พบแล้ว! ร่างหญิงคิดสั้น กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย หลัง จนท.กู้ภัย ใช้เวลางมหานานกว่า 3 ชม. สาเหตุเจ้าตัวป่วยโรคซึมเศร้า

รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ทาง ร.ต.ท.พีรวัฒน์ ไชยสมศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนกระโดดน้ำปิง บริเวณสะพานนครพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 1 ก.พ.62 เวลาประมาณ 19.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย พร้อมด้วยชุดทีมนักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลัง และอุปกรณ์เข้าค้นหาร่างผู้สูญหายในบริเวณจุดที่เกิดเหตุ หลังจากที่ได้รับแจ้งเรื่อง ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด จากการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกค้นหาร่างหญิงที่กระโดดลงมาจากสะพาน จนเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันเดียวกันนี้ หลังจากการพยายามติดตามค้นหาร่างผู้สูญหายนานกว่า 3 ชั่วโมง จนในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ก็เจอร่างของผู้สูญหายเจอในที่สุด โดยจุดที่พบเจอร่างอยู่บริเวณตอม้อสะพานซึ่งใกล้กับจุดที่ทางหญิงคนดังกล่าวได้กระโดดลงมาไม่มากนัก ก่อนที่จะได้ช่วยกันนำร่างของหญิงคนดังกล่าวขึ้นจากน้ำ โดยจากากรตรวจสอบทำให้ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นางประภาภรณ์ ธรรมแสน อายุ 42 ปี เป็นชาวอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผลการชันสูตรในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน โดยมีสามีและญาติของผู้เสียชีวิตร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกันจากการสอบถามทางด้าน นายประสิทธิ์ ธรรมแสน อายุ 54 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่า ภรรยาของตนนั้นป่วยมีโรคประจำตัว อีกทั้งมีชักมีอาการเครียดและโรคซึมเศร้า โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้เห็นภรรยาของตนหายไป ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมาจ่ายตลาด จนกระทั่งในเวลาต่อมาช่วงค่ำได้เห็นข่าวว่ามีคนกระโดดน้ำบนสะพาน ตนกับลูกสาวจึงได้พากันออกตามหาตัวภรรยา แต่ก็ไม่พบและไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำงมร่างขึ้นมาได้ก็พบว่าเป็นภรรยาของตนจริง ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าคงจะเป็นอาการที่ภรรยาของตนเป็นอยู่ จึงได้ตัดสินใจคิดฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตามหลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการนำศพผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปให้ทางแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทำการชันสูตรอีกครั้งก่อนจะได้ให้ทางญาติมารับศพนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น