จนท.ลุยค้นทุกจุด”ดอยเชียงดาว” พบความผิดอื้อ

วันที่ 18-22 มกราคม 2562 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยฯ พญาเสือ) อำนวยการโดย นายพนัชกร โพธิบัณฑิต รักษาการหัวหน้าหน่วยฯ จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว นำโดย นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตฯ จนท.หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 5 (ฉก.ม.5) กองกำลังผาเมือง จนท.สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.5 (ปิงโค้ง)

จนท.อุทยานแห่งชาติผาแดง จนท .อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ฝ่ายปกครอง อ.เชียง ดาว นำโดย นายเพิ่มเกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ปลัดฝ่ายความมั่นคง จนท.กองร้อย ตชด.335 จนท.ตำรวจ สภ.เชียงดาว และ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.4 (เชียง ดาว) กรมป่าไม้ รวมประมาณ 80 นาย ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบ

1.ตรวจสอบพื้นที่/บ้านพัก/รีสอร์ท บริเวณทางขึ้นดอยเชียงดาว หมู่ที่ 5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย

1.1 มาลีรีสอร์ท พบว่ามีการแจ้งครอบครอง เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 ไว้ในชื่อ นางจิตตรา ปัญญาพรม เนื้อที่ 0 – 0 – 99 ไร่ แต่จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่พบว่าปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงผู้ครอบครองทำประโยชน์ เป็น นางมาลี กีรติทวีสุข ซึ่งได้ดำเนินกิจการบ้านพักนักท่องเที่ยว/รีสอร์ทในชื่อ มาลีรีสอร์ท การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของ มติ ครม. 30 มิ.ย.41 การกระทำของ นางจิตตรา ปัญญาพรม ผู้ที่แจ้งครอบครองฯ ข้างต้น

ถือว่าเจตนาสละสิทธิ์การครอบครองพื้นที่ และผู้ซื้อ/ครอบครอง ทำประโยชน์รายใหม่ในปัจจุบันจะไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น และยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 8-0-70 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 33 รายการ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนางมาลี กีรติทวีสุข

1.2 บ้านสวนริมธาร ผู้ครอบครองมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) มาแสดง และได้ตรวจสอบเอกสารกับสำนักงานที่ดินเชียงใหม่ สาขาเชียงดาว จึงได้รังวัดพื้นที่ใช้ประโยชน์ตามเอกสาร น.ส.3 ก. พบว่ามีความถูกต้องตรงกัน ในส่วนของพื้นที่ที่ทำประ โยชน์ เกินออกมาจาก น.ส.3 ก. จากการพบว่าเป็นแปลงสำรวจถือครองเพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ ตาม มติ ครม. 30 มิ.ย.41 ซึ่งได้ปฏิบัติติอยู่ในเงื่อนไขทุกข้อ

1.3 วิลล่า เดอวิว รีสอร์ท ผู้ครอบครองมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และได้ตรวจสอบเอกสารกับสำนักงานที่ดินเชียงใหม่ สาขาเชียงดาว จึงได้รังวัดพื้นที่ใช้ประโยชน์ตามเอกสาร น.ส.3 พบมีการทำประโยชน์เกินขอบเขตพื้นที่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ข้างต้น โดยไม่มีเอกสารสิทธิอื่นใดจำนวน 1 แปลง 4-2-34 ไร่ และแปลงที่ 2 มีการแจ้งครอบครอง เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 เป็น นายวสันต์ ฤทธิ์แก้ว ซึ่งได้ดำเนินกิจการบ้านพักนักท่องเที่ยว/รีสอร์ทในชื่อ วิลล่า เดอวิว รีสอร์ท การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดเงื่อนไข และวัตถุประสงค์ของ มติ ครม. 30 มิ.ย.41

การกระทำของ นายวสันต์ ฤทธิ์แก้ว ผู้ที่แจ้งครอบครองฯ ข้างต้น ถือว่าเจตนาสละสิทธิ์การครอบครองพื้นที่ และผู้ซื้อ/ครอบครอง ทำประโยชน์รายใหม่ในปัจจุบัน จะไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น และยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่พบว่าผู้ครอบครองทำประโยชน์ คือ นายสุกิจ กงทอง พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ส่วนเกิน จากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เนื้อที่ จำนวน 1-1-95 ไร่ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 6-2-93 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 14 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับนายสุกิจ กงทอง

1.4 บ้านพักตากอากาศของ นายมนัส ดาวมณี ผู้ครอบครองนำเอกสาร สค.1 มาแสดง พนักงานเจ้าหน้าที่ และได้ตรวจสอบเอกสารกับสำนักงานที่ดินเชียงใหม่ สาขาเชียงดาว แล้วมีการแก้ไขข้อมูลและปลอมแปลงเอกสารพิจารณาข้อมูล เชื่อได้ว่าเป็น สค.1 ไม่ตรงกับแปลงปัจจุบัน และพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการแจ้งครอบครอง เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 ไว้แต่อย่างใด พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 1-0-50 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 8 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ นายมนัส ดาวมณี

1.5 ม่อนผ่อดอย มีการแจ้งครอบครองเพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย 41 ไว้ในชื่อ วันชัย ลิกา เนื้อที่ 17 – 1 – 1 ไร่ ซึ่งได้ปฏิบัติติอยู่ในเงื่อนไขทุกข้อ

1.6 บ้านดิน เชียงดาว ผู้ครอบครองนำเอกสารการแจ้งครอบครอง เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 เป็น นายธีรพล ตนคะยอม ซึ่งได้ดำเนินกิจการบ้านพักนักท่องเที่ยว/รีสอร์ทในชื่อ บ้านดิน เชียงดาว การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของ มติ ครม. 30 มิ.ย.41 การกระทำของ นายธีรพล ตนคะยอม ผู้ที่แจ้งครอบครองฯ ข้างต้น ถือว่าเจตนาสละสิทธิ์การครอบครองพื้นที่ และผู้ซื้อ/ครอบครอง ทำประโยชน์รายใหม่ในปัจจุบัน จะไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น และยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่าผู้ครอบครองทำประโยชน์ คือ น.ส.วราภรณ์ ฉันทะ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 2-1-68 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 12 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ นางสาววราภรณ์ ฉันทะ

1.7 เชียงดาวเนส ผู้ครอบครองนำเอกสารการแจ้งครอบครอง เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 เป็น นายกัลกีย์ เมตตันตคุปต์ ซึ่งได้ดำเนินกิจการบ้านพักนักท่องเที่ยว/รีสอร์ทในชื่อ เชียงดาวเนส การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขและวัตถุ ประสงค์ของ มติ ครม. 30 มิ.ย.41 การกระทำของ นายกัลกีย์ เมตตันตคุปต์ ผู้ที่แจ้งครอบครองฯ ข้างต้น ถือว่าเจตนาสละสิทธิ์การครอบครองพื้นที่ และผู้ซื้อ/ครอบครอง ทำประ โยชน์รายใหม่ในปัจจุบัน จะไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น และยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่าผู้ครอบครองทำประโยชน์ คือ นางกมลวรรณ คาวาลีโร พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 11-3-32 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 35 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ นางกมลวรรณ คาวาลีโร

1.8 บ้านสวนบุษผา ผู้ครอบครองนำเอกสารการแจ้งครอบครอง เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 เป็น นายเม็ด อุไร ซึ่งได้ดำเนินกิจการบ้านพักนักท่องเที่ยว/รีสอร์ทในชื่อ บ้านสวนบุษผา การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของ มติ ครม. 30 มิ.ย.41 การกระทำของ นายเม็ด อุไร ผู้ที่แจ้งครอบครองฯ ข้างต้น ถือว่าเจตนาสละสิทธิ์การครอบครองพื้นที่ และผู้ซื้อ/ครอบครอง ทำประโยชน์รายใหม่ในปัจจุบันจะไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น และยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่าผู้ครอบครองทำประโยชน์ คือ นายวีระเชษฐ์ มูลสุรินทร์ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 1-2-11 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 35 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ นายวีระเชษฐ์ มูลสุรินทร์

2.ตรวจสอบพื้นที่/บ้านพัก/รีสอร์ท บริเวณบ้านนาเลาใหม่ หมู่10 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จำนวน 33 ราย ดังนี้

ตามบันทึกข้อตกลง เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดิน บ้านนาเลาใหม่ หมู่ 10 ต. เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินผิดเงื่อนไขการแจ้งครอบครองที่ดินในเขตป่า เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.41 การปลูกพืชเสพติด (ฝิ่น) และการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่า ซึ่งตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ให้คงเหลือบ้านพักนักท่องเที่ยว ในลักษณะโฮมสเตย์ จำนวนไม่เกิน 2 หลัง พื้นที่กางเต็นท์ไม่เกิน 4 หลัง ระเบียงชมวิวไม่เกิน 1 ระเบียง ซึ่งในขณะนั้นมีผู้ประกอบการบ้านพักนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ร่วมทำบันทึกข้อตกลงรวม จำนวน 19 ราย

จากผลการลาดตระเวนตรวจปราบปรามในพื้นที่ บ้านนาเลาใหม่ ของเขตฯ เชียงดาว ในห้วงที่ผ่านมา พบการกระทำผิดกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้ มีการทำไม้ การบุกรุกแผ้วถางพื้นที่เพิ่มเติม และจากการตรวจสอบบ้านพักนักท่องเที่ยว เมื่อเดือน ธ.ค.61 ที่ผ่านมา พบว่ามีการก่อสร้างเพิ่มจำนวนบ้านพักนักท่องเที่ยว เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขของบันทึกข้อตกลงฯ จึงได้มีการสนธิกำลังในครั้งนี้ขึ้น โดยมีผลการตรวจสอบ ดังนี้
2.1 ปัจจุบันผู้ประกอบการที่ร่วมทำบันทึกข้อตกลงฯ จำนวนทั้ง 19 ราย ยังคงดำเนินกิจการบ้านพักนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง จำนวน 17 ราย ยกเลิกกิจการ/รื้อถอน จำนวน 2 ราย และมีรายใหม่ก่อสร้างเพิ่มเติม จำนวน 16 ราย รวม 33 ราย
2.2 พบว่า มีสิ่งปลูกสร้างตามบันทึกข้อตกลงฯ จำนวน 9 ราย
2.3 พบว่า มีการต่อเติม/สร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่ม จำนวน 24 ราย
2.3.1 ยินยอมรื้อถอน ทั้งหมด 19 ราย
2.3.2 ไม่ยินยอมรื้อถอน จำนวน 5 ราย พื้นที่รวมทั้งสิ้น 0-1-7 ไร่ จำนวนสิ่งปลูกสร้าง 11 รายการ ประกอบด้วย

  • โฮมสเตย์ชื่อ ระเบียงดาว 1 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 0-0-4 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 1 รายการ(ร้านอาหาร) ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นางสาวอะเหลมะ ยี่ปา
  • โฮมสเตย์ชื่อ ระเบียงดาว 2 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 0-0-8 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 3 รายการ(บ้านระเบียงดาว2A บ้านระเบียงดาว2B ระเบียงกางเต้นท์) ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ น.ส.รัตติยา เลายี่ปา
  • โฮมสเตย์ชื่อ ระเบียงดาว3 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 0-0-5 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 3 รายการ(บ้านระเบียงดาว 3A บ้านระเบียงดาว 3B ระเบียงกางเต็นท์) ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ น.ส.อะหมี่มะ ยี่ปา
  • โฮมสเตย์ชื่อ บ้านฮักเฮือนสุข1 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 0-0-13 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 3 รายการ(ร้านอาหาร บ้านพัก 1 บ้านพัก 2) ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ น.ส.อฑิตยา เลายี่ปา
  • โฮมสเตย์ชื่อ บ้านฮักเฮือนสุข 2 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ จำนวนพื้นที่รวม 0-0-2 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จำนวน 1 รายการ (ลานกางเต็นท์)ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ น.ส.ภัทรวดี เลายี่ปา

ร่วมแสดงความคิดเห็น