กลุ่มตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่เขตป่าอุทยานแห่งชาติจังหวัดน่าน รวมตัวกันเพื่อขอสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอุทยานแห่งชาติและกฎหมายสัตว์ป่า

เวลา 15.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ศูนย์ราชการจังหวัดน่าน ได้มีกลุ่มตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่เขตป่าอุทยานแห่งชาติในพื้นที่เขตป่าอุทยานแห่งชาติจังหวัดน่าน จำนวนเกือบ 500 คน รวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอุทยานแห่งชาติและกฎหมายสัตว์ป่า ต่อนายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ซึ่งประกอบด้วยตัวกลุ่มตัวแทนโดยมีนายสวย พรรณรงค์/นายเลื่อนใจปิง/นายนนทพันธ์ บุญอินทร์กลุ่มชาวกลุ่มตัวแทนชาวบ้านตำบลภูฟ้าอำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่าน/นายเสน่ห์ กิ่วจันทร์ดงพญา ตัวแทนชาวบ้านตำบลดงพญาอำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่าน นายสิทธิพล เกษมวัฒน์/นายประดิษฐ์ โลนนท์/นางพัชรา โลนนท์ กลุ่มตัวแทนอำเภอสันติสุขจังหวัดน่าน/นายมั่ง แก้วใส /นายฤทธิ์ วิชัยคำ/นายกอง บุญเตรียม ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านอำเภอแม่จริมจังหวัดน่าน พร้อมด้วยกลุ่มตัวแทนชาวบ้านอำเภอนาน้อยและตัวแทนแต่ละอำเภอในจังหวัดน่าน

โดยนายสวย พรรณรงค์ ตัวแทนอำเภอบ่อเกลือ กล่าวว่าตามที่ข้าพเจ้าและพวกได้มีที่ดินทำกินในเขตอุทยานแห่งชาติ บางรายมีที่ดินอยู่ใกล้เคียงอุทยานแห่งชาติ และบางรายมีที่ดินทำกินอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า หรือใกล้เคียงพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า บางรายทำกินมาก่อนเป็นพื้นที่อนุรักษ์ บางรายทำกินหลังจากกำหนดเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งที่ผ่านมาข้าพเจ้ากับพวกต้องทำกินแบบหลบซ่อนเกรงจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี ไม่กล้าที่จะพัฒนา ปรับปรุง พื้นดินให้มีคุณภาพดี ไม่กล้าที่จะพัฒนาทำการเกษตร ไม่กล้าลงทุนปลูกพืชราคาดี ตลาดต้องการ ทำให้มีรายได้จากการทำเกษตรลดลงทุกปี มีต้นทุนสูง ครอบครัวต้องแตกแยกไปประกอบอาชีพ เกิดปัญหาหนี้สิน ปัญหาครอบครัวส่งผลกระทบต่อการศึกษาของลูก

นอกจากนี้เส้นทางเข้าไปในพื้นที่ทำกิน การขยายเขตการไฟฟ้า การสร้างอ่างเก็บน้ำ ก็ไม่ได้มีการสนับสนุน เนื่องจากที่ดินเป็นพื้นที่อนุรักษ์ขาดโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตต่างๆ บางครั้งพ่อค้าไม่รับซื้อผลผลิตที่ออกจากพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง เกิดความเหลื่อมล้ำแตกต่างจากพื้นที่ที่มีสิทธิถูกต้อง การปลูกพืชที่ตลาดต้องการหรือพืชราคาดีไม่สามารถขอหนังสือรับรองแหล่งผลผลิต เพราะไม่มีหลักฐานทางที่ดิน ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมากนานแล้วไม่มีการแก้ไขปัญหาได้ เท่าที่ทราบก็เห็นมีเจ้าหน้าที่มาทำการให้แก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินก็สามารถคุ้มครองข้าพเจ้ากับพวกไม่ให้โดนจับกุมได้ ระดับหนึ่งแต่ยังไม่ได้รับสิทธิที่ถูกต้องจากความจำเป็นดังกล่าวจึงขอเรียกร้องดังนี้

1.ต้องการสิทธิ์ทำกินได้อย่างถูกต้อง
2.ให้มีการอนุญาตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปส่งเสริมพัฒนาอาชีพได้ ช่วยเหลือปัจจัยการผลิตได้ รับเงินช่วยเหลือชดเชยความเสียหายจากภัยพิบัติ สามารถออกหนังสือรับรองแหล่งผลิตได้
3.ให้มีการอนุญาตเข้าไปก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานได้ เช่น แหล่งน้ำ ไฟฟ้า ประปา ถนน ฯลฯ
4.ต้องการปลูกไม้มีค่าได้ ขายได้ ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ เช่น ไม้สัก หวาย ไผ่ เป็นต้น

ทั้งนี้เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งรอมานานและเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี โดยขอสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอุทยานแห่งชาติและกฎหมายการอนุรักษ์สัตว์ป่า ตามที่ได้ให้ผ่านการพิจารณาของ สนช. เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ ดังนี้
1. สามารถทำกินได้อย่างถูกต้อง พัฒนาพื้นดิน พัฒนาอาชีพ เกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพ มีรายได้แน่นอน
2. สามารถแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินในพื้นที่อนุรักษ์ ลดความขัดแย้ง ลดการจับกุมดำเนินคดี เกิดความร่วมมือในการอนุรักษ์ป่าไม้
3. ทำให้ราษฎรทราบและยอมรับขอบเขตการถือครองที่ดินทำกินและขอบเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เกิดความมั่นใจในสิทธิการทำกิน หยุดยั้งการบุกรุกขยายพื้นที่
4. เกิดความเป็นธรรมในสิทธิทำกิน ลดปัญหาครอบครัว ลดปัญหาสังคม และการปกครอง
5. สามารถส่งเสริมอาชีพมีโอกาสได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการ เกี่ยวกับปัจจัยการผลิต ค่าชดเชยจากภัยภิบัติ ค่าตอบแทนจากทางราชการ ลดความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาในด้านต่างๆ
6. ราษฎรได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยยกระดับรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ มั่นคงในรายได้ สร้างความสุขให้ประชาชน
7. ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันในการแก้ไขปัญหาในการส่งเสริมและพัฒนาในด้านต่างๆ ได้
8. คนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืนโดยให้เหตุผลว่าเพื่อขอความกรุณาแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สนับสนุนต่อไป

ต่อมาได้มีนายสัญญา กามินทร์ ผอ. กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่านรับมอบหมายจากผู้ว่าราชการติดราชการ เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าวเพื่อนำส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น