กล้วย ประโยชน์เยอะ! สรรพคุณมากกว่าที่คิด

“กล้วย” เป็นผลไม้ที่เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับร่างกายของเรา แต่จริง ๆ แล้วประโยชน์ของกล้วยนั้น อาจมีมากกว่าที่เราเคยรู้กันมา กล้วยช่วยได้ทั้งในเรื่องของสุขภาพ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของความสวยความงามได้อีกด้วย และประโยชน์ของกล้วยยังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เพราะถือได้ว่า เป็นผลไม้มากคุณค่าที่เราต่างคุ้นเคยกันดี ทั้งยังหารับประทานได้ง่าย และยังเชื่อว่าเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาบอกถึงประโยชน์ของกล้วย ที่สรรพคุณไม่ใช่แค่เรื่องกล้วย ๆ ให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

กล้วย ดีต่อสุขภาพอย่างไร?

กล้วย 1 ผล ให้พลังงานได้ราว ๆ 100 แคลอรี่ และยังมีน้ำตาลจากธรรมชาติอยู่ถึง 3 ชนิด ทั้งซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย แถมยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียม รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และวิตามินซี ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน นอกจากนี้ยังมีเส้นใย และกากอาหาร กล้วยจึงไม่ใช่เพียงผลไม้ที่ช่วยเพิ่มพลังงานเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดกับร่างกายได้อีกหลายโรคเลยด้วย

กล้วย และประโยชน์ของกล้วยแต่ละชนิด

กล้วยหอม
กล้วยหอม สามารถช่วยเลิกบุหรี่ได้ เพราะมีวิตามินบี 6, บี 12 โพแทสเซียม และแมกนีเซียมอยู่มาก ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคตินได้ดี ทำให้ช่วยลดอาการอยากบุหรี่ได้ดี นอกจากนี้สำหรับผู้หญิง ก่อนมีประจำเดือน ที่มีอาการปวดท้อง ปวดหัว กล้วยหอมก็สามารถช่วยลดอาการเหล่านี้ได้ด้วย

ปลายผลมีจุกเห็นชัด เปลือกบาง เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง แต่ที่ปลายจุกจะมีสีเขียว

กล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้า ช่วยแก้โรคโลหิตจาง โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าห่าม และสุก เพราะมีธาตุเหล็กในปริมาณสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง และยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี แคโรทีน ไนอาซีน และใยอาหาร ที่ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

ผลจะมีเหลี่ยมเล็กน้อย หรืออวบกลมไม่มีเหลี่ยม มีสีเขียวอมเทา ผลสุกเปลือกผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

กล้วยไข่
กล้วยไข่ ช่วยลดริ้วรอย เพราะในกล้วยไข่มีสารต้านอนุมูลอิสระ คือ เบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอความชรา และริ้วรอยต่าง ๆ รวมถึงความเสื่อมของเซลล์ ที่สำคัญยังมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้อร้ายได้

ผลมีลักษณะทรงรีเล็ก เรียงอยู่ในหวี มีผิวลื่น เปลือกบาง

กล้วยหักมุก
กล้วยหักมุก ช่วยแก้โรคกระเพาะ ใครที่ปัญหาเรื่องโรคกระเพาะอาหารบ่อย ๆ กล้วยหักมุกจะช่วยรักษาอาการนี้ได้ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของสารที่เรียกว่า ไซโตอินโดไซด์ 1, 2, 3, 4, 5 ซึ่งช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากแผลในกระเพาะอาหารได้ดีมาก ๆ และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของการท้องเสียได้ด้วย

คล้ายผลกล้วยน้ำว้า แต่ปลายผลจะลีบมากกว่า มองเห็นเหลี่ยมได้ชัดเจนกว่า เปลือกผลหนา

นอกจากนี้แล้ว “กล้วย” ยังมีสารอาหาร และคุณค่าทางโภชนาการอีกมากมายที่เรายังไม่เคยรู้

ประโยชน์ต่าง ๆ ทางโภชนาการของกล้วย

  1. แก้อาการท้องผูก
    สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย และลำไส้ การกินกล้วยเป็นประจำจะช่วยได้ เนื่องจากกล้วยมีทั้งโพรไบโอติกส์ที่ช่วยผลิตแบคทีเรียชนิดดีต่อลำไส้ และกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายต่อลำไส้ออกไป อีกทั้งในกล้วยยังมีฟรุกโตโอลิโกแซกคาไรด์ ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่จะช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องตัวขึ้นมาก
  2. ช่วยรักษาไมเกรน
    อาการปวดหัวไมเกรนเป็นความทรมานสำหรับผู้ป่วยโรคนี้มาก และหากคุณมีอาการปวดหัวไมเกรนบ่อย ๆ แนะนำให้กินกล้วย จะช่วยลดอาการปวดหัวได้ เนื่องจากกล้วยอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ที่จะช่วยบรรเทา และป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนได้
  3. ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น
    กล้วย อุดมไปด้วยกรดอะมิโน และทริปโตเฟน สารประกอบสำคัญของการสร้างเซโรโทนินในสมอง ซึ่งเปรียบเสมือนยาระงับประสาทแบบธรรมชาติ ดังนั้นคนที่นอนหลับยาก การกินกล้วยหลังอาหารมื้อเย็น หรือก่อนนอน จะช่วยทำให้นอนหลับได้สบายขึ้น
  4. ลดความอ้วนได้ดีขึ้น
    กล้วยมีวิตามิน B1 และ B2 คอยช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาล และไขมัน อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ เมื่อกล้วยตกเข้าไปในระบบย่อยอาหารจึงดูดซับน้ำ พองตัว และช่วยทำให้ท้องรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น หากกินกล้วยในตอนเช้าจะช่วยลดความอยากของหวานได้อีกด้วย เพราะความหวานของกล้วยจะเข้าไปเติมเต็มอาการอยากของหวานชนิดต่าง ๆ ที่สำคัญความหวานของกล้วยยังปราศจากแคลอรีอีกด้วย
  5. ช่วยลดความเครียด
    เมื่อเรารู้สึกเครียด ความดันเลือดจะพุ่งขึ้นสูงกว่าปกติ ซึ่งโพแทสเซียมที่มีอยู่ในกล้วยจะช่วยบรรเทาให้ความดันเลือดกลับเข้าสู่ภาวะสงบได้ ในทางโภชนาการจึงถือว่า กล้วยเป็นยาระงับประสาทแบบธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง
  6. บำรุงหัวใจ
    โพแทสเซียม เป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ บำรุงหัวใจให้แข็งแรง ไม่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ และกล้วยมีโพแทสเซียมอยู่สูงมาก แถมมีโซเดียมน้อย ดังนั้นกล้วยจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงหัวใจ และบำรุงระบบหัวใจ และหลอดเลือด ได้ค่อนข้างสูง
  7. บำรุงสายตา
    วิตามิน A บวกกับ เบต้าแคโรทีน และอัลฟา-แคโรทีน ที่มีอยู่ในกล้วย จะช่วยบำรุงสายตา และการมองเห็นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะป้องกันอาการตาพร่ามัว อาการมองเห็นไม่ชัดเจน เพราะกล้วยมีสรรพคุณช่วยในการบำรุงการทำงานของระบบประสาทตา
  8. บำรุงกระดูก
    ถึงแม้กล้วยจะเป็นผลไม้ที่ไม่มีแคลเซียมเลย แต่ฟรุกโตโอลิโกแซกคาไรด์ คาร์โบไฮเดรตที่มีคุณสมบัติเหมือนไฟเบอร์ละลายน้ำได้ ที่มีอยู่ในกล้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบขับถ่าย และส่งเสริมให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมจากอาหารที่กินได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมไปบำรุงกระดูกเพิ่มขึ้นนั่นเอง
  9. ลดอาการโรคโลหิตจาง
    เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง จึงช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตเม็ดเลือดแดงคุณภาพดี ซึ่งช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้ และยังช่วยในกรณีที่ไม่มีแรง ให้กลับมามีกำลังได้อีกด้วย

กินกล้วยยังไงให้ปลอดภัยกับร่างกาย?

กล้วย เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมต่อการบริโภค และนำมาปรุงเป็นอาหารชนิดต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย การรับประทานในปริมาณที่ปกติในรูปแบบของอาหารในชีวิตประจำวันนั้น น่าจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่หากต้องการรับประทาน หรือนำมาใช้เพื่อรักษาโรคในลักษณะใด ๆ ก็ควรระมัดระวัง โดยการใช้อย่างเหมาะสม และถูกวิธี ควรสอบถามแพทย์เพื่อความแน่ใจก่อนว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อโรคที่เป็นอยู่

สรุป
จะเห็นได้ว่ากล้วยนั้นมีประโยชน์อยู่อย่างมากมาย ซึ่งกล้วยก็เป็นผลไม้ที่หาทานได้ไม่ยาก ราคาของกล้วยก็ไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น ๆ แถมยังเต็มไปด้วยสรรพคุณต่าง ๆ ที่ล้วนแต่ส่งผลดีให้กับร่างกายของเราทั้งนั้น ประโยชน์ของกล้วยมีอยู่มากมายขนาดนี้ รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมหันมาทานกล้วยกันให้มากขึ้นด้วยนะคะ หากทานกล้วยเป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราสุขภาพร่างกายแข็งแรง ห่างไกลหมอได้พอสมควรแล้วค่ะ

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
อ้างอิงข้อมูลจาก : health.kapook.com, .pobpad.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

บร็อคโคลี่ ประโยชน์เยอะ ดังยาอายุวัฒนะ

เกรปฟรุ๊ต ผลไม้ลดน้ำหนัก กับข้อห้ามการทานยา

ถั่วเหลือง…สุดยอดธัญพืชต้านโรค

เต้าหู้ ประโยชน์ล้นตัว อย่ามัวเมิน

ร่วมแสดงความคิดเห็น