วิธีทาลิปแบบผิด ๆ ที่ทำให้คุณดูแก่กว่าวัยโดยไม่รู้ตัว

ลิปสติกช่วยทำให้ริมฝีปากของคุณดูโดดเด่น สวยงาม เพิ่มความมั่นใจให้คุณได้ แต่ในทางตรงกันข้าม ลิปสติกก็สามารถลดความมั่นใจของคุณลงได้เช่นเดียวกัน หากคุณทาลิปสติกผิดวิธีก็จะส่งผลให้คุณดูแก่เลยวัยไปเยอะเหมือนกันนะคะ

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะเผยถึงการทาลิปสติกแบบผิดวิธี ที่จะทำให้คุณดูแก่กว่าวัย และไม่ควรทำอย่างยิ่ง จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ

วิธีทาลิปสติกแบบผิด ๆ ที่จะทำให้คุณดูแก่กว่าวัย

1.ไม่สครับริมฝีปาก
ควรหมั่นสครับริมฝีปาก โดยขัดเบา ๆ เป็นประจำหลังอาบน้ำด้วยแปรงสีฟัน หรืออาจใช้น้ำตาลที่ผสมกับน้ำผึ้งและวาสลีนขัดนวดริมฝีปากเบา ๆ แล้วล้างออกให้สะอาด เพื่อให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบและพร้อมสำหรับการทาลิปสติก

เอาวางไว้ใต้ข้อ1 คำบรรยาย ควรสครับปากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

2.ปล่อยให้ริมฝีปากแห้ง
ไม่เพียงแต่จะขัดริมฝีปากเพื่อขัดเซลล์ผิวเก่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คุณควรหมั่นบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยการทาลิปมัน จะช่วยให้ทาลิปสติกได้อย่างเรียบเนียน เพราะหากริมฝีปากแห้งแล้วเวลาทาลิปสติกลงไป นอกจากสีลิปจะเป็นคราบไม่สม่ำเสมอแล้ว ยังทำให้หน้าดูแก่อีกด้วย

3.ไม่ทาลิปไพรเมอร์
หลายคนอาจมองข้ามขั้นตอนการทาลิปไพรเมอร์ไป เพราะคิดว่าไม่สำคัญเท่าไรนัก ซึ่งความจริงแล้วลิปไพรเมอร์ ถือเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียน ทาลิปสติกได้ง่ายและไม่ตกเป็นร่อง แถมยังทำให้ลิปสติกติดทนนานด้วย

การใช้ลิปไพรเมอร์ก่อนทาลิปสติก จะทำให้ลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้น

4.ทาลิปสติกจากแท่งโดยตรง
จริง ๆ แล้ว การทาลิปสติกจากแท่งโดยตรง ก็ไม่ใช่วิธีที่ผิดเสียทีเดียว เพียงแต่อาจเลอะเปรอะเปื้อนริมฝีปากได้ง่ายกว่าการใช้แปรงทาลิปสติก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณสามารถเกลี่ยสีลิปได้สวยเรียบเนียน และสม่ำเสมอ ไม่ทำให้ลิปสติกดูหนาจนเกินไป

5.ไม่ใช้ดินสอเขียนขอบปาก
ดินสอเขียนขอบปากจะช่วยให้คุณทาลิปสติกได้สวยคมมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นตัวช่วยกำหนดพื้นที่ในการทาลิปสติกไม่ให้เลยเส้นขอบปาก ทำให้ทรงของริมฝีปากดูชัดเจน โดดเด่น โดยดินสอขอบปากที่เลือกใช้ ควรมีเฉดสีที่เข้มกว่าสีลิปสติกเล็กน้อย จะช่วยให้ริมฝีปากดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

เอาวางไว้ใต้ข้อ5 คำบรรยาย ดินสอเขียนขอบปากจะช่วยให้คุณทาลิปสติกได้สวยคมมากยิ่งขึ้น

6.เลือกเฉดสีลิปสติกไม่เข้ากับสีผิว
หากคุณอยากทาลิปสติกให้สวยดูดีมีเสน่ห์ สิ่งสำคัญอันดับแรกเลยก็คือควรเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิวของตัวเอง ซึ่งจะช่วยขับผิวของคุณให้ดูสวยยิ่งขึ้น โดยสีลิปสติกที่เหมาะกับแต่ละโทนผิวมีดังนี้
• คนที่มีผิวขาวจะเหมาะกับลิปสติกโทนเย็น เช่น สีชมพู สีส้ม หรือสีแดง หลีกเลี่ยงลิปสีเข้ม ๆ
• คนที่มีผิวสองสีเหมาะกับลิปสติกโทนอุ่นและสว่าง เช่น สีชมพูอมแดง สีแดงอมม่วง ไม่ควรเลือกสีลิปที่เข้มมากเกินไป
• คนที่มีผิวคล้ำนั้น ให้เลือกเฉดสีเข้ม ๆ อย่างเฉดสีน้ำตาล และเฉดสีม่วง เช่น แดงน้ำตาล สีนู้ดน้ำตาล สีช็อกโกแลต

เอาวางไว้ท้ายสุด คำบรรยาย วิธีทาลิปสติกที่ถูกต้อง

7.เลือกสีลิปสติกไม่เหมาะกับรูปปาก
สีลิปสติกจะเป็นตัวเน้นริมฝีปากให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งคุณควรเลือกใช้ลิปสติกที่มีสีที่เหมาะสมกับลักษณะริมฝีปากของคุณ ดังนี้
• คนที่มีริมฝีปากค่อนข้างใหญ่และหนา แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงลิปสติกโทนสีอ่อน หรือสีนู้ด รวมไปถึงการใช้ลิปกลอส เพราะจะทำให้ปากดูเจ่อและใหญ่มากขึ้น โดยควรเลือกใช้ลิปสติกเฉดสีเข้มแทน
• คนที่มีริมฝีปากบาง ควรหลีกเลี่ยงลิปสติกสีเข้ม ๆ แต่ให้ใช้ลิปสติกโทนสีอ่อน จะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น

8.ไม่เซตลิปสติก
การเซตลิปสติกหลังทาลิปเสร็จนั้นจะช่วยให้สีลิปสติกอยู่ทนนานมากขึ้น โดยให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับลงบนริมฝีปาก จากนั้นปัดแป้งฝุ่นผ่านกระดาษทิชชู่ จะช่วยเซตลิปสติกให้อยู่ตัว ติดทนนานตลอดวัน โดยไม่ต้องเติมลิปสติกบ่อย ๆ

ตัวอย่างการเซตลิปสติก

สรุป

การทาลิปสติกช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้คุณได้มากทีเดียว คุณควรทาลิปสติกให้ถูกวิธี และที่สำคัญคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลิปสติกที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานรับรอง เพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณเองนะคะ

เรียบเรียงโดย: “เชียงใหม่นิวส์”
อ้างอิงข้อมูลจาก: women.kapook
ขอบคุณภาพจาก: ladyissue

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผิวแพ้ง่าย? เช็คได้ด้วยตัวคุณเอง

5สีลิปสติกที่เหมาะกับคนปากคล้ำมากที่สุด

ริมฝีปากคล้ำทำไงดี!!!

ทำความรู้จักกับลิปสติก เครื่องสำอางยอดฮิตตลอดกาล

ร่วมแสดงความคิดเห็น