ทำไมต้อง “จุดประทัด” วันตรุษจีน

ช่วงเทศกาลตรุษจีน เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่าทำไมถึงจุดประทัดวันตรุษจีน มีประวัติความเป็นมาและความหมายอย่างไรกันหนอ…

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการจุดประทัดให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้หายสงสัยกันนะคะ

ในสมัยโบราณที่ “ประเทศจีน” มีตัวประหลาดที่มีชื่อว่า “ซาน เซียว” รูปร่างคล้ายคนแคระแต่วิ่ง เร็วมาก ทุก ๆ ปีเวลาใกล้ปีใหม่ตัวซานเซียวจะมาขโมยของกินในหมู่บ้าน ชาวบ้านจะวิ่งขับไล่แต่ไม่ทัน หรือถ้าทันจับตัวซานเซียวได้ ผู้ที่จับต้องตัววานเซียวก็จะเจ็บป่วยทำให้คนไม่กล้าสู้กับตัวซานเซียว วันหนึ่งชาวบ้านออกไปตัดไม้ไผ่ และหุงข้าวโดยเอาปล้องไม้ไผ่เป็นฟืนระหว่างที่กำลังหุง ข้าวอยู่นั้น ตัวซานเซียวกลุ่มหนึ่งก็มาพบและตรงเข้ามาจะหยิบข้าวของกิน ชาวบ้านต่างตกตะลึง ด้วยความกลัว ทันใดนั้นปล้องไม้ไผ่ที่โดนไฟก็ประทุระเบิดเสียงดัง ตัวซานเซียวทั้งกลุ่มสะดุ้งตกใจพากันหยุดนิ่งไม่กล้าเข้ามา ชาวบ้านจึงโยนปล้องไม้ไผ่เข้าที่กองไฟอีก เกิดเสียงปล้อง ไม้ไผ่แตกดัง เป็นระยะ ๆ พวกซานเซียวก็พากันวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว

ตั้งแต่นั้นมาเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ที่พวกตัวซานเซียวจะลงมาขโมยของกิน ชาวบ้านก็จัดหาปล้องไม้ไผ่ไว้เป็นจำนวนมากและเอาใส่กองไฟเพื่อให้เกิดเสียงประทุดังขับไล่พวกซานเซียว

ต่อมาก็ได้มีการนำดินประสิวบรรจุในปล้องไม้ไผ่เล็กๆ แล้วนำไปเผาไฟเพื่อให้ระเบิดแล้วเป็น ควัน เพื่อขับไล่ตัวซานเซียวและภูตผีร้ายตลอดจนสรรพโรคภัยต่างๆ และมักจุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ในตรุษจีนของคนจีน

ประทัด มีอยู่ 4ประเภท

ประทัดจิ๋วหรือกระเทียม เป็นประทัดขนาดเล็กที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ทำจากดินปืนผสมก้อนกรวดห่อด้วยกระดาษหรือพลาสติกแต่ละชิ้นมีขนาดไม่เกิน 2 ซม. ไม่มีชนวน การระเบิดเกิดจากการเขวี้ยงลงพื้นหรือให้กระทบกับวัตถุ ตัวกรวดจะเสียดสีกับดินประสิวและเกิดการระเบิดขึ้น

ประทัดหนู เป็นประทัดขนาดเล็กถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวจีนเพื่อใช้ข่มขู่ศัตรูรวมถึงทำให้ม้าพยศ ปัจจุบันประทัดหนูเป็นประทัดขนาดเล็ก เมื่อถูกจุดจะวิ่งวนไปมาพร้อมกับพ่นประกายไฟออกมาบนพื้น ตัวประทัดมักทำจากกระดาษแข็ง ก้นของประทัดมักจะทำให้กลมหรือมนเพื่อให้เคลื่อนที่ได้สะดวก และมีปลายชนวนยื่นออกมาจากด้านหนึ่ง คนไทยมักเรียกว่า ผีเสื้อ

ประทัดจีน เป็นประทัดอีกตัวที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ประทัดจีนมักใช้ในงานเทศกาลตรุษจีนรวมถึงเทศกาลงานมงคลต่างๆ ตัวประทัด 1 ลูก มีขนาดประมาณ 5 ซม. หรือใหญ่กว่าตัวประทัดทำจากกระดาษสี (ส่วนมากเป็นสีแดง)ภายในบรรจุดินปืนหรือดินประสิวและมีชนวนทำจากกระดาษไผ่ยื่นออกมา จากนั้นจึงนำมามัดเป็นแผงหรือม้วนให้มีประทัดมากกว่า 100 ลูกขึ้นไป การจุดสามารถวางจุดบนพื้นหรือจะแขวนไว้จุดก็ได้ เมื่อจุดแล้วตัวประทัดจะระเบิดต่อๆกันไปเกิดเสียงดังต่อเนื่อง ชาวจีนเชื่อกันว่าจะเป็นการขับไล่ภูตผีปีศาจและนำสิริมงคลมาให้

ประทัดยักษ์ เป็นประทัดขนาดใหญ่ถือว่าเป็นอาวุธอันตรายมีขนาดใหญ่เกิน 10 ซม. ขึ้นไปอาจห่อกระดาษหรือใส่ในท่อพีวีซี มีลักษณะคล้ายไดนาไมต์แต่อานุภาพน้อยกว่า มีอันตรายต่อใบหูรวมถึงโสตประสาทและอาจอันตรายถึงชีวิต ปัจจุบันมักเป็นอาวุธหรือนำมาใช้ก่อความวุ่นวาย

การจุดประทัดอาจเป็นเรื่องที่น่าสนุก น่าตื่นเต้น แต่ก็อาจเกิดอันตรายได้เช่นกัน
อันตรายจากการจุดประทัด มีผลกระทบต่อสุขภาพ มีดังนี้

1.อันตรายจากการเกิดไฟไหม้และการระเบิด จะเกิดความเสียหายต่อชีวิต การบาดเจ็บ และทรัพย์สินได้

2.อันตรายจากการได้รับสารเคมี เช่น สารแบเรียมไนเตรต ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อหู ตา จมูก และผิวหนัง ทำลายตับ ม้าม และเกิด อัมพาตที่แขน ขา และบางรายอาจทำให้เสียชีวิตได้

3.อันตรายจากความดังของเสียงระเบิดมีระดับเสียงกระแทกสูงถึง 130 เดซิเบล เอ มีผลทำให้เราเกิดอาการหูตึงชั่วคราว แต่หากได้ยินติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลทำให้เกิดอาการหูตึงถาวร

4.อันตรายจากความร้อนของประทัด ดอกไม้ไฟ หรือพลุ สามารถทำให้ผิวหนังไหม้ได้

ปัจจุบันการเล่นประทัดยังคงมีอยู่ตามเทศกาลต่างๆไม่ว่าจะเป็นวันขึ้นปีใหม่หรือวันตรุษจีน ก็ยังได้ยินเสียงดังของประทัด เพราะความเชื่อว่าเป็นการขับไล่สิ่งไม่ดีและเป็นการเฉลิมฉลองในวันขึ้นปีใหม่นั่นเองค่ะ แต่ถึงอย่างไรการจุดประทัดก็ควรเล่นอย่างระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอันตรายต่อผู้เล่นได้ค่ะ

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

อ้างอิงข้อมูลจาก : www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-5/no26/18.htm , www.th.wikipedia.org/wiki , http://www2.thaihealth.or.th/Content

ร่วมแสดงความคิดเห็น