สะเลียม ขมแต่ดี ทั้งยังมีประโยชน์อีกเยอะ

หวานเป็นลม ขมเป็นยา ทุกคนเห็นด้วยกับประโยคนี้ไหมคะ ถ้าเห็นด้วยเรามี “สะเลียม” มาแนะนำค่ะ สะเลียมคืออะไร แล้วรสขมของสะเลียมมีประโยชน์อย่างไงบ้าง

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าเรื่อง ขม ๆ ของสะเรียม ให้ฟัง

สะเลียม คืออะไร

สะเลียม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “สะเดา” เป็นผักที่มีรสขม และมีสรรพคุณทางยามากมาย นอกจากยอดที่คนนิยมทานแล้ว ทั้งต้นของสะเดายังใช้เป็นประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย อย่างเช่น รากสะเดา มีรสขม ฝาดเย็น แก้เสมหะ ที่จุกคอ และแน่นอยู่ในอกนั่นเอง

ประโยชน์ของสะเลียม

1.ช่วยบำรุงสุขภาพช่องปาก บำรุงเหงือกและฟัน โดยนำมาสกัดเป็นส่วนผสมในยาสีฟัน ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก และลดอาการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก

2.ช่วยลดสิว น้ำมันสะเดาสกัดเย็นบริสุทธิ์ สามารถนำมาบำรุงผิวพรรณได้ เช่น รอยแดง ผื่นคัน สิว รอยสิว และรอยแผลเป็นจากสิว

3.ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย เพราะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ที่จะช่วยฟื้นฟู และชะลอความเสื่อมต่าง ๆ ของเซลล์ จากการถูกทำร้ายของสารอนุมูลอิสระ

4.ช่วยดีท็อกซ์สารพิษ นำใบสะเดามาต้มในน้ำร้อน ใช้จิบอย่างน้อยวันละครั้ง จะล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย และกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น

5.ช่วยย่อยอาหาร ใบสะเดานำมาทำเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้ เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำดี ช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอาหารประเภทไขมัน

6.ช่วยบำรุงหัวใจ ผลของต้นสะเดาหากนำมาต้ม ใช้จิบอย่างน้อยวันละครั้ง มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ

7.ช่วยรักษาโรคเบาหวาน โดยยับยั้งการผลิตอินซูลินได้กว่าร้อยละ 50 และยังช่วยปรับสมดุลความอยากอาหารด้วย

8.ช่วยรักษาโรคไขข้อ โดยขอบใบสะเดา เมล็ดสะเดา และเปลือกต้น นำมาใช้เป็นยารักษาโรคไขข้อได้ ช่วยลดอาการปวด บวมในข้อ ใช้การนำมาสกัดเป็นน้ำมัน ทาบริเวณที่มีอาการปวด

9.ช่วยบำรุงกระดูก และข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย

10.ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ใบและเมล็ดของสะเดา มีสารเกดูนิน (Gedunin) และนิมโบลิดี (Nimbolide) ที่มีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส เช่น เชื้อราที่เท้า เริม ลมพิษ เป็นต้น

ใครบ้างที่ไม่ควรกินสะเลียม

1.เด็กแรกเกิด ไม่ควรใช้น้ำมันสะเดาทาเพื่อลดผื่นผ้าอ้อม เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้

2.ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร และผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง ไม่ควรทานสะเดา เพราะจะทำให้ไม่มีน้ำนม

3.คนเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรทานสะเดา เพราะสะเดามีคุณสมบัติลดน้ำตาลในเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนน้อยลง เกิดอาการเป็นลม หมดสติ หรือวูบได้ง่าย

4.สะเดามีรสขม จึงเป็นยาเย็น และไม่เหมาะกับคนธาตุเย็น เพราะจะยิ่งทำให้ท้องอืด เกิดลมในกระเพาะ

5.คนเป็นโรคไตไม่ควรทานสะเดา เพราะสะเดาเป็นอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง

6.คนที่เป็นโรคกระเพาะ หรือโรคที่เกี่ยวกับช่องท้อง เช่น โรคกรดไหลย้อน ภาวะเรอเปรี้ยว แสบร้อนกลางอก ไม่ควรทานสะเดา เพราะรสขม เป็นรสที่ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยให้ออกมาขึ้น

สะเลียมกินกับอะไรได้บ้าง

ด้วยรสชาติที่ขมของสะเลียม คนเหนือจึงนิยมนำมาทานเป็นเครื่องเคียง กินคู่กับน้ำพริก หรือลาบ อาจจะใช้วิธีการลวก เพื่อล้างความขมออกก่อน หรือกินสด แต่ใช้วิธีแช่กับน้ำปลาก็อร่อยได้เหมือนกัน

อยากกิน ซื้อที่ไหนดี

สะเลียม เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย โตเร็ว จะออกดอกในช่วงต้นปี ประมาณเดือนมกราคม – มีนาคม ถ้าอยากรู้ว่าสะเลียม หรือสะเดาจะขมแค่ไหน ลองไปหาซื้อ หาทานได้ที่ตลาดเมืองใหม่ ขายมัดละ 5 บาท กิโลกรัมละ 40 บาท และตลาดต้นลำไย ซึ่งจะขายกันที่มัดละ 5 บาท

สรุป

สะเลียม หรือสะเดา ผักพื้นบ้านที่มีประโยชน์ครบครัน เห็นแบบนี้แล้ว ความขมของตัวสะเลียม คงไม่เป็นปัญหาในการรับประทานอีกแล้วใช่ไหมคะ สำหรับใครที่กำลังจะเป็นคุณแม่ ควรเลี่ยงการทานสะเลียมจะดีกว่านะคะ เพราะน้ำนมของคุณแม่ ถือเป็นสิ่งดี ๆ ที่ลูกควรได้รับนั่นเอง

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.termsuk.oonvalley.com
www.ku.ac.th
www.beezab.com
www.khaosod.co.th

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้าวแคบ ข้าวควบ ละอ่อนกินได้ คนใหญ่ซ้ำมัก

“8 สุดยอดน้ำพริก” ที่มาเชียงใหม่ต้องชิม!

บำรุงผิวใต้ตาให้ดูกระจ่างใส

เทคนิคดูแลผิว เพื่อหน้าขาวใสสุขภาพดีแบบสาวเกาหลี

ขยี้ตาเกิดริ้วรอยได้ ริ้วรอยเกิดง่ายขนาดไหนกัน ?

ลุกก็โอย นั่งก็โอย ข้อเข่าเสื่อมไม่ได้เป็นเฉพาะคนแก่

เบาหวานเป็นโรคของคนอ้วนจริงหรือ ?

ร่วมแสดงความคิดเห็น