“ตรุษจีน” วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว คืออะไร?

ตรุษจีน เป็นวันหยุดตามประเพณีที่สำคัญที่สุดในประเทศจีน เพราะถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน ชาวจีนทุกคนให้ความสำคัญกับวันนี้อย่างมาก โดยที่มาก็เพื่อตั้งใจที่จะฉลองฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนนั้น ประเทศจีนปกคลุมไปด้วยหิมะ จึงไม่สามารถทำการเกษตรได้ เมื่อเข้าถึงฤดูใบไม้ผลิ จึงจะสามารถเพาะปลูกพืชผักได้ตามปกติ ชาวจีนจึงกำหนดให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิตในแต่ละปีเป็นวันสำคัญที่เรียกว่า “วันตรุษจีน” 

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าถึงวันไหว้ของวันตรุษจีน ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว มีดังนี้

วันจ่าย

“วันจ่าย” หรือ “ตื่อเส็ก” คือ วันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ไม่จำเป็นจะต้องมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ หรือ “ตี่จู้เอี๊ย” ให้ลงมาจากสวรรค์ เพื่อรับการสักการบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้วเพราะว่าเจ้าที่ไม่ได้ไปไหนเมื่อสี่วันที่แล้ว ตัวเราส่งแต่ “เจ้าซิ้ง” หรือเจ้าเตา

ตามธรรมเนียมของคนจีนแล้ววันนี้ถือว่าเป็นวันจ่าย ทำให้เจ้าของกิจการนิยมจ่ายโบนัสให้กับพนักงานในวันนี้ด้วย

วันไหว้

“วันไหว้” ก็จะมีการไหว้ 3 ช่วงเวลา วันนี้ถือเป็นวันสิ้นปี

1.ตอนเช้ามืด จะไหว้ “ป้ายเล่าเอี๊ย” เป็นการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ “ซาแซ” ซำเช้ง ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือเพิ่มตับ ปลา กลายเป็นเนื้อสัตว์ 5 อย่าง หรือ “โหงวแซ” เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง

2. ตอนสาย จะไหว้ “ป้ายแป๋บ้อ” คือการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ เพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้นญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไป เพื่อความเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว

3.ตอนบ่าย จะไหว้ “ป้ายฮ่อเฮียตี๋” เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคล

และอีกหนึ่งกิจกรรมของครอบครัวและเครือญาติที่จะต้องมารวมตัวกันหรือนัดกันออกไปกินข้าวมื้อเย็นร่วมกัน และจะต้องมีเมนู “เกี๊ยว” อยู่ในมื้อนั้นด้วย เพราะเชื่อว่า การกินเกี๊ยวในมื้อวันสิ้นปีรวมกันจะทำให้มีเงินมีทองใช้ตลอดปี ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อว่ารูปร่างของเกี๊ยวนั้นเหมือนกับรูปทรงเงินของจีนนั่นเอง

วันเที่ยว

“วันเที่ยว” หรือ “วันถือ” คือวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี วันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบันคือ “ป้ายเจีย” เป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก

โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะส้มออกเสียงภาษาแต้จิ๋วว่า “กิก” ไปพ้องกับคำว่าความสุขหรือโชคลาภ เพราะฉะนั้น การให้ส้มจึงเหมือนนำความสุขหรือโชคลาภไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย

เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น จะห้ามไม่ให้พูดคำไม่เป็นมงคล คำหยาบ หรือคำด่าใด ๆ เพราะถือว่าถ้าทำไปจะโชคร้ายไปตลอดปี ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่สีสดใส งดสีขาวดำทุกกรณี แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน และเพื่อความเป็นมงคลกับชีวิตจะนิยมทานมื้อแรกของวันนี้ด้วยอาหารเจ ด้วยความเชื่อที่ว่า ทานเจมื้อนี้ก็จะเหมือนกันการได้ทานเจตลอดทั้งปีกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีธรรมเนียมปฏิบัติอีกหลายอย่างให้ทำกัน หนึ่งในนั้นก็คือวันนี้ วันนี้เป็นวันดี ให้กล่าวคำอวยพรให้กันเป็นหลัก “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ทุกท่านค่ะ

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

ร่วมแสดงความคิดเห็น