น้ำยังท่วมในถ้ำหลวง ทีมสำรวจถึงแค่สามแยก คาดต้องรออีก 1 เดือน ถึงจะเริ่มเก็บกู้ได้

เวลา 13.30 น.วันที่ 17 ธม.ค.62 หลังจากที่นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเหรือ หรือหน่วยชีล ได้นำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยชีล หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 35 นาย เข้าไปทำการสำรวจภายในถ้ำหลวงตั้งแต่โถงแรกเข้าไปถึงโถงที่ 3 เป็นครั้งแรกเนื่องจากระดับน้ำที่โถงแรกแห้งลงนั้น

ล่าสุดทีมสำรวจทั้งหมดได้เดินทางกลับออกมาทางปากถ้ำ ซึ่งภาระกิจในการถ่ายภาพและบันทึกข้อมูลอุปกรณ์ที่คงค้างตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกภายในถ้ำระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถือว่าเสร็จสิ้นด้วยดีแต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินหน้าสำรวจต่อจากสามแยก ซึ่งเป็นทางไปทางหาดพัทยา หรือพัทยาบีชรวมจนถึงเนินนมสาวซึ่งเป็นจุดที่เยาวชนทั้ง 13 เคยใช้หลบภัยน้ำท่วมภายในถ้ำได้ เนื่องจากพบว่าบริเวณช่องที่เชื่อมจากสามแยกไปทางเส้นทางซ้ายเต็มไปด้วยตะกอนทรายทำให้ยากต่อการเดินทางผ่านรวมทั้งยังมีน้ำทว่มขังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งการจะผ่านจุดดังกล่าวไปได้ต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่มีความพร้อมเหมือนตอนที่มีปฏิบัติการช่วยเหลือเยาวชนดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ได้สำรวจถึงบริเวณดังกล่าวแล้วจึงพากันเดินทางกลับรวมแล้วใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 5 ชั่วโมงโดยออกเดินทางถึงปากถ้ำเวลา 13.30 น.จากเดิมที่คาดว่าจะใช้เวลากว่า 6-8 ชั่วโมง

นายจงคล้าย นายกมลไชย และพลเรือตรีอาภากร ได้นำเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณสามแยกได้จำนวน 21 นาย แต่เนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้และอ๊อกซิเจนภายในถ้ำเบาบางรวมทั้งมีน้ำไหลออกจากหินงอกหินย้อยตามผนังอยู่ตลอดเวลาด้วย จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับ โดยจากการสำรวจพบว่าภายในมีถังอ๊อกซิเจนวางอยู่ตลอดรายทางโดยมีอยู่ที่โถงที่ 3 ประมาณ 100 กว่าถัง โถงที่ 2 ประมาณ 100 ถัง ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเปลสนามและเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันไปตลอดรายทางโดยพบระหว่างโถงที่ 2-3 มากที่สุดเพราะโถงที่ 2 มีความยาวและภูมิประเทศขลุขละเต็มไปด้วยหน้าผาและซอกหินผาสูงต่ำจำนวนมาก สำหรับเปลสนามและเชือกดังกล่าวได้ใช้สำหรับขนลำเลียงเยาวชนทั้ง 13 คนออกมาตั้งแต่วันที่ 9-11 ก.ค.2561 เพราะเป็นเส้นทางที่ยากลำบากในการเดินทาง นอกจากนี้ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ และสำหรับโถงที่ 3 นั้นพบสายส่งอ๊อกซิเจนมากที่สุดรวมทั้งพบกระดาษฟรอยด์ที่ใช้ให้ความอบอุ่นร่างกาย พบอาหารพาวเวอร์เจล วิทยุสื่อสาร ของทางทหารที่เจ้าหน้าที่เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการภายในถ้ำ

นายจงคล้าย กล่าวว่าสำหรับภาระกิจครั้งนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจพบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และได้บันทึกข้อมูลรวมทั้งถ่ายภาพเอาไว้ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกเอาไว้แล้ว และคาดว่าหากจะเข้าไปจากสามแยกไปยังบริเวณจุดที่พบเยาวชนทั้ง 13 คนคงจะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนเพื่อให้น้ำแห้งและเตรียมอุปกรณ์กำลังพลให้มีความพร้อมต่อไป ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องรอรายงานให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับทราบเพื่อหารือและดำเนินการต่อไป

ด้านพลเรือตรีอาภากร กล่าวว่าการเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงครั้งนี้เป็นเหมือนการำลึกถึงความหลังเมื่อครั้นปฏิบัติการเดือน มิ.ย.-ก.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยสิ่งที่พบเห็นภายในถ้ำทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันเข้าไปปฏิบัติการ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเมื่อมองย้อนหลังไปก็ยังสงสัยอยู่ว่าพวกเราขนเข้าไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตามการเข้าไปในถ้ำครั้งนี้ถือว่าสะดวกกว่าช่วงปฏิบัติการที่มีความยากลำบากกว่ามาก ส่วนการจะเข้าไปให้เลยช่วงสามแยกเข้าไปอีกซึ่งยังคงมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ตกค้างอยู่ภายในคงต้องรอให้ระดับน้ำภายในลดลงกว่านี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น