สาวช็อค!! ชอบทานเผ็ด เกิดปวดท้อง สุดท้ายพบก้อนเนื้องอกยาวเกือบ 20 เซนฯ

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 โซเชียลได้เเชร์โพสต์ของคุณหมอ ที่ใช้ อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน ซึ่งได้โพสต์เรื่องราวของคนไข้ผู้หญิง ชอบทานอาหารเผ็ดเป็นประจำ จนเป็นแผลในกระเพาะอาหาร เเต่เมื่อไปตรวจกับหมอ กับพบเนื้องอกที่กล้ามเนื้อมดลูกยาวเกือบ 20 เซนติเมตร ซึ่งมีข้อความที่โพสต์ลงเพจดังนี้

https://www.facebook.com/266174454003295/photos/a.266203077333766/321942028426537/?type=3&theater

“หมอขา หนูขอดูรูปเนื้องอกของหนูได้ไหม? จริงๆผมขออนุญาตคนไข้ถ่ายรูปไว้
เพื่อเก็บไว้สอนนักเรียนแพทย์นะครับ แต่คนไข้อยากเห็นก็โอเค…กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด เสียงใครกรี้ด เพื่อนๆคงเดาได้อ่ะครับ

คนไข้รายนี้เป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก มาทำงานในโรงงานเย็บผ้า เป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์
เป็นคนมีนิสัยส่วนตัวที่ชอบกินส้มตำมากจริงๆก็ไม่แปลกหรอกนะครับ เพราะหมออรัณก็ชอบกินส้มตำเหมือนกัน

แต่ส้มตำที่คนไข้คนนี้ชอบกินจะต้องเป็นส้มตำที่ใส่พริกหมดกำมือ เพื่อนๆ ที่เป็นแนวแซ่บอีหลี คงจะพอเข้าใจนะครับ อยู่มาวันหนึ่งเธอมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงบริเวณใต้ลิ้นปี่
ลิ้นปี่คือบริเวณที่อยู่สูงกว่าสะดือเล็กน้อยนะครับ เธอเป็นคนเก่งมีความมั่นใจสูง สามารถให้การวินิจฉัยโรคที่ตัวเองเป็นได้ในทันที เธอวินิจฉัยโรคว่าเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร

เธอเป็นคนเก่งมีความมั่นใจสูง จึงรีบแว๊นมอเตอร์ไซต์ไปที่ร้านขายยาทันที เธอซื้อยาลดกรดในกระเพาะอาหารและยาขับลมมากิน เธอเป็นคนเก่งมีความมั่นใจสูง อาการปวดท้องของเธอดีขึ้นและเธอมั่นใจมากว่าเธอหายแล้ว

แน่นอนครับเมนูอาหารในวันต่อมาของเธอคือส้มตำที่ใส่พริกแปดเม็ดจริงๆผมคิดว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องนะการปรับปรุงเรื่องอาหารการกินให้สอดคล้องกับสุขภาพเป็นเรื่องที่น่ายกย่องครับ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าการกินพริกลดลง แปดเม็ดเป็นการช่วยได้จริงๆหรือ555

ต่อมาไม่นานเธอปวดท้องรุนแรงมากขึ้นปวดมากถึงกับลงไปนอนกับพื้น เพื่อนเพื่อนของเธอจึงพามาส่งที่โรงพยาบาล คุณหมอที่ห้องฉุกเฉินตรวจแล้ว ให้การวินิจฉัยเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นอาการกระเพาะอาหารอักเสบจึงรับไว้นอนในโรงพยาบาลและฉีดยาเพื่อรักษา

ระหว่างที่คุณหมอที่ประจำห้องฉุกเฉิน ตรวจร่างกายของคนไข้ คุณหมอพบว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในท้องของเธอ จึงถามว่ามีอะไรอยู่ในท้องครับ เธอเป็นคนเก่งมีความมั่นใจสูง
555 อ๋อ ลมในลำไส้ค่ะมีมาตั้งนานแล้ว คุณหมอจึงอธิบายเพิ่มว่าไม่ใช่ลมครับน่าจะเป็นก้อนเนื้องอกหลังจากที่คุณหมอห้องฉุกเฉินส่งทำอัลตราซาวด์ขอคิวด่วนให้รังสีแพทย์ก็พบว่าเธอมีเนื้องอกที่กล้ามเนื้อมดลูกยาวตั้งแต่ใต้ลิ้นปี่จนถึงกระเพาะปัสสาวะ หลังจากนั้นคนไข้ก็ได้รับการส่งตัวมาพบหมออรัณตามระเบียบ

ถึงแม้คนไข้จะเป็นคนเก่งและมีความมั่นใจสูงแม้ว่าจะไม่อยากเจอหมออรัณแต่ก็ต้องเจอครับเพราะผมเป็นหมอสูติอยู่คนเดียว อิอิ สรุปว่าคนไข้รายนี้ได้รับการผ่าตัดมดลูกออกทั้งหมดครับเนื่องจากคนไข้มีลูกสามคนและคิดว่าเพียงพอแล้ว ก้อนเนื้องอกมีความยาวเกือบ 20 เซนติเมตรความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าก้อนนี้กดเบียดลำไส้และกระเพาะปัสสาวะค่อนข้างเยอะครับ การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีนะครับผลชิ้นเนื้อไม่ใช่มะเร็ง หลังผ่าตัดสองวันผมได้เดินไปเยี่ยมเธอมึนตรึ๊บเลยครับ เธอกำลังกินส้มตำรสจืดที่เพื่อนเพื่อนแอบซื้อมาให้
ทั้งทั้งที่คุณพยาบาลสั่งไว้ให้กินข้าวต้ม ผมต้องขอดุคนไข้คนนี้นิดนึง ดื้อจริงๆ

“กินส้มตำมากระวังมะละกอเข้าไปอยู่ในท้องนะครับ” “ แหมคุณหมอนี่ตล๊กตลก” “

สาระน่ารู้

เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงของกล้ามเนื้อมดลูก ตัวเนื้องอกประกอบด้วยกล้ามเนื้อมดลูกเป็นส่วนใหญ่ และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเป็นองค์ประกอบอยู่บ้าง

พบได้บ่อยในสตรีที่อายุเกิน 35 ปี ถึงร้อยละประมาณ 20-25 พบได้มากที่สุดในช่วงอายุ 40-50 ปี พบมากในสตรีผิวดำ มากกว่าผิวขาวและชาวตะวันออก 2 ถึง 5 เท่า สตรีที่แต่งงานแล้วแต่ไม่มีบุตรมีแนวโน้มที่จะพบโรคนี้ได้บ่อยขึ้น

เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกเกิดจากการเปลี่ยนของเซลกล้ามเนื้อไปเป็น myoma (somatic mutation) ตัวที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ยังไม่ทราบแน่นอน สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม เนื่องจากพบในครอบครัวสืบทอดกันมาค่อนข้างบ่อย

อาการและอาการแสดง

1. เลือดออก ส่วนใหญ่จะเป็นชนิดเลือดประจำเดือนออกมากและนาน มีลิ่มเลือดปนเป็นก้อน เนื่องมาจากพื้นที่ผิวของมดลูกมีมากกว่าปกติจากการที่มีก้อนเนื้องอกไปเพิ่มพื้นที่ผิวภายในของเยื่อบุโพรงมดลูก 

2. อาการถูกกดเบียดจากเนื้องอก ก้อนเนื้องอกที่กดเบียดกระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายที่บริเวณหัวหน่าว ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะค้างหรือไหลโดยไม่รู้สึกตัว ท้องผูก บางครั้งขาบวมหรือมีอาการหลอดเลือดขอดได้ถ้าก้อนใหญ่พอ

3. ก้อนในท้อง อาจจะไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากคลำได้ก้อนบริเวณท้องน้อยโดยบังเอิญ หรือรู้สึกว่าท้องโตขึ้น

4. หายใจลำบาก เป็นภาวะที่พบได้น้อย เกิดจากการที่มีการแพร่กระจายของตัวเนื้องอกไปที่ปอด

6. ตกขาว เกิดจากมีการคั่งของเลือดในอุ้งเชิงกรานพร้อมๆกับมีการหนาตัวของเยื่อบุคอมดลูก ทำให้มีตกขาวเป็นมูก รายที่มีการเสื่อมสภาพของก้อนที่ยื่นเข้าในโพรงมดลูก ตกขาวจะมีลักษณะมูกปนหนองหรืออาจจะเป็นเลือดจางๆ ถ้ามีการอักเสบหรือเนื้อตาย จะมีตกขาวเป็นสีน้ำตาลและมีกลิ่นเหม็นคาวจัด

7. การตกเลือดในช่องท้อง เป็นภาวะที่พบน้อยเกิดจากมีการแตกหรือฉีกขาดของหลอดเลือดที่ผิวนอกของก้อน จะมีอาการตกเลือดในช่องท้องคล้ายการตกเลือดในการตั้งครรภ์นอกมดลูก

การรักษาเนื้องอกมดลูก ทำได้โดยการผ่าตัด ซึ่งความยากขึ้นอยู่กับขนาด จำนวน และตำแหน่ง แบ่งออกเป็น

            1) การตัดก้อนเนื้องอก (Myomectomy) สามารถทำได้หลายทาง ทั้งการผ่าตัดเนื้องอกผ่านกล้อง (Laparoscopic Myomectomy) การผ่าตัดเนื้องอกผ่านผนังหน้าท้องแบบแผลเล็กกว่าหรือเท่ากับ 6 เซนติเมตร (Minilaparotomy Myomectomy) และการผ่าตัดเนื้องอกผ่านผนังหน้าท้อง (Abdominal Myomectomy)ซึ่งในอดีตหากเนื้องอกมีขนาดมากกว่า 5 เซนติเมตรจะต้องผ่าตัดเนื้องอกผ่านผนังหน้าท้อง แต่ปัจจุบันเนื้องอกมดลูกขนาดมากกว่า 5 เซนติเมตรก็สามารถผ่าตัดเนื้องอกผ่านกล้องได้ ช่วยลดโอกาสการเสียเลือดมาก ทั้งยังพักฟื้นไม่นาน โดยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นสำคัญ

นอกจากนี้สิ่งที่ควรรู้ไว้คือ 25-30% ของผู้ป่วยที่ผ่าตัดเนื้องอกออกไปแล้ว มีโอกาสที่เนื้องอกจะกลับมาโตอีก แต่อย่างไรก็ตามยังสามารถมีบุตรได้ แต่ต้องปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด

            2) การตัดมดลูก (Hysterectomy) สามารถทำได้โดยการผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด (Vaginal Hysterectomy) การผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้องช่องท้อง (Laparoscopic Hysterectomy) การผ่าตัดมดลูกผ่านทางหน้าท้องแบบแผลเล็กกว่าหรือเท่ากับ 6 เซนติเมตร (Minilaparotomy Hysterectomy) และการผ่าตัดมดลูกผ่านทางหน้าท้อง (Abdominal Hysterectomy) ซึ่งวิธีนี้มักใช้ในผู้ป่วยที่ไม่ต้องการมีบุตรแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokhospital ,www.si.mahidol.ac.th/,อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น