การทำ พ.ร.บ. รถยนต์ถือเป็นกฎหมายบังคับสำหรับผู้มีรถทุกประเภท ซึ่งผู้ขับขี่จะต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด หลายคนอาจจะรู้จักกับ พ.ร.บ. เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของ พ.ร.บ. นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง
วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประโยชน์ของ พ.ร.บ รถยนต์กันค่ะ
เมื่อพูดถึงการคุ้มครองเวลาที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คนส่วนใหญ่คงนึกถึงประกันภัยชั้น 1 ชั้น 2 กันก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งการทำประกันภัยจาก พ.ร.บ. ก็สามารถคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ได้เช่นกัน เพราะเมื่อเราต่อภาษีป้ายทะเบียน นั่นก็คือการทำประกันภัยภาคบังคับประเภทที่ 3 เป็นประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งความคุ้มครองที่ผู้ประสบภัยจะได้รับ มีค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทน
การคุ้มครองของ พ.ร.บ. รถยนต์
ค่าเสียหายเบื้องต้น คือ ค่าเสียหายต่อชีวิตและร่ายกาย ของผู้ประสบภัยเนื่องมาจากการใช้รถ โดยที่บริษัทประกันภัยสามารถจ่ายโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทน
- กรณีบาดเจ็บ จะได้รับค่าชดใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายจริง จำนวนเงินไม่เกิน 30,000 บาท หรือบาดเจ็บจนเกิดทุพพลภาพ จะได้รับค่าชดใช้ จำนวนเงิน ไม่เกิน 65,000 บาท
- กรณีทุพพลภาพ จะได้ค่าชดใช้ จำนวนเงิน 35,000 บาทจากบริษัท
- กรณีเสียชีวิต จะได้รับค่าชดใช้ จำนวนเงิน 35,000 บาทจากบริษัท
หรือเสียชีวิตหลังการรักษาพยาบาล จะได้ค่าชดใช้ จำนวนเงิน ไม่เกิน 65,000 บาท
ค่าสินไหมทดแทน คือ ค่าเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของผู้ประสบภัยเนื่องจากการใช้รถ โดยที่บริษัทประกันภัยต้องจ่ายเมื่ออุบัติเหตุจากรถนั้นเป็นความผิดของผู้ขับขี่ที่เอาประกันภัย
- กรณีบาดเจ็บ จะได้รับค่าสินไหมทดแทน ไม่เกินจำนวนเงิน 80,000 บาท
- กรณีทุพพลภาพ จะได้รับค่าสินไหมทดแทน ไม่เกินจำนวนเงิน 300,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทน ไม่เกินจำนวนเงิน 300,000 บาท
หรือเสียชีวิตหลังการรักษาพยาบาล จะได้ค่าสินไหมจำนวนเงิน รวมแล้วเท่ากับ 300,000 บาท
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น
กรณีบาดเจ็บ
1.สำเนาบัตรประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ
2.ใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาล
กรณีทุพพลภาพ
1.สำเนาบัตรประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ
2.ใบรับรองแพทย์และหนังสือรับรองความพิการ
3.สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวนที่เมื่อได้รับความเสียหายหรือประสบภัยจากรถ
กรณีเสียชีวิต
1.สำเนาบัตรประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ
2.สำเนาใบมรณบัตร
3.สำเนาทะเบียนบ้าน
4.สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวนที่เมื่อได้รับความเสียหายหรือประสบภัยจากรถ
จะเห็นแล้วว่าเมื่อเราประสบภัยจากอุบัติเหตุไม่ว่ากรณีบาดเจ็บ ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต พ.ร.บ.รถยนต์ นั้นก็สามารถคุ้มครองได้เช่นกัน แต่ความคุ้มครองที่ได้รับเป็นแค่ความคุ้มครองเบื้อต้นเท่านั้น ผู้ใช้รถควรทำประกันภัยรถยนต์เพิ่ม เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ผู้ใช้รถควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย
เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
ภาพโดย : copy-shop-522.business.site
: posttoday.com
ร่วมแสดงความคิดเห็น