เตรียมปิดถ้ำหลวง 19 ก.พ.นี้ เพื่อเก็บกู้อุปกรณ์ที่ค้างภายในถ้ำหลวง

วันที่ 15 ก.พ.62 ทางคณะทำงานบูรณะปรับปรุงฟื้นฟู อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ได้ปิดปากถ้ำหลวงสถานที่ที่เคยมีปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คนเมื่อกลางปี 2561 ที่ผ่านมาเนื่องจากยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือต่าง ๆ คงค้างอยู่ภายในถ้ำเป็นจำนวนมากนั้น ล่าสุดทางอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ได้มีประกาศอุทยานฯ ว่าจะมีการปิดการท่องเที่ยวถ้ำหลวงตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. นี้เป็นต้นไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำโดยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือหรือหน่วยซีล กองทัพเรือ ได้เข้าไปขนย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดดังกล่าวออกมาจากถ้ำและทำการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในทางราชการในอนาคต ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานจึงได้ทำการปิดไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะแล้วเสร็จ กระนั้นในส่วนของพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยเฉพาะขุนน้ำนางนอนหรือสระมรกตที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ตามปกติต่อไป

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ทางเจ้าหน้าที่นำโดยกรมอุทยานแห่งชาติ หน่วยซีล หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ได้เข้าไปสำรวจภายในถ้ำหลวงครั้งแรกโดยเดินลึกเข้าไปตั้งแต่ปากถ้ำซึ่งเป็นโถงที่ 1 และไปยังโถงที่ 2 และ 3 ประมาณ 2 กิโลเมตร และพบว่าภายในถ้ำมีอุปกรณ์ประกอบด้วยสายไฟฟ้า ท่ออากาศ วิทยุสื่อสาร ถังออกซิเจนคงค้างอยู่กว่า 300 ถังโดยมีมากที่โถงที่ 3 ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการขณะเกิดเหตุและโถงที่ 2 ซึ่งเป็นโถงใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เปลสนามและสายเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันไปตลอดรายทาง เครื่องสูบน้ำ กระดาษฟรอยด์ อาหารพาวเวอร์เจล ขยะ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินหน้าจากโถงที่ 3 ผ่านสามแยกไปทางเนินนมสาวระยะทางอีกประมาณ 700 เมตร เพื่อสำรวจอุปกรณ์ต่อไปได้เนื่องจากน้ำยังคงท่วมและมีทรายอุดตัน ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ถอนตัวออกจากถ้ำแต่ได้เก็บภาพและข้อมูลอุปกรณ์ต่าง ๆ เอาไว้กระทั่งมีการประกาศปิดการท่องเที่ยวครั้งใหม่เพื่อจะเข้าไปเก็บกู้ออกมาดังกล่าว ทำให้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าการเข้าไปเก็บกู้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าผ่านสามแยกไปยังเนินนมสาวได้หรือไม่

ขณะที่ภายในนอกปากถ้ำเจ้าหน้าที่ได้มีการกั้นรั้วและติดป้ายเอาไว้ตั้งแต่ปิดปฏิบัติการช่วยเหลือแล้ว แต่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนได้ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ร่วมแสดงความคิดเห็น