กำเมือง!! ถ้าคนเมืองบ่อู้แล้วไผจะอู้ รวมสุภาษิตกำเมือง จะกิ๋นใจ๋ จะโดนใจ๋ขนาดไหนมาอ่านกั๋นเจ้า

เอิม!! “ปากหวานก้นส้ม ตางในขมเหมือนบ่าแคว้ง” รวมสุภาษิตกำเมือง จะกิ๋นใจ๋ จะโดนใจ๋ขนาดไหนมาอ่านกั๋นเจ้า

1 ) ปากหวานก้นส้ม ตางในขมเหมือนบ่าแคว้ง “
ปากหวาน หมายถึง พูดจาไพเราะ ..
ตางใน หมายถึง ภายใน ..
บ่าแคว้ง หมายถึง มะเขือพวง)
ความหมายคือ การที่ปากกับใจไม่ตรงกัน คือต่อหน้าพูดจาไพเราะ พูดดี แต่ในใจตรงกันข้ามกับคำพูด “ตางในขมเหมือนบ่าแคว้ง” หมายถึงบุคคลที่มีจิตใจไม่บริสุทธิ์ต่อผู้อื่นมีแต่ความคิดอิจฉาริษยา มุ่งร้ายผู้อื่นตลอดเวลา ตรงกับสุภาษิตภาคกลาง “ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ”

2) ก้นหม้อบ่ฮ้อน บ่เป็นแต่ไห มันเป็นแต่ไฟ บ่าใจ้กับหม้อ
(อย่าด่วนตัดสิน สาเหตุของปัญหา ควรพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน)

3) กบไกล้ปากงู หนู้ใกล้บอกไม้ ชิ้นเกลือดังแมว
(ชายหยิงที่อยู่ใกล้ชิดกันมาก ย่อมยากที่จะหักใจ)

4) กล้วยคาง่าม ง่ามคากล้วย
( คนเราต้องพึ่งพาอาศัยกัน)

5) กิ๋นแล้วหื้อเก็บ เจ็บแล้วหื้อจำ
(ให้รู้จักเก็บและจดจำประสบการณ์เอาไว้)

6) กิ๋นหวอม ผอมจ้อค่อ
(ทุ่มเททำอะไรลงไปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น)

7) เก็บผักหลวดหักหลัว ตกขัวหลวดอาบน้ำ
(รู้จักใช้ประโชชน์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์จะไม่เสียเวลา)

8) เก็บผักหื้อเอาตึงเครือ เก็บบ่าเขือหื้อเอาตึงขวั๊น
(ทำอะไรให้เรียบร้อย อย่าเอาส่วนที่มีประโยชน์แล้วทิ้งส่วนอื่นไว้ )

9) เกิดเป็นคนขึ้นห้วยหื้อสุด ขุดฮูไหนหื้อตึก
(ทำให้ถึงที่สุด )

10) แก่นตาควักออก เอาบ่ากอกเข้ายัด
(ของมีค่าอยู่กับตนไม่รู้จักใช้ แต่ไปหาสิ่งไร้ค่ามาแทน)

11) แก่เพราะกิ๋นข้าว เฒ่าเพราะเกิดเมิน
( คนสูงอายุที่มีคุณค่าสมกับวัย)

12) ไก่เกยจน คนเกยฟ้อน
(ตนที่มีประสบการณ์ย่อมย่อมทำงานที่เคยทำมาแล้วได้)

13) ของกิ๋นลำอยู่ที่คนมัก ของจักฮักอยู่ที่เปิงใจ
(อะไรดีไม่ดีอยู่ที่ใจ)

14) ขอนบ่มีเห็ด ไผตึงบ่เข้าไกล้
( สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ย่อมไม่มีใครสนใจ)

15) ข้ามขัวยังบ่ป้น อย่าฟั่งห่มกันแยงเงา
( ทำอะไรยังไม่สำเร็จอย่าเพิ่งโอ้อวด)

16) ขี้ควายไหลตวยน้ำ
(โลเล ไม่แน่นอน)

17) คนง่าวบ่มี คนผะหยาดีก็ง่อม
( เป็นธรรมดาความโง่ความฉลาดเป็นคู่กัน)

18) คนใบ้ใช้หลายเตื่อ
( คนโง่ต้องใช้หลายครั้ง)

19) กล้วยคาง่าม ง่ามคากล้วย
( คนเราต้องพึ่งพาอาศัยกัน):sigh

20) กิ๋นแล้วหื้อเก็บ เจ็บแล้วหื้อจำ
(ให้รู้จักเก็บและจดจำประสบการณ์เอาไว้)

21) เก็บผักหลวดหักหลัว ตกขัวหลวดอาบน้ำ
(รู้จักใช้ประโชชน์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์จะไม่เสียเวลา) :sigh

22) เก็บผักหื้อเอาตึงเครือ เก็บบ่าเขือหื้อเอาตึงขวั๊น
(ทำอะไรให้เรียบร้อย อย่าเอาส่วนที่มีประโยชน์แล้วทิ้งส่วนอื่นไว้ )

23) เกิดเป็นคนขึ้นห้วยหื้อสุด ขุดฮูไหนหื้อตึก
(ทำให้ถึงที่สุด )

24) ตาควักออก เอาบ่ากอกเข้ายัด
(ของมีค่าอยู่กับตนไม่รู้จักใช้ แต่ไปหาสิ่งไร้ค่ามาแทน)
25) แก่เพราะกิ๋นข้าว เฒ่าเพราะเกิดเมิน
( คนสูงอายุที่มีคุณค่าสมกับวัย)

26) ไก่เกยจน คนเกยฟ้อน
(ตนที่มีประสบการณ์ย่อมย่อมทำงานที่เคยทำมาแล้วได้)

27) ของกิ๋นลำอยู่ที่คนมัก ของจักฮักอยู่ที่เปิงใจ
(อะไรดีไม่ดีอยู่ที่ใจ) :sigh

28) ขอนบ่มีเห็ด ไผตึงบ่เข้าไกล้
( สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ย่อมไม่มีใครสนใจ)

29) ข้ามขัวยังบ่ป้น อย่าฟั่งห่มกันแยงเงา
( ทำอะไรยังไม่สำเร็จอย่าเพิ่งโอ้อวด)

30) ขี้ควายไหลตวยน้ำ
(โลเล ไม่แน่นอน)

31) คนง่าวบ่มี คนผะหยาดีก็ง่อม
( เป็นธรรมดาความโง่ความฉลาดเป็นคู่กัน)

32) คนใบ้ใช้หลายเตื่อ
( คนโง่ต้องใช้หลายครั้ง)

33) คนอู้ได้ปากนัก อมแพะเต็มปากยังบ่ฮู้ตัว
(ยากนักที่จะห้ามคนพูดมากให้หยุดพล่าม)

34) คนเฮาใหญ่แล้ว บ่ถ้าไผสอน จิ๊ดแมงจอนไผสอนมันเต้น
(คนเรามีสามัญสำนึกรู้ชอบชั่วดีเอง ไม่ต้องรอให้คนสอน)

35) คิดว่าตั๋วหล๊วกคือคนง่าว คิดว่าตั๋วง่าวคือคนหล๊วก
(อวดรู้อวดฉลาดคือคนโง่ คนฉลาดมักอ่อนน้อมถ่อมตน)

36) จ๊กกล่องเข้า จุ๊หมาเฒ่าแกว่งหาง
(สาวหลอกชายแก่ให้หลงรัก)

37) จิ้นบ่เน่าหนอนบ่จี คำบ่มีเขาบ่ว่า
(ถ้าไม่มีเหตุคงไม่มีผล)

38) เฒ่าหัวเฒ่าหาง ตางกลางยังบ่เฒ่า
( แก่แต่ตัวหัวใจไม่ยอมแก่)

38) ดั๊กจื้อกื้อ เหมือนลื้อฟังธรรม
(นั่งเงียบไม่พูดไม่จา) :sigh:sigh

39) ตกต่าเปิ้นเป็นดีไคร่หัว ตกต่าตัวเป็นดีใคร่ไห้
( อย่าหัวเราะเยาะผู้อื่น)

40) ตูบน้อยไผว่าบ่มีผี คนงามคนดีไผว่าบ่มีเจ้าของ
( คนดีย่อมเป็นที่ปราถนาของผู้อื่น)

41) ปลาแห้งไกล้แมว แมวบ่กิ๋นแมวง่าว สาวใกล้บ่าว บ่าวบ่าหยุบก็ซวาม
(อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน)

42) เผื่อฮุ้คิง น้ำปิงปอแห้ง
(รู้ตัวอีกที่ก็สายไปแล้ว)คนจะงาม งามที่ใจใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยาใช่ตาหวาน
คนจะแก่ แก่ความรู้ใช่อยู่นาน คนจะรวย รวยศิลทานใช่บ้านโต

43) สิบ ปี อาบน้ำบ่ฮู้หนาว
ซาว ปี แอ่วสาวบ่ก้าย
สามสิบ ปี บ่หน่ายสังขาร
สี่สิบ ปี ยะก๋านเหมือนฟ้าผ่า
ห้าสิบ ปี สาวน้อยด่าบ่เจ็บใจ๋
หกสิบ ปี ไอเหมือนฟานโขก
เจ็ดสิบ ปี บ่าโหกเต๋มตั๋ว
แปดสิบ ปี ไขหัวเหมือนไห้
เก้าสิบ ปี พ้องไขอยู่พ้องไขต๋าย
คนอู้ได้ปากนัก อมแพะเต็มปากยังบ่ฮู้ตัว
(ยากนักที่จะห้ามคนพูดมากให้หยุดพล่าม)

44) คนเฮาใหญ่แล้ว บ่ถ้าไผสอน จิ๊หีดแมงจอนไผสอนมันเต้น
(คนเรามีสามัญสำนึกรู้ชอบชั่วดีเอง ไม่ต้องรอให้คนสอน)

45) คิดว่าตั๋วหล๊วกคือคนง่าว คิดว่าตั๋วง่าวคือคนหล๊วก
(อวดรู้อวดฉลาดคือคนโง่ คนฉลาดมักอ่อนน้อมถ่อมตน)

46) จ๊กกล่องเข้า จุ๊หมาเฒ่าแกว่งหาง
(สาวหลอกชายแก่ให้หลงรัก)

47) จิ้นบ่เน่าหนอนบ่จี คำบ่มีเขาบ่ว่า
(ถ้าไม่มีเหตุคงไม่มีผล)

48) เฒ่าหัวเฒ่าหาง ตางกลางยังบ่เฒ่า
( แก่แต่ตัวหัวใจไม่ยอมแก่)

49) ดั๊กจื้อกื้อ เหมือนลื้อฟังธรรม
(นั่งเงียบไม่พูดไม่จา)

50) ตกต่าเปิ้นเป็นดีไคร่หัว ตกต่าตัวเป็นดีใคร่ไห้
( อย่าหัวเราะเยาะผู้อื่น)

51) ตูบน้อยไผว่าบ่มีผี คนงามคนดีไผว่าบ่มีเจ้าของ
( คนดีย่อมเป็นที่ปราถนาของผู้อื่น)

52) ปลาแห้งไกล้แมว แมวบ่กิ๋นแมวง่าว สาวใกล้บ่าว บ่าวบ่าหยุบก็ซวาม
(อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน)

53) เผื่อฮุ้คิง น้ำปิงปอแห้ง
(รู้ตัวอีกที่ก็สายไปแล้ว)

54) หล็วกใส่ตั๋วเอาหัวเข้าฮ่ม : ฮ่ม หมายถึง ร่ม “เอาความฉลาดเข้าหาตัวเอง เอาหัวเข้าที่ร่ม” เพื่อที่จะได้พ้นจากแดดจากฝน เป็นสุภาษิตกล่าวถึงบุคคลที่มีความเห็นแก่ตัว ชอบเอาตัวรอดเพียงคนเดียว โดยไม่ได้ห่วงใยคนอื่นหรือให้ความช่วยเหลือผู้อื่น อยู่ที่ไหนก็มักจะเอาเปรียบผู้อื่นอยู่เสมอ

55) สอนเปิ้นไต่ขัว ตั๋วกลั๋วตกน้ำ : ขัว หมายถึง สะพาน “สอนคนอื่นให้ข้ามสะพาน ตัวเองกลัวตกน้ำ” เปรียบเทียบกับคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง บอกกล่าวให้คนอื่นกระทำ ในสิ่งที่ตัวเองไม่กล้าทำทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถทำได้ แต่กลับให้คนอื่นทำแทน

56) ไม้ต้นเดียวบ่เป๋นก๋อ ป๋อต้นเดียวบ่เป๋นเหล่า : ก๋อ หมายถึง กลุ่มแห่งต้นไม้ที่เกิดจากเหง้าเดียวกัน เชื้อสายเดียวกัน “ไม้ต้นเดียวไม่เรียกเป็นกอ ต้นปอต้นเดียวก็ไม่เรียกเป็นป่า” เป็นสุภาษิตที่กล่าวถึง คนเราไม่สามารถที่จะอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว และไม่สามารถที่จะทำงานใหญ่ได้สำเร็จลงได้ตามลำพังต้องประสานและพึ่งพาบุคคลอื่น

คำเมือง ถ้าคนเมืองบ่อู้แล้วไผจะอู้ มีคำคมสุภาษิตไหนอ่านแล้วโดนใจ๋ หรือมีคอื่นใดก่มาแสดงความเห็นแบ่งปันสู่กั๋นได้เจ้า

ขอบคุณข้อมูลที่มา : ฮักล้านนา

ร่วมแสดงความคิดเห็น