ถ้าพูดถึงเรื่องการทำเล็บ หลายคนคงนึกถึงการทำ “เล็บเจล” การทำเล็บเจลให้ทั้งความสวยงาม คงทน ไม่ต้องเสียเวลาเข้าร้านทำเล็บบ่อยๆ ทำครั้งเดียวอยู่ได้นานเป็นอาทิตย์ ถึงแม้การทำเล็บเจลจะทำให้เราดูมีระดับแต่การทำเล็บเจลก็มีอันตรายแฝงอยู่เช่นกัน
เล็บเจล จะอันตรายแค่ไหน วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะเล่าให้ฟัง
การทำเล็บเจลคืออะไร
การทำเล็บเจล คือ การทาสีเจลแล้วนำมาอบด้วยแสง UV ซึ่งสีเจลถือเป็นลูกผสมระหว่างสีธรรมดาและเจลต่อเล็บแบบอ่อน (Soak Off Gel) ที่ดึงข้อดีของการทำเล็บแต่ละอย่างมาไว้รวมกัน
อันตรายจากการทำเล็บเจล
- ปัญหาเล็บบาง แห้ง ฉีกง่าย การทำเล็บเจลแต่ละครั้งมีการตะไบหน้าเล็บ ร่วมกับการล้างสีออกด้วยacetone
- มะเร็งผิวหนัง การทำเล็บเจลเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังที่มือและเท้า มาจากขั้นตอนการอบสีด้วยแสง UV
- โรคของเล็บที่มองไม่เห็น เมื่อทาเล็บต่อเนื่อง สีเล็บจะปิดบังความผิดปกติที่เกิดขึ้นใต้เล็บ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา เลือดออกใต้เล็บ สะเก็ดเงินที่เล็บ ไปจนถึงมะเร็งที่เล็บ
ทำเล็บเจลอย่างไรให้ปลอดภัย
- การพักเล็บ เพื่อเว้นช่วงให้เล็บได้พัก และซ่อมแซมตัวเองอย่างน้อย 1-3 เดือน หรือทำเล็บธรรมดาสลับกับเล็บเจล
- การพักเล็บยาว กรณีที่เล็บบางแล้วเปราะฉีก แนะนำให้พักเล็บอย่างน้อย 3 เดือน ถ้าจะให้ดีคือ 6 เดือน เพราะเล็บใช้เวลายาวจากโคนขึ้นมาถึงปลายประมาณ 6 เดือน
- หมั่นทาครีมบำรุงเล็บอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เล็บได้รับความชุมชื่นทุกครั้ง หลังล้างมือตามด้วย Vaseline หรือผลิตภัณฑ์บำรุงจมูกเล็บ
- ป้องกันรังสี UV ด้วยการพกครีมกันแดด
- ตรวจสอบเล็บของคุณว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ ก่อนที่จะทำเล็บเจลครั้งใหม่
บำรุงเล็บหลังการทำเล็บเจล
- บำรุงเล็บด้วยน้ำมันมะกอก น้ำมันมะกอกช่วยซ่อมแซมเล็บที่เปราะบาง ฉีกขาดง่ายให้กลับมาแข็งแรง
- บำรุงเล็บด้วยน้ำมะนาว วิตามินซีจากน้ำมะนาว จะช่วยให้เล็บที่เหลืองกลับมามีสุขภาพดี
- รับประทานอาหารที่มีไบโอติน เช่น แครอท มะเขือเทศ แตงกวา ไบโอตินช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของเล็บ
ถ้ารักการทำเล็บต้องให้ความใส่ใจกับเล็บด้วย การทำเล็บเจลไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่การทำแบบเว้นระยะห่างจะทำให้เล็บของเราสุขภาพดี และไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังหรือโรคที่มากับเล็บ
ร่วมแสดงความคิดเห็น