การเดิน 10,000 ก้าวช่วยลดโรคได้จริงหรือ ดีกว่าการออกกำลังกายหรือเปล่า และการเดินช่วยป้องกันโรคอะไรได้บ้าง
วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าเรื่อง การเดิน 10,000 ก้าว กับสุขภาพ ให้ฟัง
ตัวเลข 10,000 ก้าวมาจากไหน?
ความคิดนี้ มาจากนักวิจัยชาวญี่ปุ่น ในช่วงปี 1960 มีการวางขายเครื่องนับจำนวนก้าวที่มีชื่อว่า “manpo-kei” แปลว่า “หนึ่งหมื่นก้าว” พร้อมสโลแกนทางการตลาดว่า “หนึ่งหมื่นก้าวเพื่อสุขภาพ” ซึ่งต่อมาภายหลังกลายมาเป็นตัวเลขกลม ๆ จำง่าย ๆ ที่อุปกรณ์รุ่นอื่น ๆ นำมาใช้ตั้งเป้าหมายกัน
การเดิน 10,000 ก้าว ทดแทนการออกกำลังกายได้ไหม
การเดิน 10,000 ก้าวต่อวัน ไม่สามารถแทนที่การออกกำลังกายได้ การหายใจ และการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ สำคัญกว่าจำนวนก้าวมาก ศาสตราจารย์โคปแลนด์กล่าวว่า “สิ่งสำคัญของการออกกำลังกาย คือ ต้องให้อวัยวะสำคัญได้ทำงานมากขึ้น แม้คุณจะเดินถึงหมื่นก้าว แต่หากไม่ออกแรงให้มากพอ ก็จะไม่มีผลดีต่อสุขภาพมากนัก”
ความจริง เราควรเดินวันละกี่ก้าว
แม้ว่าทางสาธารณสุข จะไม่ระบุจำนวนก้าวเพื่อสุขภาพไว้ แต่มีคำแนะนำว่า ควรออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 150 นาที หรือเฉลี่ยวันละ 22 นาที หากนำมาเปรียบเทียบกับการนับการเดิน จะเท่ากับการเดินเพียงวันละ 8,000 ก้าวเท่านั้น จริง ๆ แล้ว ความสำคัญของการเดิน 10,000 ก้าว อยู่ที่การได้ออกกำลังอย่างต่อเนื่อง ทุกวัน เพื่อบริหารร่างกาย และหัวใจนั่นเอง
ประโยชน์จากการเดินออกกำลัง
- ช่วยสร้างเสริมกระดูกให้แข็งแรง ผลการวิจัยของ American Academy of Orthopaedic Surgeons ในสหรัฐฯ พบว่า การเดินช่วยกระตุ้นเซลล์ให้สร้างกระดูกขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ ทำให้กระดูกไม่เปราะบาง และไม่เกิดโรคกระดูกพรุนตามมา
- ช่วยขจัดความเครียด ทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ที่เป็นฮอร์โมนแห่งความสุข มีผลทำให้ร่างกายไม่เครียด เป็นผลดีต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิต
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล สำหรับคนที่น้ำหนักเยอะกว่าเกณฑ์ การออกกำลังกายอย่างรุนแรงอาจไม่เหมาะ ดังนั้นการเดิน จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในร่างกาย รวมถึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้
- ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์ อัมพาต) การเดินออกกำลัง นอกจากลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ยังช่วยทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่น ไม่ตัน และช่วยป้องกันโรคหัวใจ เส้นเลือดในหัวใจตีบตันด้วย
สรุป
รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก กล่าวว่า “การเดินเป็นกิจกรรมทางกาย ซึ่งซึมแทรกในชีวิตประจำวันของคนอยู่แล้ว ในเวลา 1 ชม. การเดินจะเผาผลาญไม่น้อยกว่า 250 แคลอรี่ ส่วนการวิ่งเผาผลาญได้ถึง 500 แคลอรี่ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้วิ่งทุกวัน ขณะที่การเดินทำได้ตลอด เมื่อเอาคนเดินทุกวันไปตรวจสุขภาพ ก็พบว่ามีความเสี่ยงโรค NCD หรือโรคไม่ติดต่อ ประเภทไขมันสูง เบาหวาน หัวใจ น้อยกว่าพวกออกกำลังกายหนัก แต่ไม่บ่อย”
แม้ว่าไม่มีงานวิจัยว่าต้องเดินให้ถึง 10,000 ต่อวัน แต่อย่างน้อยการเดินให้ได้ 7,000-8,000 ก้าวก็ถือว่ามีผลดีต่อสุขภาพและร่างกาย เพราะในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะวัยทำงานจะเดินเฉลี่ยวันละ 3,000-5,000 ก้าวเท่านั้น
เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
อ้างอิงข้อมูลจาก
www.bbc.com
http://www.thaihealth.or.th
www.health.kapook.com
www.themomentum.co
http://healthynine.club/th
บทความที่เกี่ยวข้อง
ร่วมแสดงความคิดเห็น