจนถึงทุกวันนี้

ผีโพง

2.ผีโพง

เรื่องราวของ “ผีโพง” ได้ถูกเล่าขานต่อกันมาว่า เมื่อถึงหน้าฝน ฝนจะตกหนัก เมื่อน้ำนองเต็มท้องนาก็มีกบมีเขียดออกมาอยู่ตามที่มีน้ำ พอถึงเวลากลางคืน ตอนดึกๆ ลองออกมาดูอยู่แถวนอกชานบ้าน ส่องไปตามที่กลางทุ่ง ก็จะหันแสงไฟริบหรี่ๆ แดงๆ อยู่กลางทุ่งนั้นคือผีโพง มันออกหากินกบกินเขียด ผีโพงนั้นกลัวคน ไม่สู้หน้าคน เมื่อเราส่องดูมัน เราไม่เห็นว่ามันเป็นคนหรือว่ามันเป็นอะไร จะเห็นแต่แสงไฟ ถ้าดูไม่ดีจะเห็นแต่แสงเขียวเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวดับ

คนเมื่อก่อนเขาว่า “ผีโพง” ก็คือ คนเราธรรมดานี่แหละ แต่เขานั้นมีกรรมทำให้ต้องเป็นผีโพง คนที่เป็นผีโพงจะมีจะเหลืองซีด จมูกแดงขนาดผิดมนุษย์ ขนตาสั้น เวลาที่มันออกไปหากินมันก็ไม่รู้ตัว เขาว่าผีจะเข้าสิงมัน มันชอบกินของที่คาวๆ เมื่อมันจะกินกบกินเขียดมันก็จะจับขึ้นมาแล้วก็ดูดกินเลือดแล้วก็ละซากมันไว้ คนที่เป็นผีโพงเวลาที่มันจะออกหากินมันจะเอาไม้วางแทนตัวมัน ผีโพงที่เป็นผู้ชายเมื่อมันออกจากบ้านยามค่ำคืน เมียมันก็จะไม่รู้ หากถึงตอนเช้าก็จะมีกบมีเขียดตายอยู่ตามประตูบ้านเรือน เสื้อก็จะเป็นแต่ดินโคลน ผีโพงนี้สืบต่อกันไปจนถึงลูกถึงหลาน เขาว่าถ้าเห็นผีโพงห้ามส่งเสียงดัง ไม่ อย่างนั้นมันจะเอาก้านกล้วยขว้างข้ามหลังคาบ้านเรา ทำให้เราเกิดอาการป่วยไข้ได้

ผีพราย

3.ผีพราย

จุดกำเนิดของผีตนนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีชายที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “พ่อหนานนวล” ได้มีอาการป่วยมาแล้วราวๆ 15 วัน อาการไม่ดีขึ้นเลยจนไม่สามารถลุกไปไหนได้ และมักชอบกินแต่ของดิบ เช่น ลาบ หลู้ ทำให้ญาติพี่น้องต้องลำบากใจอย่างยิ่ง ตอนกลางวันแกจะนอนซมตลอดไม่พูดอะไรเลย พอตอนกลางคืน พ่อหนานนวลมักจะทำอาการแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกญาติ พวกที่มาเฝ้าไข้เสมอ พอตอนดึกญาติพากันหลับแกจะลุกขึ้นมาเดินตามบ้าน บางครั้งก็ลงไปทางเล้าไก่เพื่อจะจับไก่กิน ถ้ามีคนใดคนหนึ่งเรียก แกก็จะล้มตัวลงนอนทันที จนญาติต้องหามไปนอนที่เดิม เป็นอยู่เช่นนั้นหลายสิบวัน จนต้องพึ่งหมอทางไสยศาสตร์มาทำพิธิไล่ผี (เรียกว่าตัดพราย) เมื่อเสร็จพิธีตัดพรายแล้วผีพรายก็จะออกจากร่างของคนป่วย คนป่วยก็จะตายทันที ทั้งนี้เพราะวิญญาณของคนป่วยนั้นได้ออกจากร่างคนป่วยไปนานแล้ว แต่ที่อยู่ได้นั้นเพราะวิญญาณของผีพรายนั่นเอง

จากตัวอย่างที่ได้กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของตำนานผีล้านนาของเรา ทั้งนี้เป็นความเชื่อที่เล่าขานต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนเรื่องที่ว่าผีมีอยู่จริงหรือไม่? อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน และไม่ควรลบหลู่ความเชื่อของผู้อื่นจะเป็นการดีที่สุด

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
ข้อมูลจาก : ฐานข้อมูลนิทานพื้นบ้านล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภาพจาก : www.saatchiart.com และ www.cluesarena.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น