ชาวบ้านออกหา“เตา” หรือสาหร่ายน้ำจืด สีเขียว อาหารพื้นบ้านภาคเหนือจากแหล่งน้ำธรรมชาติ นำมาปรุงเป็นอาหาร และจำหน่ายสร้างรายได้

ชาวบ้านตำบลแม่ใส อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ออกหา“เตา” หรือสาหร่ายน้ำจืด สีเขียว อาหารพื้นบ้านภาคเหนือจากแหล่งน้ำธรรมชาติ นำมาปรุงเป็นอาหาร และจำหน่ายสร้างรายได้ โดยในแต่ละวันในช่วงนี้สามารถหาออกจำหน่าย ได้วันละ 300-500 บาท โดยที่คนเมืองเหนือนำมาทำเป็นเมนูอาหาร เช่น ตำเตา ยำเตา กินกับผัก สมุนไพรพื้นบ้านหลากหลายชนิด

ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลแม่ใส อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา กำลังออกหาเตา หรือสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่ง บริเวณหนองน้ำธรรมชาติ รอบกว๊านพะเยา ในพื้นที่ตำบลแม่ใส ซึ่งชาวบ้านจะพากันไปหาเก็บ เตา มาทำเป็นอาหาร และจำหน่าย โดยชาวบ้านบอกว่าเตา ก็คือสาหร่ายน้ำจืดสีเขียว เป็นเส้นเล็กๆสีเขียวสด และจะอยู่ในหนองน้ำหรือสระน้ำที่สะอาดน้ำนิ่ง อยู่ในน้ำไม่ลึก มองเห็นด้วยสายตา จะเกาะกุ่มกันก้อนๆ เตาที่ยังอ่อน จะลอยอยู่ใต้น้ำ สำหรับเตาแก่ ที่หมดอายุแล้วก็จะลอยตัวขึ้นเหนือน้ำ และไม่สามารถนำมาปรุงอาหารได้ ชาวบ้านก็จะใช้มือล้วงจับเอาเตา สีเขียว ที่อยู่ใต้น้ำ แล้วก็จะทำการล้างและเก็บเศษใบไม้ ใบหญ้า หรือสิ่งเจือปนในเตาออกให้หมด จนสะอาด เห็นเป็นเส้นเตาสีเขียวสด อุดมด้วยโปรตีน วิตามิน สารอาหารอีกเพียบ สาหร่ายเตา,สมัยก่อนเตาจะมีอยู่ในแหล่งน้ำจืดธรรมชาติที่สะอาด ร่มเย็น พอมีการใช้สารเคมีทางการเกษตรมากขึ้น “เตา” ก็หายไป กลายเป็นของหายาก

นาง เรือง อินปั๋น อายุ 74 ปี ชาวบ้าน ตำบลแม่ใส อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เล่าว่า เตาในลำห้วยที่น้ำไหลหายากแล้ว ต้องมาหาตามร่องน้ำรอบๆกว๊านพะเยา ซึ่งมีน้ำน้อยไม่ลึกสามารถ เก็บขายได้ ตนทำอาชีพนี้มากว่า 3 ปีแล้ว รายได้ดี เก็บเตาได้ วันละ 30-50 ห่อ ขายทั่วไปห่อละ 10 บาท และขายส่งให้แม่ค้า แต่ละวันจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 บาทใช้เวลาเก็บเตาในช่วงเช้าประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็นำขึ้นมา ล้างน้ำให้สะอาด ห่อใบตอง จนเสร็จแล้วก็จะไปส่งให้แม่ค้าไปขายที่ตลาด สำหรับการหา เตา จะหยุดเก็บเตาทุกวันพระ เพราะเชื่อว่าถ้าไม่หยุด เตาจะตาย และไม่มีให้เก็บอีก

ร่วมแสดงความคิดเห็น