รู้ไหม? คอนโด 2 ชั้น แบบ Loft และ Duplex ต่างกันยังไง

ความเจริญที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้หลายคนต้องใช้เวลาด้วยความเร่งรีบ

คอนโดฯ จึงกลายเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย เพราะคอนโดฯ มักถูกสร้างไว้ในทำเลที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัย อาทิ ห้างสรรพสินค้า หรือระบบขนส่งมวลชนต่างๆ

ภาพตัวอย่าง คอนโดฯแบบ LOFT

หลายคนคงจะเคยเห็นคอนโดฯ แบบ 2 ชั้น ที่มีชั้นล่าง และชั้นลอย เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องแก่ผู้พักอาศัย และยังให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

แต่รู้ไหมว่า คอนโดฯ 2 ชั้นแบบนี้ มีถึง 2 แบบ คือแบบ Loft และ Duplex วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันกัน ว่าทั้งสองแบบนี้มีความต่างหรือเหมือนกันยังไง และ มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้าง

ภาพตัวอย่าง คอนโดฯแบบ LOFT

1.แบบ LOFT
ยูนิตแบบ LOFT เป็นการออกแบบห้องให้มีฝ้าเพดานที่สูง ออกแบบเป็น Double High Space ( พื้นที่สูงเป็นสองเท่า ) ให้มีพื้นที่การใช้งานได้ 2 ชั้น ในขณะที่มีพื้นเพียงชั้นเดียว เพราะเป็นการเพิ่มพื้นที่ฝ้าเพดานให้สูงเป็นพิเศษ

ภาพตัวอย่าง คอนโดฯแบบ LOFT

ข้อสังเกตง่ายที่สุดของห้องแบบ LOFT คือ ส่วนของ “ชั้นลอย” หรือชั้นที่ 2 จะไม่มีประตู ทำให้มีประตูเข้าออกเพียงทางเดียวคือชั้นที่ 1

มีการแบ่งโซนการใช้งานออกเป็น 2 ชั้น โดยที่ชั้นที่ 1 จะมี Floor to ceiling (พื้นจรดเพดาน) ที่สูงกว่าเป็นชั้นหลักในการใช้งาน มีความสูง 2.1-2.4 เมตร ทำให้ในชั้นลอยหรือชั้นที่สองมี Floor to ceiling (พื้นจรดเพดาน) ในชั้นนี้เหลือเพียงประมาณ 1.5-1.6 เมตร โดยชั้นลอยจะไม่นับเป็นโครงสร้างของอาคาร แต่เป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ทำให้โฉนดห้องมีเพียง 1 ชั้น ซึ่งมีข้อดี ข้อเสีย ดังนี้

ข้อดี
1.เสียค่าส่วนกลางเฉพาะพื้นที่ออกโฉนด ออกโฉนดเพียงแค่ชั้น 1 เท่านั้น ทำให้เสียค่าส่วนกลางน้อยกว่าพื้นที่การใช้งานจริง แต่ในกรณีที่ทุกห้องในโครงการเป็นแบบ LOFT ทั้งหมด ถือว่าเสียค่าส่วนกลางเท่ากันทุกห้อง

ข้อเสีย
1.ชั้นลอยเพดานไม่สูงมาก เนื่องจากไม่ได้นับเป็นชั้น 2 จึงไม่ต้องสูง 2.4 เมตรตามกฎหมาย มีความสูงเพียงประมาณ 1.5-1.6 เมตร ทำให้อาจต้องก้มหัวเวลาเดินขึ้นชั้นลอย
2.ความปลอดภัยน้อยกว่า เนื่องจากในส่วนของชั้นลอย ไม่มีประตูหนีไฟ ทำให้เวลาเกิดเหตุอัคคีภัย ชั้นล่างจะไม่สามารถหนีออกทางประตูได้
3.ความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยอาจมีมากกว่า ถ้าเป็นห้องแบบ DUPLEX พื้นที่ชั้น 1 และชั้น 2 จะถูกนำมาคิด F.A.R ( อัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน ) ซึ่งถ้าพื้นที่ใช้สอยในอาคารมาก พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวก็จะมีมากตามไปด้วย แต่ห้องแบบ LOFT ได้ได้คิดในส่วนของชั้นลอย ทำให้ไม่ได้นับพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดจริงๆ เหมือนที่ควรจะเป็น ทำให้พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวน้อยกว่าความเป็นจริงตามไปด้วย
4.บันไดเดินขึ้นยากกว่า เนื่องจากชั้นลอยนับเป็นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ในส่วนของบันใดไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ทำให้ลูกนอน ( ความกว้างของพื้นบันได ) อาจจะแคบกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ต้องปรับความคุ้นชินในการเดินแบบ DUPLEX ยูนิต

ภาพตัวอย่าง คอนโดฯแบบ DUPLEX

2.แบบ DUPLEX
เป็นยูนิตแบบสองชั้น มีประตูเข้า-ออก ทั้งในส่วนของชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 แต่ในความเป็นจริงใช้ประตู เข้า-ออก เพียงชั้นที่ 1 และในส่วนของประตูชั้นที่ 2 มีไว้ตามกฎหมายและเพื่อป้องกันอัคคีภัย

โดยในส่วนของพื้นที่ Floor to ceiling ( พื้นจรดเพดาน ) มีความสูงเท่ากันทั้ง 2 ชั้น อย่างต่ำที่สุดคือ 2.4 เมตร เนื่องจากต้องประตูทั้ง 2 ชั้น มีความสูงที่ต่างกัน จึงเกิดความยุ่งยากในการก่อสร้าง อีกทั้งพื้นในชั้นที่ 2 ถือเป็นโครงสร้างของอาคาร ดังนั้นจึงมีการออกโฉนดและเสียค่าส่วนกลาง รวมพื้นที่เป็น 2 ชั้น

ภาพตัวอย่าง คอนโดฯแบบ DUPLEX

ชั้นที่ 2 ถือว่าเป็นชั้นปกติ ไม่ได้เป็นชั้นลอยที่มีส่วนต่อเติมแบบ LOFT มีความหนาของพื้นเป็นแบบปกติ ประมาณ 50 ซม. ออกแบบให้สามารถใช้งานได้เหมือนชั้นที่ 1 แต่บางโครงการมีการวางห้องน้ำไว้ชั้น 2 รวมกับห้องนอน

บันใดขึ้นชั้นที่ 2 ได้รับการออกแบบให้ตรงกับที่กฎหมายกำหนด คือมีความยาว 3 เมตรขึ้นไป และต้องมีชานพักบ้าน จะให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน ซึ่งสามารถสรุปข้อดี-ข้อเสีย ได้ดังนี้

ข้อดี
1.ชั้นลอยใชงานได้จริง ด้วยโครงสร้างที่มีความแข็งแรง ฝ้าเพดานมีความสูง 2.4 เมตร จึงสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
2.ความปลอดภัยที่มาก เนื่องจากห้องแบบ DUPLEX มีประตูทางออกทั้งสองชั้น หากเกิดอัคคีภัย ก็ยังสามารถที่ออกประตูในชั้นใดชั้นหนึ่งได้
3.ความหนาแน่นของประชากรเป็นไปตามกฎหมาย หากมีการนำพื้นที่ทั้งหมดมาคิด F.A.R ( อัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน ) ก็สามารถคิดได้ตามสภาพพื้นที่จริง ทำให้มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด
4.บันไดขึ้นสบาย เพราะก็ออกแบบที่เป็นมาตรฐาน ตามที่กำหมายได้กำหนดไว้

ข้อเสีย
1.ต้องเสียค่าส่วนกลางตามที่ออกโฉนด เนื่องจากมีการออกโฉนดทั้งสองชั้น ทำให้ผู้พักอาศัยต้องจ่ายค่าส่วนกลางถึง 2 ชั้น
สรุป
หลักสังเกตง่ายๆ ว่าคอนโดฯ เป็นแบบ LOFT หรือ DUPLEX ให้ดูที่บันใดชั้นที่ 2 เพราะเป็นแบบ DUPLEX เท่านั้นที่มี

หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากนี้ จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อคอนโดให้คุณได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.realist.co.th

เรียบเรียงโดย: “เชียงใหม่นิวส์”

ร่วมแสดงความคิดเห็น