วิตามินซีฉีดผิว ทำให้ผิวขาวจริงหรือ ?

ฉีดวิตามินผิว เทรนด์ใหม่ในยุคที่เรื่องความสวยความงามกำลังกลายเป็นสิ่งที่สาว ๆ ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ความขาวใส และดูมีออร่า คือเป้าหมายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการ ทางเลือกที่เชื่อกันว่าเห็นผลได้เร็ว ทำให้ผิวขาวใสด้วยการ “ฉีดวิตามินซี” เชื่อกันว่า ให้ผลอย่างชัดเจน เปลี่ยนความคล้ำเสียของผิวให้กลับมาขาวใสเรียบเนียนได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะพาทุกท่านไปหาคำตอบว่า การฉีดวิตามินซีเข้าสู่เส้นเลือดจะทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่

วิตามินซี คืออะไร ?

วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี ดังนั้น คนเราจึงต้องเสริมวิตามินซีให้เพียงพอต่อความต้องการอยู่เสมอ โดยเราสามารถหาวิตามินซีได้จากพืชผักผลไม้ทั่วไป โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว และจากวิตามินซีที่อยู่ในรูปของอาหารเสริม แต่ทั้งนี้ การได้รับวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน

ทานวิตามินซี ดีอย่างไร ?

การบริโภควิตามินซีเป็นอาหารเสริม ก็เพื่อป้องกันและรักษาการขาดวิตามินซี หรือรักษาระดับของวิตามินซีในร่างกาย หากร่างกายขาดวิตามินซี อาการที่บ่งบอกได้ชัดเจนที่สุด คือ มีเลือดออกตามไรฟัน นอกจากนั้น วิตามินซียังมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยในการสมานบาดแผล รักษาสุขภาพของเนื้อเยื้อต่าง ๆ ในร่างกาย และยังเป็นตัวช่วยในการปกป้องเซลล์ในร่างกายของเราอีกด้วย

ประโยชน์ของวิตามินซี

  1. วิตามินซี มีคุณสมบัติละลายน้ำ จึงสามารถซึมซับเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยขับสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังบำรุงผิวพรรณให้ขาวกระจ่างใส ลดปัญหาสิว ฝ้า กระ หมดกังวลเรื่องผิวเสียไปได้เลย
  2. มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเนียนใส สัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่มเหมือนผิวเด็ก พร้อมฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้านจากการถูกแดดเผา ให้กลับมาเรียบเนียนและดูมีสุขภาพผิวดีอีกครั้ง
  3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็ก เหมาะกับคนที่ขาดธาตุเหล็กหรือร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อย โดยวิตามินซีจะทำให้ร่างกายของเรามีความสามารถในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น และได้รับปริมาณของธาตุเหล็กและวิตามินซีที่เพียงพอในแต่ละวัน
  4. ป้องกันอาการหวัด เนื่องจากวิตามินซีช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว และกระตุ้นการเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดขาวให้โจมตีเชื้อโรคได้เร็วขึ้น
  5. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และการตอบสนองของภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น
  6. ลดอาการภูมิแพ้ เนื่องจากลดฤทธิ์การทำงานของฮีสตามีนลง
  7. การทานวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไป ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน เช่น อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ปัสสาวะบ่อย เป็นนิ่วหรือมีผื่นผิวหนัง แถมยังอาจทำให้ผลการตรวจวินิจฉัยโรคบางโรคแปรปรวนไปจากความเป็นจริง เพราะฉะนั้น จึงควรทานวิตามินซีในปริมาณที่พอเหมาะ และหลีกเลี่ยงการทานวิตามินซีเสริมเมื่อต้องตรวจวินิจฉัยโรค เช่น โรคมะเร็ง เพื่อให้ผลตรวจออกมาตรงตามความเป็นจริงมากที่สุด
  8. การทานวิตามินซีให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ควรทานหลังมื้ออาหารหรือทานพร้อมอาหาร เพราะวิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและวิตามินซีไปใช้งานได้ง่ายขึ้น และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร

วิตามินซีทำให้ผิวขาว ?

วิตามินซี ดูเหมือนจะเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักความงาม โดยเฉพาะในเรื่องความขาวใสของผิว ความขาวที่ได้รับหลังการกินวิตามินซีเข้าไปสามารถเป็นไปได้จริง ด้วยหลักการทำงานของวิตามินซีที่ส่วนช่วยลดการเกิดขึ้นของเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ เมื่อกินไปนาน ๆ เข้า ก็ทำให้ผิวดูขาวมากขึ้นกว่าผิวเดิม แต่ระดับความขาวที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้มากจนเลยระดับผิวหนังเดิมของตัวเองไปแต่อย่างใด เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากแค่วิตามินซีเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด การทำงานกลางแจ้ง หรือปล่อยให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดและความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน วิตามินซีก็จะสามารถเข้าไปช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ ส่วนความใสของผิวหน้าหลังจากที่กินวิตามินซีก็มีส่วนที่ช่วยทำให้ใสขึ้นได้เช่นเดียวกัน เพราะวิตามินซีจะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่น และไปลดจุดด่างดำด้วยการทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ผิวจะดูเรียบเนียนเป็นสีเดียวกัน จึงทำให้ผิวดูใสมีสุขภาพดีมากขึ้น

การฉีดวิตามินซี ทำให้ขาวจริงหรือ ?

การฉีดวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย เชื่อกันว่าจะช่วยทำให้ผิวขาวได้เร็วมากกว่าแค่การกินอาหารเสริม เนื่องจากจะถูกฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง ใช้เวลาไม่นานก็จะทำให้ผิวคล้ำเสียลดน้อยลง การฉีดตามปกติจะไม่เห็นผลในเข็มเดียว แต่จะเริ่มเห็นผลในเข็มที่ 2 เป็นต้นไป โดยระยะห่างในการฉีดอยู่ที่อาทิตย์ละ 2 เข็ม ซึ่งอาจจะแบ่งการฉีดทั้งหมด 10 ครั้งสำหรับ 1 คอร์ส อย่างไรก็ตาม ในการฉีดวิตามินซีเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง พบว่า เป็นอันตรายมากกว่าการกินอาหารเสริม โดยเฉพาะการฉีดเข้าเส้นเลือดดำในปริมาณที่มากเกิน 500 มิลลิกรัม
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ดีว่าการฉีดไม่ได้ช่วยทำให้ผิวขาว แต่จะเห็นผลออกมาเป็นผิวใส และความเสี่ยงที่ตามมาด้วย

วิตามินซีฉีดไม่ได้ทุกคน

ข้อจำกัดในการฉีดวิตามินซีคือ
• คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับ
• โรคนิ่ว
• คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency)
• คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกิน
• หญิงตั้งครรภ์

เหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ควรเข้ารับการฉีดวิตามินเสริมทั้งสิ้น เนื่องจากวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น อีกทั้งการรับปริมาณวิตามินที่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย ท้ายสุดก็จะถูกขับออกมาในรูปแบบของปัสสาวะอยู่ดี และการรับประทานอาหาร ผลไม้ในแต่ละวันนั้น เชื่อว่าจะช่วยให้ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินอย่างเพียงพอครบถ้วนได้เช่นกัน ฉะนั้นการฉีดวิตามินเสริม จึงเหมาะกับผู้ที่มีภาวะพร่อง หรือขาดวิตามินจริง ๆ เท่านั้น

สรุป

วิตามินซี ไม่ได้เป็นตัวช่วยทำให้ผิวขาวโดยตรง แต่การฉีดในหลักการแพทย์จะใช้ เพื่อรักษาโรคมะเร็ง โดยเป็นการรักษาแบบควบคู่กับการใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) ปรากฏว่าวิตามินซีสามารถช่วยลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาเคมีบำบัดได้เป็นอย่างดี และการรักษาโรคหวัด หรืออาการที่เกี่ยวข้องกับ ภาวะขาดวิตามินซี ตามดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนด้านความงามสามารถช่วยลดความเหี่ยวย่นของผิว และป้องกันแสงแดดได้บ้าง แต่แนะนำว่าการใช้ครีมทาผิวที่มีสารกันแดด จะปลอดภัยมากกว่า

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ภูมิแพ้
“ภูมิแพ้” คืออะไร ทำไมหลายคนเป็นแล้วไม่หาย

ร่วมแสดงความคิดเห็น