โรคอาหารเป็นพิษ แม้จะเป็นโรคที่ไม่ได้มีอาการร้ายแรงมาก แต่ก็เป็นโรคที่เกิดขึ้นค่อนข้างง่าย โดยอาหารเป็นพิษเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อนอย่างเมืองไทยที่เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และพบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งในประเทศไทย หลายคนที่เกิดอาการขึ้นมาแล้ว ปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษา อาจจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ เกิดภาวะช็อก หมดสติ จนถึงขั้นเสียชีวิต
วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” ได้นำสาระความรู้จากโรคอาหารเป็นพิษ มาให้ท่านผู้อ่านได้สังเกตอาการและเฝ้าระวังโรคกัน
อาหารเป็นพิษเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
อาหารเป็นพิษ เกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเข้าไปไม่นาน จากการรับประทานอาหารที่มีสารปนเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรืออาหาร มักจะมีอาการ ดังนี้
- รู้สึกไม่สบาย
- รู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง หรืออาเจียนเป็นเลือด
- มีอาการปวดท้องแบบบิดเกร็งเป็นพัก ๆ เนื่องจากการบีบตัวของลำไส้
- ถ่ายท้อง ถ่ายมีมูกหรือเลือดปน
- ไม่อยากอาหาร
- เหนื่อยล้า วิงเวียนศีรษะ หมดเรี่ยวแรง ปากแห้ง ตาโบ๋ กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะน้อย เนื่องจากมีอาการสูญเสียน้ำ
- มีอาการทางระบบประสาท เช่น มองเห็นไม่ชัด แขนเป็นเหน็บ หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น
- มีไข้สูง
ภาวะแทรกซ้อนของอาหารเป็นพิษ
ภาวะอาหารเป็นพิษ อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ จากการถ่ายท้องและการอาเจียน หรืออาจทำให้ผู้ป่วยบางรายรับประทานอาหารไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะช็อกและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก คนสูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น นอกจากนี้ เชื้อโรคบางชนิดยังก่อให้เกิดอาการรุนแรงต่ออวัยวะอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น เชื้ออีโคไลชนิดรุนแรง (Shiga Toxin-Producing E. Coli) ที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและไตวาย จนอาจถึงแก่ชีวิตได้ เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษ
- โดยสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต และเชื้อไวรัส ที่เกิดขึ้นจากพืช 73 เปอร์เซ็นต์ จากสัตว์ 23 เปอร์เซ็นต์ และจากสารเคมีอีก 2 เปอร์เซ็นต์ ที่ปนเปื้อนจากแหล่งต่าง ๆ มาสัมผัสกับอาหาร
- การรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะอาหารทะเล รวมไปถึงอาหารค้างคืน
- การทิ้งอาหารสดเอาไว้นานก่อนนำมาปรุง ซึ่งอยู่ในอุณหภูมิสูงที่จนเกินไป ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตในสภาวะที่เหมาะสม ทำให้พวกมันแพร่กระจายตัวอย่างรวดเร็ว
- การละลายอาหารแช่แข็งที่ไม่ถูกวิธี ทำให้เชื้อโรคไม่ถูกทำลาย กลายเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษได้
- การใช้มือหรือภาชนะที่ไม่สะอาดมาประกอบอาหาร หรือใช้ขณะรับประทานอาหาร
- อาหารกระป๋องแบบสำเร็จรูปบางชนิดมีสปอร์ในอาหาร เมื่อเปิดบรรจุภัณฑ์จะทำให้สปอร์เหล่านั้นตกลงมาใส่อาหาร และกลายเป็นพิษต่อร่างกายตามมา
การป้องกันการเกิดโรค
- ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร
- เลือกทานอาหารที่สุก สะอาด
- ควรละลายอาหารแช่แข็งด้วยไมโครเวฟ ไม่ควรปล่อยให้ละลายเองตามธรรมชาติ
- ไม่ควรทานอาหารที่เก็บไว้นาน โดยเฉพาะอาหารที่มีรถเปรี้ยว
- หากต้องทานอาหารนอกบ้านควรเลือกร้านที่สะอาด ผู้ปรุงแต่งตัวสะอาด สถานที่ถูกสุขลักษณะ
- ควรเก็บเนื้อสัตว์สดแยกจากอาหารชนิดอื่น เพราะเชื่อแบคทีเรียส่วนใหญ่อยู่ในอาหารจำพวกนี้
การรักษาและการดูแลตัวเอง
1.ผู้ที่มีอาการอาหารเป็นพิษส่วนใหญ่จะหายได้เองโดยไม่จำเป็นต้องพบแพทย์
- แนะนำให้พักผ่อนและดื่มน้ำให้มากเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปและป้องกันร่างกายขาดน้ำ
- ทานอาหารอ่อนๆ และมีรสจืดในปริมาณน้อยก่อนในช่วงแรก เช่น ขนมปัง ขนมปังกรอบ กล้วย หรือข้าว ไปจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
2.กรณีที่อาการของผู้ป่วยรุนแรงมาก มีภาวะท้องร่วงรุนแรงร่วมกับมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส อาเจียน ไม่รู้สึกดีขึ้น มีมูกเลือดปน ควรรีบเข้ารับการรักษาจากแพทย์ในโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันภาวะช็อก นอกจากนี้ บุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากพบว่ามีอาการบ่งชี้ของภาวะอาหารเป็นพิษ ได้แก่
- ผู้หญิงตั้งครรภ์
- ผู้สูงอายุ
- เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแออย่าง ผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือติดเชื้อ HIV รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคลิ้นหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต เป็นต้น
สรุป
การเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด หลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารพิสดารที่ไม่รู้จัก เพราะอาจจะมีสารพิษปนเปื้อนอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว จะทำให้เราปลอดภัยจากโรค ดังสุภาษิตที่ว่า ความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ
เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ผู้สูงอายุ
- โรคเบาหวาน
บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
- กินผิดวิธีเสี่ยงโรค
- สดชื่น! 5 วิธีป้องกันและสลัดอาการเมาค้างหลังปาร์ตี้
- สายปาร์ตี้ควรระวัง พิษจากสุรา ส่งผลถึงตาย!!!
- มะเร็งตับ…โรคร้ายที่ไม่มีสัญญาณเตือน!!!
- หนักเค็ม! ทำให้ไตพัง เสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
- โซเดียมสูง! เสี่ยงโรค ปรับวิถีการกินเลี่ยงเกิดโรค
- ไขมันทรานส์ ความเสี่ยงที่มากับอาหาร
- น้ำเปล่า ดื่มน้อย เสี่ยงติดเชื้อในท่อปัสสาวะ
- ควรรู้ เคี้ยวช้า ส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าที่คิด
- กลืนเมล็ดผลไม้ อันตรายมากกว่าที่คิด
- เบาหวานเป็นโรคของคนอ้วนจริงหรือ ?
ร่วมแสดงความคิดเห็น