เหยื่อถูกยักยอกเงินในบัญชี โผล่อีกหลายราย ลูกค้าธนาคารร้องไห้โฮ ยังไม่ได้เงินคืน

เหยื่อถูกยักยอกเงินในบัญชีโผล่อีกหลายราย แต่มีรายหนึ่งยังไม่ได้เงินชดใช้แต่อย่างใด ขณะที่ธนาคารร่อนหนังสือขอโทษ และอ้างจะชดใช้เงินให้ทุกราย แต่ไม่ยอมบอกกับลูกค้าว่าจะหาคนผิดมาลงโทษ ล่าสุดคนที่ไปแจ้งความก็ได้รับเงินคืน พร้อมดอกเบี้ยเช่นกัน เผยเบื้องลึก มีการขโมยเงินลูกค้าไปถึง 13 ราย เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท แต่ยังลอยนวล ป้องแต่ชื่อเสียงของตนไม่ป้องลูกค้า

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 นางสม โอ๊ะเรือนแก้ว ชาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ถูกถอนเงินออกจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว เปิดเผยว่าเมื่อทราบข่าว ได้นำสมุดบัญชีไปปรับยอดเงิน พบว่า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 เงินในบัญชีได้ถูกถอนไปจำนวน 352,000 บาท ซึ่งเมื่อไปปรับสมุดบัญชี ทางธนาคารได้รีบนำเงินเข้าบัญชีให้ตามเดิม พร้อมทั้งดอก เบี้ย ส่วนคนทำผิดที่จริงเป็นหลานของคุณป้าเอง ซึ่งป้าสม ฯ กล่าวว่าเมื่อได้เงินคืนแล้วก็ดีใจ ส่วนทางธนาคารจะเอาผิดอย่างไรกับผู้กระทำผิด ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่

ด้านนางกนกพร บุญถนอม ชาว อ.ปายเช่นกัน เปิดเผยต่อสื่อด้วยเสียงสะอึกสะอื้น ว่า เมื่อทราบข่าว การลอบถอนเงินออกจากบัญชี จึงได้รีบนำสมุดไปปรับที่ธนาคารเมื่อตอนบ่ายของวันที่ผ่านมา ( 8 ม.ค.2562 ) พบว่าไม่สามารถปรับสมุดได้ และทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้บอกว่า จะชดใช้เงินคืนให้แต่ต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง แต่ไม่ระบุว่าจะชดใช้เมื่อไหร่ โดยนัดเจรจากับผู้จัดการธนาคารกรุงไทยในช่วงสาย ของวันนี้ ( 9 ม.ค.2562 )

นางกนกพร ฯ กล่าวต่อไปว่า เงินที่ตนมีอยู่ เป็นเงินที่เก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิต กว่าจะได้แต่ละบาทต้องลำบากอย่างหนัก และต้องการเก็บเงินเพื่อส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งปีนี้ กำลังขึ้นปี 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอและตนกำลังจะทำเรื่องกู้ กับ กยศ.เพื่อส่งลูกเรียน เมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้เสียใจมาก สำหรับเงินในบัญชีของป้ากนกพร พบว่าได้ถูกยักยอกไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 เป็นเงิน 352,000 บาท

อย่างไรก็ตาม คุณป้าทั้งสองคน คือ นางสม โอ๊ะเรือนแก้ว และ นางกนกพร บุญถนอม เมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวาน ( 8 ม.ค.2562 ) ได้เดินทางไปแจ้งความต่อ พงส.สภ.ปาย จากนั้น เมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกัน ทางนางสุกัญญา สุขสวัสดิ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้เรียกไปเคลียร์ที่สำนักงานในเวลาประมาณ 18.00 น. แต่ปรากฏว่า เมื่อคุยกันเสร็จ ทางนางสม โอ๊ะเรือนแก้ว ซึ่งเป็นป้าของผู้กระทำผิด กลับได้รับการชดใช้เงิน และมีการนำเงินเข้าบัญชีทดแทนเป็นที่เรียบร้อย ส่วน ป้ากนกพร ฯ กลับไม่ได้รับเงินชดใช้และมีการนัดที่ไม่ชัดเจน เพียงบอกว่า จะพยายามนำเงินทยอยชดใช้ให้

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 นายพงษ์ศักดิ์ จ่าเหว่ ราษฎรบ้านเมืองน้อย ต. เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยลูกเมีย ได้เดินทางไปยัง สภ.ปาย เพื่อแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปาย กรณีมีการยักยอกถอนเงินออกจากบัญชีของลูกค้า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย ได้คุ้มกันนายพงษ์ศักดิ์ จ่าเหว่ ไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปาย เพื่อนำสมุดไปปรับยอดเงินบัญชี โดยไม่ให้สื่อมวลชนทำข่าวหรือถ่ายภาพแต่อย่างใด เมื่อไปถึงพบว่า ทางธนาคารได้ขอสมุดไปปรับให้ใหม่ และนำเงินเข้าบัญชีทดแทนที่ถูกยักยอกไปรวมทั้งดอกเบี้ย ซึ่งทำให้นายพงษ์ศักดิ์ ฯ และครอบครัวต่างพอใจและไม่ติดใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารกรุงไทย ได้ร่อนหนังสือ และถูกเผยแพร่ไปตามสื่อโซเชียลมีเดีย โดยได้มีการชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรณีธนาคารกรุงไทย สาขาปาย ได้คืนเงินลูกค้าทุกรายแล้ว ชี้พนักงานทุจริตและได้ลงโทษตามระเบียบ

จากกรณีที่เงินในบัญชีของลูกค้าธนาคารกรุงไทย สาขาปาย จ.แม่ฮ่องสอน หายไปจากบัญ ชีจำนวน 290,000 บาท โดยลูกค้าไม่ได้ทำรายการ ซึ่งหลังการตรวจสอบแล้ว พบว่าเกิดจากพนักงานทุจริต ไม่เกี่ยวข้องกับระบบงานของธนาคาร

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ธนาคารได้ขยายผล โดยดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม และพบว่ามีลูกค้าเสียหายจากการกระทำของพนักงานรายนี้ อีกจำนวน 13 ราย ซึ่งธนาคารได้สั่งให้พนักงานหยุดปฏิบัติงาน และดำเนินการลงโทษตามระเบียบ รวมทั้งได้ดูแลลูกค้าที่ได้รับความเสียหายทุกราย โดยนำเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเรียบร้อยแล้ว

ธนาคารขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูง และขอให้มั่นใจในระบบควบคุมภายใน และมาตรฐานการตรวจสอบ ตลอดจนระบบงานของธนาคาร ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทุกสาขายึดมั่นในการให้บริการตามหลัก Market Conduct อย่างเคร่งครัด และให้ผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้องอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

Cr.ธนาคารกรุงไทย 8 มกราคม 2562

ร่วมแสดงความคิดเห็น