กว่าจะบินได้ในวันนี้ วันนี้ในอดีตเมื่อคนบินได้ครั้งแรก!

ในอดีตการที่เราจะเดินทางไปที่ไหนสักที่ก็มีความยากลำบาก เนื่องจากการโดยสารนั้นไม่เอื้ออำนวยเท่าไร มนุษย์พัฒนามาใช้สัตว์เทียมเกวียนในการโดยสารแทนการเดิน จากนั้นพัฒนามาเป็นรถ เรือ จนไปถึงรถไฟในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม หลังจากนั้นโลกก็เข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งโลกได้กลายเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน ทำให้ได้มีการติดต่อธุรกิจกันข้ามโลก แต่สิ่งใดกันที่เป็นสิ่งสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปมาหาสู่ข้ามทวีปโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ นั่นก็คือ “เครื่องบิน” ซึ่งวันนี้ (17 ธันวาคม) เป็นวันที่ พี่น้องคู่หนึ่งได้สร้างความน่าอัศจรรย์ด้วยการสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ทำให้มนุษย์เดินทางไปในอากาศได้อย่างเรื่องปกติในปัจจุบัน เชียงใหม่นิวส์ ขอเสนอประวัติสองพี่น้องตระกูลไรต์ ผู้ก่อกำเนิดเครื่องบินให้ผู้อ่านได้รู้จักกัน

สองพี่น้องตระกูลไรท์ประกอบไปด้วย วิลเบอร์ ไรท์ เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1867 ที่เมืองมิลล์ วิลลี่ รัฐอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และออร์วิล ไรท์ เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1871 ที่เมืองเดยตัน รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกัน บิดาของเขาเป็นนักบวชชื่อว่า มิลตัน ไรท์ (Milton Writhe) ส่วนมารดาชื่อว่า ซูซาน ไรท์ (Susan Writhe) ทั้งสองได้รับการศึกษาเพียงแค่ชั้นมัธยมเท่านั้น หลังจากออกจากโรงเรียนแล้ววิลเบอร์ได้เปิดโรงพิมพ์ และร้านซ่อมจักรยานขึ้นที่ เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ และเมื่อออร์วิลเรียนจบก็ได้มาทำงานในร้านซ่อมจักรยานของวิลเบอร์ ทั้งสองมีความใฝ่ฝันที่จะบินอยู่ตลอด เวลา

ต่อมามีข่าวการทดลองเครื่องร่อนในเยอรมนี ของลิเลียนธาล แต่การบินครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ และทำให้ลิเลียนธาล ต้องเสียชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ยังมีความสนใจเรื่องการบินต่อไปพวกเขาเคยสร้างรถจักรยานที่มีปีกขนาดใหญ่ ติดเครื่องยนต์แต่บินไม่ได้ แต่ความฝันที่จะบินอยู่บนฟ้าเหมือนดังนกก็มีอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1900 พวกเขาตัดสินใจสร้างเครื่องบินลำแรก มีลักษณะคล้ายเครื่องร่อน ปีกทำด้วยผ้า เครื่องยนต์ ขนาด 12 แรงม้า สามารถบินได้ระยะสั้นๆ เพียง 1-2 นาที และไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ และทั้งสองก็สามารถพัฒนาปรับปรุงเครื่องบินพวกเขาเรื่อยมา ในปี ค.ศ. 1902 ก็ได้สร้างอุโมงค์ลมขึ้นเพื่อนความกดอากาศและเพิ่มหางเสือ ด้านหน้า ด้านหลังตัวเครื่อง ทดลองการบินอยู่ 39 วัน ทดลองบินกว่า 1,000 ครั้ง สามารถบินได้มากขึ้น จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1903 ทั้งสองก็สามารถพัฒนาเครื่องบินของพวกเขาได้สำเร็จ สามารถบินได้ถึง 15 วินาที บินได้ไกล 200 ฟุต สูงจากพื้นดิน 850 ฟุต ในปี ค.ศ. 1908 เครื่องบินก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีที่นั่งผู้โดยสาร เพิ่มขึ้นมา หนัก 322 ปอนด์ เครื่องยนต์ 20 แรงม้า บินได้ถึง 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในปี ค.ศ. 1909 ออร์วิล ก็บินข้ามช่องแคบอังกฤษได้ จนพวกเขาสามารถจดทะเบียนสิทธิบัตร เป็นผู้บุกเบิกพัฒนาเครื่องบินได้เจริญก้าวหน้าในการคมนาคมในปัจจุบันนี้
ในทุกวันนี้ เครื่องบินนับเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้แก่มนุษย์ชาติอย่างมหาศาล ทั้งการโดยสารและการติดต่อทางธุรกิจ คงจะไม่เป็นการกล่าวเกินจริงไปเลยว่าทั้งคู่นั้นทำให้นิยามที่เรียกว่า “โลกาภิวัตน์” สมบูรณ์แบบในที่สุด

ข้อมูลจาก : www.mgronline.com และ www.wikipedia.org
ภาพจาก : naphutsaporn22101.blogspot.com และ www.wikipedia.org

เรียบเรียงโดย นายธราดล วุฒิกรณ์ และ นายเรืองศักดิ์ จันทร์น้อย นักศึกษาฝึกประสบการณ์จากมหาวิทยาลัยนเรศวร