กลืนเมล็ดผลไม้ อันตรายมากกว่าที่คิด

หลายๆ คน คงเคยกลืนเมล็ดผลไม้ลงท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ตั้งแต่เมล็ดเล็กๆ อย่างส้ม แตงโม ลำไย หรือจะเป็นเมล็ดที่ใหญ่ขึ้นมา อย่างมะปราง น้อยหน่า หรือกระท้อน การกลืนเมล็ดผลไม้เป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน ถ้าเผลอกลืนลงไปควรทำอย่างไร แล้วจริงไหมที่ว่าเมล็ดผลไม้เป็นต้นเหตุให้เกิดไส้ติ่งอักเสบ

การกลืนเมล็ดผลไม้อันตรายมากแค่ไหน วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะเล่าเรื่องให้ฟัง

อันตรายจากการกินเมล็ด

1.อันตรายกับทางเดินหายใจ
เมล็ดผลไม้เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะติดคอ ปิดทางเดินหายใจ จนทำให้หายใจไม่ออกได้ โดยเฉพาะเมล็ดที่มีขนาดใหญ่และแข็ง ยิ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือทำให้ทางเดินหายใจติดเชื้อ อักเสบ ไอเป็นเลือด หรือหนองปน และอาจมีอาการแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา เช่น ปอดบวม ฝีในปอด หนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด เป็นต้น
2. อันตรายกับหลอดอาหาร
หากพ้นทางเดินหายใจมาได้ ไม่ได้หมายความว่าสิ่งแปลกปลอมอย่างเมล็ดผลไม้ จะไหลลื่นไปถึงกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่ จนถ่ายออกมาได้สำเร็จเสมอไป หากเป็นเมล็ดที่มีขนาดใหญ่ หรือแหลมคม สามารถติดอยู่ในหลอดอาหารเป็นเวลานานๆ และทำให้เยื่อบุบริเวณนั้นมีอาการอักเสบ เป็นแผล ถึงขั้นหลอดอาหารทะลุได้
3. อันตรายกับลำไส้
หากเมล็ดผลไม้มีความลื่นบ้าง อาจไหลไปได้ไกลจนถึงลำไส้ กระเพาะอาหาร แต่ระหว่างทางอาจติดอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะลำไส้ใหญ่ และเกิดเป็นภาวะลำไส้อุดตัน ความแหลมคมทำให้ลำไส้ใหญ่เป็นแผล และทะลุ ทำให้เกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือด จนอาการทรุดหนักถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน

วิธีแก้เมื่อทานลงไป

1.เมล็ดเล็กๆ อย่างส้ม มะนาว ฝรั่ง หรือเมล็ดอื่นๆ ที่มีขนาดเล็ก หากผ่านหลอดลม และหลอดอาหารไปสู่กระเพาะได้ ถือว่าปลอดภัยหายห่วง
2. เมล็ดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เช่น มะขาม น้อยหน่า มังคุด ที่มีความแข็ง ไม่ลื่น มีความเสี่ยงที่จะติดอยู่ในหลอดลม หรือทางเดินหายใจได้ ให้สังเกตอาการตัวเองหากหายใจเข้าออกได้สะดวก ไม่มีอาการผิดปกติ สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้ แต่หากรู้สึกอึดอัดควรรีบไปพบแพทย์
3. เมล็ดขนาดใหญ่ มีความแหลมคม อย่างกระท้อน ควรรีบปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอดูอาการ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำอันตรายต่อร่างกาย มากกว่าผลไม้ที่เมล็ดเล็ก อาจทำให้ลำไส้ทะลุ หรืออักเสบ บางครั้งทำให้เสียชีวิตได้

กินเมล็ดผลไม้จะทำให้ปวดท้องไส้ติ่ง

ความเชื่อนี้มีมานาน แท้จริงแล้วการรับประทานผลไม้ ในทางการแพทย์ไม่เคยพบว่ามีเมล็ดผลไม้อยู่ในไส้ติ่ง การป้องกันไส้ติ่งที่ดีที่สุด คือ การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดและควรกินอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อที่ลำไส้จะได้สะอาด

เมล็ดเล็กๆ ทำให้เกิดไส้ติ่งได้จริงหรือ

เมล็ดผลไม้ที่มีข่าวการกลืนกินแล้วทำให้เกิดอันตราย

ได้แก่ เมล็ดกระท้อน เมล็ดน้อยหน่า เมล็ดมะขาม เมล็ดมังคุด เมล็ดแตงโม เมล็ดละมุด ผลไม้ที่กล่าวมาส่วนใหญ่มีลักษณะกลมปลายแหลม และมีความแข็ง ซึ่งอาจทำให้เมล็ดเสียดสีกับกระเพาะอาหาร จนเกิดแผลและเสียชีวิตได้

สรุป

บางคนอาจบอกว่า เคยกลืนเมล็ดผลไม้เข้าไป ไม่เห็นเป็นอะไร การกลืนเมล็ดผลไม้ในวัยหนุ่ม อาจไม่มีผลมาก เท่ากับวัยชรา ด้วยสมรรถภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถอย การกลืนกินเมล็ดผลไม้ลงไป จึงมักเกิดอาการของการอุดตันจากเมล็ดผลไม้ในลำไส้ค่อนข้างสูง

ไม่เพียงแต่ผลไม้เท่านั้นที่เราไม่ควรกลืนเมล็ด อาหารอื่นๆ ที่มีลักษณะกลม ขนาดเล็ก อย่างเช่น ลูกอม น้ำแข็ง ก็ถือว่าเป็นอันตรายมากหากกลืนลงไป เพราะสิ่งเหล่านี้อาจติดหลอดลมทำให้หายใจไม่ออกและเสียชีวิตได้

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”



ร่วมแสดงความคิดเห็น