หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระนักปราชญ์แห่งวัดบ้านไร่

ในวันอังคาร ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2562 เป็นวันพระราชทานเพลิงศพหลวงพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ พระเกจิดังระดับประเทศที่คนไทยทุกคนรู้จักและให้ความเคารพศรัทธา เนื่องจากท่านได้สร้างคุณูปการหลาย ๆ อย่างให้กับประเทศ รวมไปถึงวัตถุมงคลและคำสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหลวงพ่อคูณ

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะนำเสนอประวัติเบื้องต้นของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ท่านพึ่งมรณภาพไปในช่วงเดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ.2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ประวัติหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

“หลวงพ่อคูณ” ถือกำเนิดที่บ้านไร่ ม.6 ต.กุดพิมาน อ.อ่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในครอบครัวของชาวไร่ชาวนาที่อยู่ห่างไกลความเจริญ บิดาชื่อ นายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อ นางทองขาว ฉัตรพลกรัง เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2466 ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน เป็นบุตรชายคนหัวปี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน คือ
1. หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
2. นายคำมั่ง แจ้งแสงใส
3. นางทองหล่อ เพ็ญจันทร์
มารดา คือ นางทองขาว เล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่า ก่อนตั้งครรภ์ กลางดึกของคืนวันหนึ่งเวลาประมาณตี 3 นางได้ฝันเห็นเทพองค์หนึ่ง มีกายเรืองแสงงดงาม ลอยลงมาจากสวรรค์ มาที่บ้านของนาง และกล่าวว่า เจ้า และสามีเป็นผู้มีศีลธรรม เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งปวง ประกอบการงานอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งยังสร้างคุณงาม ความดีมาตลอดหลายชาติ เราขอำนวยพรให้เจ้า และครอบครัวมีแต่ความสุขสวัสดิ์ตลอดไป และเทพองค์นั้นยังได้มอบดวงแก้วใสสะอาดสุกว่างให้แก่นางด้วย
“ดวงมณีนี้ เจ้าจงรับไปและรักษาให้ดีต่อไปภายหน้า จะได้เป็นพระพุทธสาวกหน่อเนื้อพระชินวร เพื่อสืบพระพุทธศาสนา เป็นเนื้อนาบุญ ที่พึ่งของสัตว์โลกทั้งปวง”

หลวงพ่อคูณ ในวัยหนุ่ม

การอุปสมบทของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

“หลวงพ่อคูณ” อุปสมบท เมื่ออายุได้ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2487 (หนังสือบางแห่งว่า ปีพ.ศ.2486) ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก โดยพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระกรรมวาจาจารย์ คือพระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์ หลวงพ่อคูณได้รับฉายาว่า “ปริสุทโธ” หลังจากที่หลวงพ่อคูณอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (บางตำรากล่าวว่าเมื่อบรรพชาแล้วได้เล่าเรียนกับหลวงพ่อคง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนหักใหญ่ก่อนแล้ว หลวงพ่อคงจึงนำไปฝากกับหลวงพ่อแดง) หลวงพ่อแดง เป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ อย่างเคร่งครัด และทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คน และลูกศิษย์เป็นอย่างมาก
หลวงพ่อคูณตั้งใจร่ำเรียนพระธรรมวินัย ตามรอยพระพุทธองค์ ที่ตรัสไว้ว่า …“เทว เม ภิกขเว วิชชา ภาคิยา” ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิชานั้นมีอยู่ 2 อย่าง คือ
1. สมถะ ความสงบระงับแห่งจิตที่ปราศจากกิเลสอาสวะทั้งปวง
2. วิปัสสนา ความเห็นแจ้งซึ่งธรรมเบื้องสูงอันสุขุมลุ่มลึก ในทางพุทธศาสนา และจงเดินตามหนทางนั้นเถิด

สมเด็จพระญาณสังวร (ซ้าย) กับ พระเทพวิทยาคม (ขวา) ขณะนั่งวิปัสนา

การมรณภาพของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

กระทั่งปีพ.ศ.2558 “หลวงพ่อคูณ” เข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ด้วยภาวะหยุดหายใจ ปอดรั่ว ที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ต่อมาอาการอาพาธทรุดหนัก แพทย์ต้องฟอกไต และปั๊มหัวใจหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ หลวงพ่อคูณมรณภาพเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2558 สิริรวมอายุ 92 ปี พรรษา 70

หลวงพ่อคูณ กับท่านั่งยอง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ตามพินัยกรรมที่ทำขึ้นที่วัดบ้านไร่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2543 มีสาระสำคัญคือ

1.สรีระของหลวงพ่อเมื่อถึงแก่มรณภาพแล้วมอบให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่หรือศึกษาทางแพทย์
2.กำหนดการฌาปนกิจ มอบให้คณะแพทยศาสตร์ มข. และศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทดและนายอำเภอด่านขุนทดเป็นเจ้าภาพในการฌาปนกิจ รายละเอียดต่าง ๆ นั้นคือให้บำเพ็ญกุศลศพที่คณะแพทยศาสตร์ มข. และให้นำศพไปถึง มข.ภายใน 24 ชั่วโมงซึ่งเขียนไว้ชัดเจน เมื่อถึงแล้วให้ทำการบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 7 วัน ภายใน 7 วันนั้นค่าใช้จ่ายให้นำเงินที่ได้บริจาคไว้จำนวน 300,000 บาทให้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการบำเพ็ญกุศล หากมีผู้มาทำบุญก็ให้นำเงินดังกล่าวไปคืนให้คณะแพทยศาสตร์ที่ให้ไว้ หากยังมีเงินเหลืออีกให้นำเงินไปรักษาสงฆ์อาพาธที่อยู่ รพ.สงฆ์ใน จ.ขอนแก่น โดยสรุปแล้ว พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณปริสุทโธ เกิดในจังหวัดนครราชสีมา

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ซ้าย) กับ พระเทพวิทยาคม (ขวา) ขณะสนทนาธรรม

โดยสรุปแล้ว พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณปริสุทโธ เกิดในจังหวัดนครราชสีมา โดยก่อนที่มารดาจะตั้งท้องได้ฝันเห็นเทพองค์หนึ่งมาประทานพรให้ว่าลูกของตนจะเป็นผู้ที่สืบทอดศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่ เมื่อหลวงพ่อคูณเกิดขึ้นมาอายุได้ 21 ปีก็ อุปสมบทเป็นพระได้รับฉายาว่า ปริสุทโธ หลังจากนั้นท่านก็ได้ศึกษาธรรมะกับอาจารย์ต่าง ๆ ทั้งในภาคอีสานหรือบางครั้งท่านก็ไปธุดงค์ถึงเขมรเลยทีเดียว นอกจากนั้นท่านยังได้สร้างวัตถุมงคล หลักธรรมคำสอน มีศิษยานุศิษย์ศรัทธาทั่วทั้งประเทศ จนเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ.2558 เหล่าสาวกหลวงพ่อคูณก็ต้องร่ำไห้เมื่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้มรณภาพที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา แต่ด้วยพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณต้องนำสรีระไปมอบให้แก่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น แล้วจึงบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน สุดท้ายก็ได้มีกำหนดการพระราชทานเพลิงศพพระเทพวิทยาคมหรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2562 คุณงามความดีที่หลวงพ่อคูณสร้างไว้จะอยู่ในความทรงจำของคนไทยและลูกหลานสืบไป

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
อ้างอิงข้อมูลจาก : www.rakkorat.com และ www.pptvhd36.com
รูปภาพจาก : www.pptvhd36.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น