คืบหน้า!! รองผู้การฯเชียงใหม่ สั่งสอบร้านนวด หลังสาวพริตตี้เข้ารับบริการแล้ว ลูกในท้องเสียชีวิต และตัวเองอาการโคม่า

จากกรณี เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ม.ค. 62 นายบุญมี เกษเกษี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 3 ต.ป่าไม้ลาน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว เพื่อขอความเป็นธรรม กรณี ลูกสาวคือ น.ส.วิราวรรณ เกษเกษี อายุ 26 ปี สาวพริตตี้เชียร์เครื่องดื่ม อยู่บ้านเลขที่ 67/16 ถนนเวียงพิงค์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.ชียงใหม่ ซึ่งท้องได้ประมาณ 6 เดือน เข้าไปใช้บริการนวดแผนโบราณแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และขณะที่กำลังนวด นั้นเกิดอาการช็อคหมดสติ และทางเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลชื่อดังตัวเมืองเชียงใหม่ จนกระทั่ง ลูกสาวต้องผ่าตัดเอาลูกออก เนื่องจากลูกในท้องเสียชีวิต และตัวผู้เป็นแม่อาการสาหัส นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ล่าสุด อาการยังโคม่าไม่รู้สึกตัว

นายบุญมี ผู้เป็นพ่อ เล่าวว่า ลูกสาวมีลูกน้อย 2 คน และกำลังตั้งท้องคนที่ 2 ระหว่างที่ท้องเป็นคนชอบนวดแผนโบราณมาก ล่าสุดก่อนที่จะหมดสติ ได้สอบถามเพื่อนของลูกสาว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวนั้น ได้เข้าไปนวดที่ร้านนวดมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นลูกสาวก็ได้ติดต่อกับเพื่อนว่ากำลังจะนวด และชวนให้เพื่อนลูกสาวไปนวดด้วยแต่เพื่อนไม่ว่าง เลยปฎิเสธไป และเพื่อนก็บอกให้ถ่ายรูปให้ดูด้วย จากนั้นก็ขาดการติดต่อกันไป

จนกระทั่งมาทราบอีกทีว่า ลูกสาวนั้นนอนอยู่ในโรงพยาบาลด้วยอาการโคม่า จึงพากันมาดู เพื่อน ตอนแรกปรากฎว่าลูกในท้องไม่รอด และตัวแม่แกเองก็ไม่รู้สึกตัว ณ เวลานี้ สอบถามทางคุณหมอทราบว่าอาการน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม นายบุญมี เล่าต่ออีกว่า วันนี้ได้มาพบเพื่อนที่เชียงใหม่ และปรึกษากันว่าจะเอายังไง และได้ไปตรวจที่ร้านนวดและพูดคุยกัน ปรากฎว่ายังไม่ได้รับความร่วมมือ คล้ายกับปฎิเสธไป ก็จะต้องร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ลูกสาวของตนให้ถึงที่สุด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ข่าวความคืบหน้า เมื่อเช้าวันที่ 6 ก.พ. 62 ทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าพบเหยื่อผู้เสียหาย ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอาการยังอยู่ในการเฝ้าระวังของแพทย์อย่างใกล้ชิด ขณะที่การดำเนินการเรื่องของกฎหมาย ทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุิ์ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เรียกสถานประกอบการร้านนวด มาทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และเรียกทางฝ่ายผู้เสียหาย ซึ่งเป็นญาติมาสอบสวนก่อน ทั้งนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

มีรายงานข่าวแจ้งว่าทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบร้านนวดกันอีกครั้ง ซึ่งข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป