9 สิ่งต้องห้าม ที่ไม่ควรใช้กับผิวหน้า

ผิวหน้านั้นบอบบางมากกว่าที่คิด หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาทีหลัง ไม่ว่าจะเป็นสิว หน้ามัน ผิวแห้ง ผิวแตก ผิวลอก ผดผื่น ไปจนถึงผิวหน้าอักเสบได้ ซึ่งมีสาเหตุจากหลายปัจจัยเช่น สุขภาพ การเลือกรับประทานอาหาร รวมไปถึงสิ่งต่างๆที่เรานำมาใช้กับผิวหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรเลือกใช้อย่างระมัดระวัง เพราะของบางอย่างไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับผิวหน้า

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” ได้นำ 9 สิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรใช้กับผิวหน้า มาเผยให้คุณรับรู้ หากคุณยังใช้ 9 สิ่งนี้กับผิวหน้าของคุณอยู่ แนะนำให้หยุดใช้ก่อนที่ผิวหน้าจะพัง ซึ่ง 9 สิ่งต้องห้าม จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

9 สิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรใช้กับผิวหน้า

1.น้ำร้อน
ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ หลายคนอาจเข้าใจว่าการใช้น้ำร้อนล้างหน้าจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและความมันออกไปได้อย่างหมดจด แต่ความจริงแล้วน้ำร้อนทำให้ผิวหน้าสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้หน้าแห้ง ไม่ชุ่มชื้น บางรายที่ผิวแห้งมากๆ อาจเกิดอาการผิวหน้าแตก คัน และกลายเป็นผิวหนังอักเสบได้ในที่สุด

น้ำร้อนทำให้ผิวหน้าสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้หน้าแห้ง ไม่ชุ่มชื้น

2.สบู่ก้อนและ แชมพูสระผม
ในสบู่และแชมพูสระผมไม่มีสารอาหารตามที่ผิวต้องการ แถมยังมีสารชำระล้างที่เป็นสารเคมีรุนแรงต่อผิวหน้า ซึ่งมีผลให้ผิวหน้าอ่อนแอ ผิวแตกแห้ง เกิดผื่นแดงและมีอาการแพ้ได้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าโดยเฉพาะ และที่สำคัญควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณจะดีที่สุด

3.โลชันทาตัว
เมื่อเทียบกันแล้ว ผิวกายจะมีชั้นผิวหนากว่า และทนทานต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้มากกว่าผิวหน้า ทำให้โลชันทาตัวมักมีส่วนผสมที่หนักกว่าและมีน้ำหอมผสม ซึ่งหากไปใช้กับผิวหน้าที่บอบบางจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นการออกแบบครีมทาหน้าจึงละเอียดอ่อนและมีต้นทุนสูงกว่า แต่ก็เหมาะกับผิวหน้ามากที่สุดเช่นกัน จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวแต่ละส่วนจะดีที่สุด

ความเป็นด่างของเบคกิ้งโซดาอาจลดค่า pH บนผิวหน้า ทำให้ผิวแห้งและอ่อนแอลงได้ จึงไม่ควรใช้บ่อย และไม่ควรขัดนานเกินไป

4.เซรั่มใส่ผม
เซรั่มใส่ผมจะมีเนื้อหนักและเหนอะ นอกจากทำให้ผิวมันอุดตันง่ายแล้ว มักผสมน้ำหอมและสารที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นควรใส่เซรั่มเฉพาะปลายผมเท่านั้น หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรให้ผมปรกหน้าเลย โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน และมักมีสิวอุดตันง่ายเป็นพิเศษยิ่งควรระวังไม่ให้ผมปรกหน้าเด็ดขาด

ไม่ควรให้ผมปรกหน้า โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน และมีสิวอุดตันง่ายเป็นพิเศษยิ่งควรระวังไม่ให้ผมปรกหน้าเด็ดขาด

5.ยาสีฟัน
เชื่อกันว่าการแต้มยาสีฟันจะทำให้สิวยุบเร็วขึ้น แต่อีกด้านที่ไม่มีใครรู้คือในยาสีฟันนั้นมีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อ และมีส่วนผสมที่มีค่าเป็นด่างค่อนข้างสูง จึงทำให้หลังจากที่สิวแห้งแล้ว ผิวบริเวณนั้นจะค่อนข้างแห้ง และระคายเคือง ในบางรายหากทิ้งไว้นานเกินไป อาจทำให้ผิวไหม้กลายเป็นรอยด่างดำได้ง่ายๆ ทางที่ดีควรรักษาสิวด้วยยาแต้มสิวจะดีกว่า

6.น้ำมะนาว
ไม่ควรใช้น้ำมะนาวล้วนๆ ทาลงบนผิวหน้า เพราะกรดในน้ำมะนาวจะทำให้ค่า pH บนผิวหน้าเสียสมดุล ทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย จึงควรผสมน้ำหรือส่วนผสมอื่นๆ เพื่อไม่ให้กรดสูงเกินไป แต่สำหรับสาวผิวบอบบาง ไม่ควรใช้น้ำมะนาวทาหน้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้แสบผิวหน้า หน้าแดง หน้าลอก และหน้าอาจไหม้ได้

7.เบคกิ้งโซดา
เบคกิ้งโซดาสามารถนำมาใช้เพื่อผลัดเซลล์ผิว ขจัดสิวเสี้ยน และปรับผิวให้ขาวขึ้นได้ แต่ความเป็นด่างของเบคกิ้งโซดาอาจลดค่า pH บนผิวหน้า ทำให้ผิวแห้งและอ่อนแอลงได้ จึงไม่ควรใช้บ่อย และไม่ควรขัดนานเกินไป หรืออาจผสมร่วมกับสิ่งอื่นให้ความเป็นด่างเจือจางลง เช่น น้ำมันมะพร้าว ที่สำคัญเมื่อขัดผิวหน้าเสร็จแล้ว ควรรีบทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แต่หากเป็นคนผิวแพ้ง่าย แนะนำว่าห้ามใช้เด็ดขาด

8.น้ำตาล
หลายคนอาจเคยใช้น้ำตาลมาขัดสครับผิวแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี จนคิดว่าอาจนำมาใช้ขัดหน้าได้เช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะเม็ดน้ำตาลมีขนาดใหญ่ หากนำมาขัดหน้าแล้ว จะทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองได้ง่าย และยังทำให้เกิดสิวได้ง่ายอีกด้วย

ไม่ควรให้ละอองของสเปรย์จัดแต่งทรงผมโดนผิวหน้า เพราะสเปรย์จัดแต่งทรงผมมีแลคเกอร์ และแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน

9.สเปรย์จัดแต่งทรงผม
สเปรย์จัดแต่งทรงผมมีแลคเกอร์ และแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน ยิ่งฉีดสเปรย์จัดแต่งทรงผมโดนผิวหน้ามากเท่าไหร่ ผิวก็ยิ่งขาดน้ำและแก่ก่อนวัยมากเท่านั้น นอกจากนี้สเปรย์จัดแต่งทรงผมยังมีสารกันน้ำซึมที่ช่วยให้ผมอยู่ทรง แต่กลับทำให้ผิวเสีย เพราะสารนี้จะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง แดงและเป็นผดง่าย ดังนั้นทุกครั้งที่ฉีดสเปรย์ ควรหาอะไรมากันหรือปิดผิวหน้าเอาไว้เสมอ

สรุป
มีข้อไหนบ้างที่คุณยังใช้กับผิวหน้าของคุณอยู่ แนะนำว่าควรหยุดใช้ได้แล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะกับผิวหน้าของคุณ และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวเรื้อรังตามมา

เรียบเรียงโดย: “เชียงใหม่นิวส์”
ขอบคุณข้อมูลจาก: gangbeauty, women.kapook และ idskinexpert
ขอบคุณภาพจาก: women.kapook, AsianWiki และ siamhealth

บทความเกี่ยวกับความงามที่เกี่ยวข้อง

ผิวแพ้ง่าย? เช็คได้ด้วยตัวคุณเอง

สิว! บอกปัญหาสุขภาพ

ร่วมแสดงความคิดเห็น