เที่ยวละไม “เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี”

ถ้า “สวนสัตว์” ในจินตนาการของคุณคือ การเข้าไปดูสัตว์ที่ถูกกักขังอิสรภาพอยู่ภายในกรงสี่เหลี่ยม, เสือ สิงห์ กระทิง แรด, ที่วิ่งเล่นสำหรับเด็ก และสถานที่นั่งพักผ่อนสำหรับหนุ่มสาว (เพราะไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน)

ต่อไปนี้คงต้องลบภาพของสวนสัตว์ในจินตนาการออกให้หมด เพราะผมกำลังจะพูดถึง มิติใหม่ของการท่องเที่ยวสวนสัตว์ยามราตรี “เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” หลังจากที่สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาหลายปี ผมเองได้โอกาสได้เข้าไปเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอยู่ก็หลายครั้ง ขณะเดียวกันก็เพื่อต้องการลบภาพเก่าในจินตนาการออกให้หมด ว่าสวนสัตว์ในยุคปัจจุบันนั้นแตกต่างจากสวนสัตว์ในอดีตอย่างสิ้นเชิง และเหมือนเป็นการซื้อใจกันเลยว่า ค่าตั๋วขนาดนี้ ข้างในจะดีคุ้มค่าแค่ไหน ผนวกกับเคยได้ยินได้ฟังชื่อเสียงของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ว่ามีบรรยากาศที่วิเศษสุด ที่สำคัญเรายังจะได้พบเห็นวิถีชีวิตของสัตว์ป่าในเวลากลางคืนที่แตกต่างกับสัตว์ป่าในเวลากลางวัน

ด้วยพื้นที่กว้าง 819 ไร่ ริมเชิงดอยสุเทพ แวดล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี จึงทำให้ที่นี่เป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่าจากทั่วโลกหลายร้อยชนิด บางชนิดหาดูหาชมได้ยาก อย่างกระทิง ละมั่ง เลียงผา ที่ว่ากันว่าสูญพันธ์ไปจากโลกแล้ว จามรีจากดินแดนที่ราบสูงในทิเบต เจ้าหมาป่า
แอฟริกา รวมถึงคุณอูฐจากดินแดนทะเลทราย ที่เดินทางข้ามทวีปมาหลายพันไมล์ทำให้เราได้พบเห็นพวกมันเป็นบุญตา ผมนึกชื่นชมที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้มีการปรับปรุงบ้านอันเป็นที่อยู่ของสัตว์ต่าง ๆ ให้มีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้นและยังสอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิตของสัตว์ป่า ทำให้เราไม่เกิดความรู้สึกอึดอัดเมื่อเวลาที่เห็นสัตว์ต่าง ๆ ถูกกักขังอยู่ในกรง

แม้ว่าสัตว์บางชนิดยังมีข้อจำกัดหลายด้านในการปรับสภาพที่อยู่ของพวกมัน สิ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุดก็คือ ฝูงกวางป่าที่พากันออกมาเดินเผ่นผาน เป็นทูตสันถวไมตรีคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอยู่ด้านหน้าอย่างไม่กลัวมนุษย์ โดยมีพื้นที่กว้างขวางพอให้พวกมันได้วิ่งเล่น กระโดดโลดเต้น ยึดเส้นยึดสายได้อย่างอิสรเสรีพอสมควร ตาข่ายหรือรั้วที่ล้อมรอบมีฐานะเป็น “รั้ว” ที่ป้องกันอันตรายจากภายนอกมากกว่าจะเป็นกรงกรอบกักขังหลายชีวิตที่อยู่ข้างใน

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นสวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 3 ของโลก แบ่งโซนจัดแสดงสัตว์ออกเป็น 3 ส่วนคือ ซาวันนา ซาฟารี (Savanna Safari Zone) เป็นส่วนแสดงสัตว์ประเภทกินพืชที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบทุ่งหญ้าซาวันนา ได้แก่ เลียงผา ละมั่ง กวางกาเซลล์ หมูป่า กวางบาราสิงหา เป็นต้น ส่วนที่ 2 พรีเดเตอร์ พราว (Predator Prowl Zone) จัดแสดงสัตว์ประเภทกินเนื้อ หรือสัตว์นักล่า ได้แก่ สิงโต เสือโคร่งขาว เสือโคร่งเบงกอล หมาป่าแอฟริกา หมีควาย หมาจิ้งจอก ส่วนที่ 3 จากัวร์ เทรล (Jaguar Trail Zone) เป็นเส้นทางเดินชมสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งรายล้อมอยู่รอบทะเลสาบ (Swan Lake) เช่น เสือขาว เสือจากัวร์ เสือลายเมฆ ม้าแคระ ฮิปโปแคระ ลิงกระรอก แมวดาว นกกระเรียน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมในโซนนี้ได้ตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน

ในช่วงค่ำเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังจัดแสดงม่านน้ำพุดนตรี (Musical Fountain With Water Screen) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ คือสูง 12 เมตร กว้าง 20 เมตร การเข้าไปเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากจะเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นแล้วที่สำคัญยังให้คนไทยมีสวนสัตว์ดี ๆ ได้เที่ยว ได้ศึกษาเรียนรู้ ได้รับการปลูกฝังให้รู้จักรัก รู้จักแบ่งปัน รู้จักกล้า รู้จักกลัว และรู้ว่าโลกยังมีสรรพสัตว์เป็นองค์ประกอบสำคัญ รู้ว่าป่าจะไม่เป็นป่า ถ้าป่าไม่มีสัตว์ป่า ดังนั้นสัตว์ในสวนสัตว์จึงเป็นสัตว์ผู้เสียสละ…เสียสละเพื่อให้คนได้เข้าใจในธรรมชาติ แล้วเกิดความรักและหวงแหนธรรมชาติ

บทความโดย
จักรพงษ์  คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น