ทวงถามความก้าวหน้า แผนเปิดด่านหลักแต่งเชียงใหม่

คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ จ.เชียงใหม่(กรอ.) หารือและ รับทราบรายงานการขับเคลื่อนด่านการค้าชายแดนเชียงใหม่ เมื่อเร็วๆนี้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเชียงใหม่มีชายแดนติดต่อ เมียนมา 5 อำเภอ (เวียงแหง,เชียงดาว,แม่อาย,ฝาง,ไชยปราการ) ระยะทางยาวกว่า 227กม. พื้นที่เป็นป่าไม้ และภูเขาทั้งหมด

มี 3 ช่องทางคือ ช่องทางบ้านสันต้นดู่ อ.แม่อาย จุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก อ.เชียงดาว,จุดผ่อนปรนบ้านหลักแต่ง อ.เวียงแหง ซึ่งเดิมที่หลักแต่งเคยเปิดเป็นจุดผ่อนปรนเมื่อ 2 พค.41 และระงับผ่านเข้า-ออกไปเมื่อ 10 เม.ย.45 มูลค่าการค้าเฉลี่ยปีละ 6.5 แสนบาท (ปี43-45 )

ส่วนด่านกิ่วผาวอก เปิดจุดผ่อนปรนเมื่อ 24 ตค.40 ปิดไปเมื่อ 10 เม.ย.45 สินค้านำเขาสำคัญผ่านเข้าออกคือ โค กระบือ น้ำยางรัก ส่วนส่งออกจะเป็น วัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง น้ำมันเชื้อเพลิง มูลค่าการค้าเฉลี่ยต่อปี 239.6 ล้านบาท (ปี 43-45 ) โดยเป็นนำเข้า 67.8 ล้านบาทและส่งออก 171.8 ล้านบาท

ในปี 2555 มีมติให้ สมช.รับไปพิจารณาเรื่องยกระดับจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก เป็นจุดผ่านแดนถาวร ต่อมา ปี56 มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อส่งเสริมการค้าและแนวทางแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมการวางแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเพื่อการท่องเที่ยว

ช่วง 12 สค.57 มีมติขอให้ทางการเมียนมา ยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านหลักแต่งเป็นจุดผ่านแดนถาวร และสมช.มีมติชลอแผน จากนั้นปี58 จังหวัดเสนอเรื่องไปยังมหาดไทย โดยระบุภาพรวมว่า สถานการณ์ยาเสพติด การลักลอบเข้าเมือง สิ่งของผิดกฎหมายไม่น่าเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ซึ่งทางกก.ล.ผาเมืองก็ขานรับตลอดจนภาคเอกชนทั้งฝ่ายไทย-เมียนมา

ทั้งนี้ผลศึกษาของมช.ยืนยันว่าด่านหลักแต่งมีศักยภาพสูงที่จะเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ 2 ประเทศ หากพัฒนาอย่างเหมาะสม สำหรับประเด็นชนกลุ่มน้อย ตรงข้ามด่านหลักแต่ง เป็นไทใหญ่ มีการสถาปนาเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับเชียงใหม่,ไทยแล้วจึงไม่เป็นข้ออ้างด้านความมั่นคงเช่นที่ผ่านๆมา

การเตรียมความพร้อมของเมียนมา เริ่มได้รับความร่วมมือจากชนกลุ่มน้อย ผลประชุมระดับผู้บริหารเมียนมาและ ไทใหญ่ ตกลงให้ไทใหญ่คุมพื้นที่ พัฒนาด้านทิศต.ตกของแม่น้ำสาละวิน ตรงข้าม อ.เวียงแหง ถึง แม่ฮ่องสอนได้

นอกจากนั้นยังมีการเร่งสร้างเมือง ตั้งส่วนราชการ ก่อสร้างถนน ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รองรับการเปิดด่านปรับปรุงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ก่อสร้างเส้นทางเมืองปั่น – แม่น้ำสาละวิน -เวียงแหง เรียบร้อย

ด้านกิ่วผาวอกนั้น ฝ่ายไทยพร้อมทุกด้าน แต่เมียนมากำลังหาข้อยุติกับกลุ่มว้า ในขณะที่ด่านบ้านสันต้นดู่ อ.แม่อาย ยังไม่มีความพร้อมควรยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนขึ้นมาก่อน ซึ่งกลุ่มว้าในพื้นที่เขตนี้ได้ข้อยุติจะร่วมมือกันพัฒนาแล้วกรอ.และคณะกรรมการร่วมภาครัฐ(กกร.)ในพื้นที่เชียงใหม่ ขานรับแนวทางการนำเสนอแก้ไขปัญหา เพื่อให้แผนงานก้าวหน้า ควรประสานก.พาณิชย์และก.ต่างประเทศ มาร่วมชี้แจง หารือ อุปสรรคปัญหาร่วมกัน จ.เชียงใหม่ควรมีคณะกก.รับผิดชอบการค้าชายแดนขึ้นมา อีกทั้งควรประสานงานทางหอการค้าตองยี เมียนมา เข้าร่วม เพราะเป็นกลไกสำคัญต่อระดับนโยบายของเมียนมา

จากการตรวจสอบมูลค่าการค้าชายแดนภาคเหนือ โดยรวมช่วงปี61 (มค.-พย.) พบว่า ยอดรวมการค้ากับเมียนมา 176,846.07 ล้านบาท โดยส่งออก 96,556.85 ล้านบาท ไทยได้ดุลการค้า และเป็นด่านหลักๆอาทิ แม่สาย,เชียงแสน ,แม่สอด ดังนั้นหากเปิดด่านเพิ่มในเชียงใหม่หรือแม่ฮ่องสอน โอกาสทางการค้าจะเพิ่มขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้อดีตรองปธ.หอการค้าชม.ฝ่ายการค้าชายแดน แสดงความคิดเห็นว่า สภาพสนามรบสิ้นสุด มีแต่สนามการค้าในวันที่โลกไร้พรมแดน ซึ่งการประชุมครม.สัญจร 14-15 ค.นี้ ที่ลำปาง และเชียงใหม่ ทางกรอ. ภาคส่วนต่างๆในเขตเหนือตอนบน 1 รวมถึงเชียงใหม่ควรทวงถามความก้าวหน้าในเรื่องนี้โดยเฉพาะประเด็นในแผนพัฒนาฯ ฉบับ 12 กรอบพัฒนาภาคเหนือระหว่าง2560-64 ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น