น้ำมูรธาภิเษก พระเจ้าแผ่นดิน จากอดีตสืบปัจจุบันที่เชียงใหม่

นครเชียงใหม่ เป็นดั่งแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ มีแหล่งน้ำเพื่อประกอบพิธีมูรธาภิเษก หรือ น้ำอภิเษก ในพระราชพิธีเพื่อเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งเสมือนสมมติเทพ ปกฉัตร คุ้มเกล้าเหล่าประชาในราชอาณาจักรให้สุขสืบไป ในอดีตแต่ครั้งราชวงศ์มังรายนั้น น้ำมูรธาภิเษกหรือน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีพงศาวดาร ตำนานเมืองเล่าสืบมา บ้างเป็นประวัติศาสตร์ที่ได้รับการสืบค้นหาข้อเท็จจริง โดยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย พระองค์ใด ก่อนเสวยราชย์ จะเสด็จฯไปทรงผ้าชุดขาว (นุ่งขาวห่มขาว)ที่วัดผ้าขาว (ปัจจุบันอยู่ฝั่งด้านเหนือตรงข้ามวัดพระสิงห์) จากนั้นจะเสด็จไปสะเดาะเคราะห์ในวัดหมื่นตูม และไปประกอบพิธีสรงน้ำพุทธาภิเษก ณ หนองน้ำวัดเจ็ดลิน

ดังปรากฏในรัชสมัยพระเมกุฎิวิสุทธิวงศ์ กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ ลำดับที่ 16 พ.ศ. 2094-2107) มีถ้อยความในตำนานเมืองหลายฉบับบันทึกไว้ว่า ” กษัตริย์เจ้า ไปลอยเคราะห์นอนหั้นแล 3 วัน แล้วไปอุสสาราช หล่อน้ำพุทธาภิเษกสุคนธา ด้วยสุวรรณหอยสังข์ที่วัด 7 ลินคำ หั้นแล….” ตามโบราณราชประเพณี กษัตริย์แต่ละราชวงศ์ ในแผ่นดินแต่ละยุคสมัย จะมีพระราชพิธี สรงน้ำมูรธาภิเษก มีน้ำอภิเษก ประกอบเสมอเหมือน หากแต่ แหล่งน้ำ อาจเลือกตามพระราชประสงค์ ความเหมาะสม

พิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระบรมนาถบพิตร ร.9 เมื่อปี 2493 น้ำมูรธาภิเษกด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ เหล่าน้ำนำมาจากปัญจมหานที คือน้ำจากแม่น้ำคงคา ยมนา อจิรวดี สรภู มหิ น้ำในปัญจสุทธคงคา แม่น้ำสำคัญ 5 สาย ในราชอาณาจักรไทยที่มี แม่น้ำเพชรบุรีเจ้าพระ ยา ป่าสัก บางปะกง ราชบุรี น้ำอภิเษกที่ผ่านการทำพิธีจากพุทธเจดีย์สถานสำคัญทั่วประ เทศ 18 แห่ง เช่น ลำพูน การพิธีที่วัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นต้น

พิธีตั้งน้ำมูรธาภิเษกแต่ละครั้ง แต่ละจังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จะมีพิธีพลีกรรมตักน้ำที่เป็นสิริมงคล แล้วบรรจุภาชนะนำส่งสำนักพระราชวัง เพื่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตาม พระราชประเพณี เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้น ระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.นี้ และน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดบุพพาราม นครเชียงใหม่ เป็นอีก 1 ใน 3 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ราชวงศ์จักรี หลายรัชกาลได้นำประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ไม่ว่ายุคสมัยใด การมีขึ้นของพระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งใหญ่นี้ นับเป็นมหามงคลต่อแผ่นดิน เสมือนสายน้ำที่ราดรดความสุข ให้ปีติเย็นชื่น งอกงามทั่วแผ่นดิน จารึก แลบอกเล่าเป็นประวัติศาสตร์สืบมา

ร่วมแสดงความคิดเห็น