ยาคุมกับเพศที่สาม อันตรายกว่าที่คิด

ทุกคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “กินยาคุมกำเนิด ผิวดี มีหน้าอก ลดสิว กันมาแล้ว แต่ทราบกันหรือไม่ หากทานยาคุมกำเนิดโดยไม่ปรึกษาแพทย์ หรือกินยาคุมตามที่เพื่อนแนะนำ อาจจะแนะนำให้ทานยี่ห้อนี้ผสมกับยี่ห้อนั้นบ้าง การทานแบบนี้อาจทำให้เรารับยาในปริมาณที่มากเกินไป จนเกิดเป็นโรคร้ายได้

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าเรื่อง ยาคุมกับเพศที่สาม ให้ฟัง

ยาคุมกำเนิดมีหลากหลายยี่ห้อ และหลากหลายแบบ

ยาคุมกำเนิดคืออะไร

ยาคุมกำเนิด (Contraceptive Pill หรือ Birth Control Pill) เป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิด ด้วยการรับประทานยาเม็ด ซึ่งบรรจุฮอร์โมนเพศหญิงไว้ ออกฤทธิ์ต่อการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ทั้งปากมดลูก ผนังมดลูก และรังไข่ ผู้หญิงที่รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้

ชนิดของยาคุม
ยาคุมกำเนิดแบ่งตามคุณสมบัติเป็น 2 ชนิด คือ

  1. ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม (Combined Pill) ตัวยาจะบรรจุฮอร์โมนสังเคราะห์เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ยาจะหยุดกระบวนการตกไข่ในเพศหญิง สร้างเมือกที่บริเวณปากมดลูก ทำให้ให้สเปิร์มเข้าไปผสมกับไข่ได้ยากขึ้น และทำให้ผนังมดลูกบาง เพื่อไม่ให้ไข่ฝังตัวที่ผนังมดลูกได้สำเร็จ
  2. ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนตัวเดียว (Progestogen-only Pill) ตัวยาจะบรรจุฮอร์โมนโปรเจสโตเจนไว้เพียงชนิดเดียว ยาจะทำให้เกิดการสร้างเมือกหนาบริเวณปากมดลูก ป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าไปผสมกับไข่ ส่งผลต่อระบบท่อนำไข่ ให้ไข่ผ่านเข้าไปในท่อนำไข่ได้ยากขึ้น และทำให้ผนังมดลูกบางลง จนไม่เอื้อต่อการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว
ธงสีที่ทำขึ้นเพื่อเพศที่สาม

เพศที่สาม หรือเพศทางเลือกคืออะไร

เพศทางเลือก คือ กลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ หรือรสนิยมทางเพศ ที่แตกต่างไปจากคนส่วนใหญ่ในสังคม สามารถจำแนกได้ ดังนี้

  1. กลุ่มที่มีความหลากหลายด้านอัตลักษณ์ทางเพศ คนที่มีเพศที่ทางร่างกายกับจิตใจไม่ตรงกัน เช่น ร่างกายเกิดมาเป็นผู้ชาย แต่จิตใจรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้หญิง
  2. กลุ่มที่มีความหลากหลายด้านรสนิยมทางเพศ คนเราสามารถมีความรู้สึกรัก รู้สึกดึงดูด หรือมีอารมณ์ทางเพศต่อกัน ในลักษณะที่หลากหลายได้ มีทั้งรักเพศตรงข้าม รักเพศเดียวกัน รักทั้งสองเพศ หรือไม่มีความรู้สึกทางเพศต่อเพศใดเลยก็ได้
  3. กลุ่มที่มีความหลากหลายด้านการแสดงออกทางเพศ เป็นการแสดงออกภายนอกของบุคคล ซึ่งอาจถูกตีความตามบริบทของสังคมนั้น ๆ เช่น คนที่ไว้ผมยาวสวมกระโปรงต้องเป็นผู้หญิง

เพศที่สามเกิดขึ้นได้อย่างไร

  1. เกิดขึ้นจากองค์ประกอบทางกาย เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน หรือสารเคมีในสมอง
  2. เกิดขึ้นจากองค์ประกอบทางจิตใจ เช่น การเลี้ยงดู วิธีคิดของแต่ละคน
  3. เกิดขึ้นจากองค์ประกอบทางสังคม และสิ่งแวดล้อม เช่น การเลี้ยงดู เพื่อน ความคาดหวัง การยอมรับจากสังคม หรือวัฒนธรรมที่หลากหลาย

ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้พ่อแม่บังคับ หรือชักจูงบุตร ให้เปลี่ยนรสนิยมทางเพศ หรืออัตลักษณ์ทางเพศ เพราะเป็นสิ่งที่ฝืนให้เปลี่ยนไม่ได้ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้ที่ถูกบังคับด้วย

ทำไมเพศที่สามจึงกินยาคุมกำเนิด?

  1. เพื่อเพิ่มปริมาณเอสโทรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิงให้มาก
  2. เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีระ เช่น ผิวดีขึ้น หนวดเคราไม่ขึ้น เสียงไม่แตก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนมโตขึ้น เชื่อกันว่าการกินยาคุมของเพศที่สามจะกินย้อนศร จากเม็ดปลายเดือนไปหาต้นเดือน ด้วยเชื่อว่าเป็นการกระตุ้นเอสโทรเจนที่มากกว่า แต่จากการที่สอบถามคนที่กินพบว่าได้ผลได้เหมือน เพราะเป็นยาตัวเดียวกัน และมักเรียกการกินยาคุมว่า “การเทคยา”

ยาคุมกำเนิด ช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกของเพศที่สามได้จริงเหรอ?

การรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมน มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อลดฮอร์โมนเพศเดิม และเสริมฮอร์โมนเพศที่ต้องการ ซึ่งฮอร์โมนที่ใช้ในการข้ามเพศจากชายเป็นหญิง เพื่อช่วยปรับรูปร่างและเสียงให้เหมือนผู้หญิง

ยาคุมกำเนิดทั่วไปจะมี “ฮอร์โมนเอสโตรเจน” ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง มีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตของเต้านมได้บ้าง แต่หากทานยาคุมประเภท Diane-35 นอกจากจะมี Ethinylestradiol 35 microgram ที่เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนแล้ว ยังมี Cyproterone 2 mg ซึ่งมีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชายอยู่ด้วย เพื่อช่วยรักษาโรคที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ในร่างกายของผู้หญิงบางคนที่มีมากเกินไป เช่น ผมร่วง ขนเยอะ ต่อมไขมันอักเสบจากการผลิตไขมันมาก มีสิวมาก หรือมีเสียงแหบห้าว เมื่อทานยาเข้าจะทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่อยู่ในร่างกายของเราเอง และจากยาที่ทานเข้าไป เห็นผลเด่นชัดมากยิ่งขึ้น แต่อาการข้างเคียงดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปเมื่อเราหยุดทาน

ผลข้างเคียงจากการทานยาคุมของเพศที่สาม

  1. ฮอร์โมนเอสโตรเจน มีทั้งชนิดกิน ชนิดฉีด และแผ่นแปะ หรือเจล ชนิดที่แพทย์ไม่แนะนำให้ ได้แก่ อีอี หรือยาคุม เพราะมีผลข้างเคียงต่อหลอดเลือดดำอุดตัน และโรคหลอดเลือดหัวใจ อีกชนิดคือยาคอนจูเกทเอสโตรเจน (Conjugate estrogen) หรือพรีมาริน เพราะวัดระดับยาได้ยาก
  2. ฮอร์โมนต้านฤทธิ์แอนโตรเจน เพื่อลดผลของฮอร์โมนเพศชาย สารที่ต้องระวังคือ ไซโปรเตอโรน อซิเตท (Cyproterone acetate) เพราะมีข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียงต่อตับ
  3. ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เชื่อว่า เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ทำให้เต้านมโตได้ดี แต่บางวิจัยพบว่ายังมีผลต่อการเจริญเติบโตของเต้านมไม่ชัดเจน
ยาคุมแบบแปะ
ความรักเกิดขึ้นได้หลายเหตุผล

สรุป
ถึงแม้แพทย์จะไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิด แต่หากเพศที่สาม ที่จะเปลี่ยนจากชายเป็นหญิง มีอายุน้อยกว่า 35 ปี ยังคงใช้ยาคุมกำเนิดเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงได้ ในระดับที่ค่อนข้างปลอดภัย และยาที่แนะนำให้กิน คือ 17-เบตา เอสทราดิอัล (17-beta estradiol) เอสทราดิอัล วาเลเรท (Estradiol Valerate) แต่อาจมีราคาค่อนข้างสูง ประมาณ 200 – 400 บาท และค่อนข้างหาได้ยากในต่างจังหวัด หากเป็นคนที่อายุมาก มีโรคประจำตัว หรือสูบบุหรี่ ห้ามใช้ยาคุมกำเนิด ต้องเลี่ยงไปใช้ฮอร์โมนตัวอื่น

ที่น่าเป็นห่วงคือ คนข้ามเพศ หรือเพศที่สาม มีการใช้ฮอร์โมนในหลากหลายชื่อ ซึ่งอาจเป็นตัวยาเดียวกัน จึงกังวลว่าจะได้รับยาในขนาดที่สูงเกิน จึงแนะนำให้ดูชื่อตัวยา ก่อนที่จะใช้ฮอร์โมนในชื่อทางการค้าต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับฮอร์โมนเกินขนาด อย่างไรก็ตาม ทางออกที่ดีที่สุดควรใช้ฮอร์โมน ภายใต้การแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันผลเสียที่ตามมานั่นเอง

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

อ้างอิงข้อมูลจาก: www.pobpad.co, www.bangkokhospital.com
www.mgronline.com, www.hilight.kapook.com, www.sanook.com

ร่วมแสดงความคิดเห็น