พาเที่ยว “แม่แตง” เมืองแห่งมนตร์เสน่ห์

“แดนน้ำสามแม่ ล่องแพขี่ช้าง แอ่วอ่างแม่งัด กาดนัดแม่มาลัย โป่งเดือดใหญ่ล้ำค่า หมอกฟ้าห้วยน้ำดัง มนตร์ขลังเมืองแกน ท่องแดนถ้ำบัวตอง” คำขวัญที่กล่าวมานี้ คือคำขวัญประจำอำเภอแม่แตง ที่ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อประจำอำเภอแม่แตงเข้าไว้ด้วยกัน

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในคำขวัญประจำอำเภอแม่แตง พร้อมวิธีการเดินทางมาบอกกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

“แดนน้ำสามแม่”

อำเภอแม่แตง มีแม่น้ำที่สำคัญ 3 สาย ไหลมาบรรจบกันที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง หรือที่ชาวแม่แตงเรียกว่าชลประทานนั่งเอง ซึ่งแม่น้ำ 3 สายนั้น คือ แม่น้ำแม่งัด แม่น้ำแตง และแม่น้ำปิง ดังเป็นที่มาของคำว่า “แดนน้ำสามแม่” นั่นเอง

“ล่องแพ ขี่ช้าง”

หมายถึง “ปางช้างแม่ตะมาน”  ที่นี่คุณจะได้ใกล้ชิดกับช้างอย่างที่สุด จากการเรียนรู้การเป็นควาญช้าง การฝึกขึ้นและลงหลังช้าง พาช้างไปอาบน้ำ กิจกรรมงานศิลปะร่วมกันกับช้าง รวมถึงการไปเยี่ยมชมและสัมผัสกับความเป็นอยู่ในบ้านของควาญช้าง ก่อนจะนั่งช้างชมความสวยงดงามของธรรมชาติของหุบเขาแม่ตะมาน และทัศนียภาพสองฝั่งน้ำแม่แตง ทั้งยังได้รับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติและกลางฝูงช้าง  นอกจากนี้ยังมีบริการล่องแพในลำน้ำแม่แตง และนั่งเกวียนเทียมวัวอีกด้วย

คำแนะนำ: ไม่ควรไปในฤดูฝน เพราะเกิดน้ำป่าไหลหลากค่อนข้างบ่อย

เวลาทำการ: ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-15.00 น.

เบอร์ติดต่อ: 053-297-060 และ 053-297-283

ค่าบริการ: ท่านละ 300 บาท (รวมการแสดงของช้างแล้ว)

การเดินทาง: สามารถเดินทางได้โดยจักรยาน, จักรยานยนต์ และรถยนต์ ระยะทางประมาณ 54 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง  ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่แตง(อยู่ซ้ายมือ) จะเจอ 3 แยกไฟแดงให้ตรงไป ตรงไปสักพักจะมีป้ายปางช้างแม่ตะมาน อยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวไปตามที่ป้ายบอก ตรงไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ

“แอ่วอ่างแม่งัด”

หมายถึง เขื่อนแม่งัด สมบูรณ์ชล ที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นเขื่อนแห่งแรกที่มีนามสกุล นอกจากเป็นเขื่อนที่ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานแล้ว ด้วยวิวของเขื่อนที่งดงาม รายล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี เขื่อนแม่งัดจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจยอดฮิต อีกแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ และต้องการพักผ่อนแบบสงบ ท่ามกลางสายน้ำ เขื่อนแม่งัดมีแพที่พักในรูปแบบรีสอร์ท เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวหลายแห่ง สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ มารับประทานอาหาร หรือค้างคืนพักผ่อน นอนแพ และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางแพมีให้ เช่น ชมวิวที่แพ ว่ายน้ำ พายเรือคายัครอบเขื่อน หรือบางแพจะมีเครื่องเล่นให้ด้วย

เวลาทำการ: ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-17.00 น.

ค่าบริการ: ค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาท, ค่าจอดรถ 30 บาท และค่าเข่าเรือเข้าแพ (แล้วแต่ตกลงกับเจ้าของเรือ)

การเดินทาง: สามารถเดินทางได้โดยจักรยาน, จักรยานยนต์ และรถยนต์ ระยะทางประมาณ 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง  ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่แตง(อยู่ซ้ายมือ) จะเจอ 3 แยกไฟแดงให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ

แพที่ให้บริการที่เขื่อนแม่งัด

1.เรือนแพพันภิรมย์ โทร: 086-425-7065  เว็บไซต์: https://www.facebook.com/paepanpirom/

2.เมาเทนโฟร์ท โทร: 093-615-6365  เว็บไซต์: http://www.mountainfloat.net/

3.เรือนแพสายนที โทร: 081-960-5357 และ 086-396-9453  เว็บไซต์: http://www.cmfloatinghouse.com

4.เรือนแพริมธาร โทร: 081-905-6792 และ 089-198-1407  เว็บไซต์: https://www.facebook.com/reunpaerimtarn/

5.เรือนแพเอกชัย โทร: 083-480-5679  เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Eakachai.0834805679/

6.เรือนแพอาจารย์วิช โทร: 091-712-6105  เว็บไซต์: http://www.cmhouseboat.com

7.เรือนแพน้องมายด์ โทร: 085-616-4337  เว็บไซต์: https://www.facebook.com/MyHomeBoatChiangmai/

8.เรือนแพน้องแอน โทร: 081-961-3369  เว็บไซต์: https://www.facebook.com/NongAnn.HouseBoat/

9. Velaloy Floating Resort โทร: 062-294-9000  เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Velaloy/

“กาดนัดแม่มาลัย”

ตลาดสดแม่มาลัย มีสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ ผักสด ของแห้ง ของดอง ผลไม้ อาหาร ดอกไม้สด เครื่องเทศ สมุนไพรท้องถิ่น รวมไปถึงหนังสือพิมพ์ จะเห็นได้ว่ากาดนัดแม่มาลัย มีสินค้าหลายประเภทวางขายอยู่ ทั้งนี้ราคาก็ไม่แพง มีบริการที่จอดรถ และห้องน้ำอีกด้วย

เวลาทำการ: ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 07.00-21.00 น.

การเดินทาง: สามารถเดินทางได้โดยจักรยาน, จักรยานยนต์ และรถยนต์ ระยะทางประมาณ 38 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง ผ่านอำเภอแม่ริม ผ่านTesco Lotus สาขาแม่แตง ตรงมาสักพักจะเจอตลาดสดแม่มาลัยอยู่ทางซ้ายมือ ตรงสามแยกแม่มาลัย-ปาย

“โป่งเดือดใหญ่ล้ำค่า”

น้ำพุร้อนโป่งเดือด เป็นน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geyser type) คือ น้ำพุร้อนที่ปล่อยกระแสน้ำร่วมกับไอน้ำออกมาเป็นระยะ ๆ ไม่สม่ำเสมอ มีจำนวน 3-4 บ่อ ในอดีตน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินสูงถึง 5 เมตร แต่ปัจจุบันสูงเพียง 1 เมตรเท่านั้น เนื่องจากปริมาณน้ำใต้ดินลดลง อุณหภูมิน้ำใต้ดินประมาณ 170 – 200 องศา และอุณหภูมิของน้ำผิวดินประมาณ 90 – 100 องศา รอบ ๆ บริเวณจะเป็นป่าทึบจะอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน นอกจากนี้ในยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติจากด้านหน้าอุทยานฯ ไปยังน้ำพุร้อน ยาวประมาณ 1,550 เมตร ผ่านป่าที่อุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้ใหญ่ และมอสที่ขึ้นระหว่างทางเดิน เส้นทางเดินจะเป็นวงรอบ ไม่ย้อนกลับทางเดิม กิจกรรมที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวโป่งเดือด จะมี 2 กิจกรรม คือ เดินเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และแช่น้ำร้อน ซึ่งมีบ่อให้เลือกแช่หลายบ่อ ได้แก่ บ่อแช่เท้า บ่อส่วนตัว และบ่อรวม

เวลาทำการ: ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-17.00 น.

เบอร์ติดต่อ: 053-315-209

ค่าบริการ: คนไทย 50 บาท, เด็ก 20 บาท, ค่าจอดรถยนต์ 30 บาท และชาวต่างชาติ 300 บาท

การเดินทาง: สามารถเดินทางได้โดยจักรยานยนต์ และรถยนต์ ระยะทางประมาณ 84 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง และเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกเลี่ยงเมืองแม่มาลัย-ปาย และตรงไปเรื่อย ๆ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข1905 สายแม่มาลัย-ปาย ประมาณ 42 กม. จะเจอป้ายบอกทางน้ำพุร้อนโป่งเดือนอยู่ทางขวามือ ให้แล้วขวาไปตามป้าย ตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณ 7 กม. จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ซึ่งถนนเป็นทางลาดยาง เป็นหลุม เป็นบ่อ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง

“หมอกฟ้า ห้วยน้ำดัง”

ในท่อนนี้ของคำขวัญประจำอำเภอแม่แตง มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ 2 ที่ด้วยกัน คือ

1.น้ำตกหมอกฟ้า

เป็นน้ำตกที่สวยสง่า มีลักษณะเป็นสายน้ำพุ่งตัวลงมาตามหน้าผาสูงชัน ซึ่งเมื่อมวลพลังน้ำมากมายโดนกระแสลมพัด ละอองน้ำก็จะกระเซ็นออกมาฟุ้งไปทั่ว ราวกับสายหมอกสีขาว งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ น้ำตกหมอกฟ้า มีความสูงราว ๆ 30 เมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลำห้วยแม่ฮาว น้ำมากมายจะไหลพรั่งพรูลงมาตามหน้าผาหิน แยกเป็น 2 สายใหญ่ ๆ อย่างเห็นได้ชัด เบื้องล่างเป็นแอ่งดินทราย ไม่ลึกมากนัก ซึ่งทางอุทยานจะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ในช่วงที่น้ำไหลไม่แรง ที่นี่ยังมีถ้ำหมอกฟ้าที่อาศัยของค้างคาว และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติด้วย กิจกรรมที่แนะนำ คือ เล่นน้ำ ตั้งแคมป์ ศึกษาเดินดูธรรมชาติ และดูนก

คำแนะนำ: ไม่ควรไปในฤดูฝน เพราะเกิดน้ำป่าไหลหลากค่อนข้างบ่อย

เวลาทำการ: ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-17.00 น.

เบอร์ติดต่อ: 053-210-244 และ 086-420-5242

ค่าบริการ: คนไทย 30 บาท, เด็ก 10 บาท, ค่าจอดรถยนต์ 30 บาท, ชาวต่างชาติ 100 บาท และเด็กต่างชาติ 50 บาท

การเดินทาง: สามารถเดินทางได้โดยจักรยาน, จักรยานยนต์ และรถยนต์ ระยะทางประมาณ 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง และเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกเลี่ยงเมืองแม่มาลัย-ปาย และตรงไปเรื่อย ๆ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข1905 สายแม่มาลัย-ปาย ตรงไปเรื่อย ๆ จนเข้าเขตตำบลสบเปิง จะมีป้ายบอกทางอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายอีกประมาณ 2 กม. ระหว่างทางเป็นเขาสูงชัน ถนนลื่น ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง

2.ห้วยน้ำดัง

เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาพิสูจน์ความหนาวเย็น ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม และตั้งแคมป์ไฟนอนบนห้วยน้ำดัง แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่รถยนต์สามารถเข้าถึง แต่สภาพป่าไม้ของอุทยานฯ ห้วยน้ำดังก็ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา

เวลาทำการ: ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-17.00 น.

เบอร์ติดต่อ: 053-248-491 และ 084-908-1531

ค่าบริการ: คนไทย 50 บาท, เด็ก 20 บาท, ชาวต่างชาติ 300 บาท และเด็กต่างชาติ 150 บาท

การเดินทาง: สามารถเดินทางได้โดยจักรยานยนต์ และรถยนต์ ระยะทางประมาณ 105 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30  ชั่วโมง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง และเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกเลี่ยงเมืองแม่มาลัย-ปาย และตรงไปเรื่อย ๆ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข1905 สายแม่มาลัย-ปาย ตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณ 65 กม. จะพบป้ายอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังอยู่ทางขวามือ เลี้ยวขวาไปตามป้าย เข้าเขตอุทยาน ระหว่างทางมีโค้งอันตรายหลายแห่ง ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง

“มนตร์ขลังเมืองแกน”

เมืองแกนมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานหลายร้อยปี ซึ่งเป็นชุมชนโบราณก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านนาตั้งแต่สมัยพญามังรายครองเมืองเชียงใหม่ (พ.ศ.1801– พ.ศ.1854) ผู้คนในล้านนาสมัยนั้นสร้างสรรค์วัฒนธรรม อารยธรรม วัดวาอาราม กำแพงเมืองคูโบราณ สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ คิดค้นเทคโนโลยี ผลิตศิลปกรรม วรรณกรรม และ หัตกรรมต่าง ๆ ทิ้งไว้เป็นหลักฐานทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์อันเป็นมรดกของดินนี้มากมาย บริเวณเมืองแกนนี้มีที่ราบที่กว้างขวางซึ่งประชาชนเรียกพื้นที่ราบนี้ว่า “ทุ้งชิ้นแห้ง” ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยให้เห็นภาพกว้างใหญ่ของพื้นที่ราบนี้ว่า“ขนาดที่หาบเนื้อสดผ่านทุ่งนี้กว่าจะถึงอีกฟากหนึ่งเนื้อสดก็กลายเป็นเนื้อแห้งพอดี” ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองแกนก็มีหลายที่ ได้แก่ วัดอรัญญวิเวก (วัดหลวงปู่เปลี่ยน) วัดบ้านเด่น เขื่อนแม่งัด และแหล่งเตาเผาอินทขิล โดยช่วงปลายปีจนถึงช่วงต้นปีจะมีการจัดงาน “หนาวนี้ที่เมืองแกน” ขึ้น เป็นประจำทุกปี

การเดินทาง: สามารถเดินทางได้โดยจักรยาน, จักรยานยนต์ และรถยนต์ ระยะทางประมาณ 50 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง  ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่แตง(อยู่ซ้ายมือ) จะเจอ 3 แยกไฟแดงให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะเข้าเขตเมืองแกน

“ท่องแดนถ้ำบัวตอง”

กล่าวถึง น้ำตกบัวตอง และน้ำพุเจ็ดสี น้ำตกบัวตองอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง น้ำตกบัวตอง มีความสูงประมาณ 150 เมตร มีด้วยกัน 3 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะมีทางเดินที่ทางอุทยานทำขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวในการเดินขึ้น-ลง จุดที่ทำให้น้ำตกบัวตองโดดเด่นต่างจากน้ำตกที่อื่นคือ หินของน้ำตกบัวตองจะเป็นหินปูน ซึ่งไม่มีความลื่นเหมือนหินน้ำตกทั่วไป นักท่องเที่ยวสามารถปีนป่ายน้ำตกได้อย่างสนุกสนาน ที่หินเป็นหินปูนนั้นเพราะน้ำจากน้ำตกบัวตองเป็นน้ำแร่ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตอยู่มากกว่าปกติ เมื่อน้ำไหลผ่านมาเป็นเวลานาน จึงทำให้หินน้ำตกถูกเคลือบจนเป็นหินปูนแข็ง และที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตองยังมี น้ำพุเจ็ดสี ซึ่งเป็นหนึ่งในตาน้ำ ที่มีน้ำใสมาก ๆ ไหลพุ่งออกมาจนก่อเกิดเป็นลำธารและไหลรวมไปเป็นน้ำตกบัวตอง โดยน้ำที่ไหลออกมาจากน้ำพุเจ็ดสี  มีความใสสะอาดและเย็นมาก ในตอนกลางวันหรือเวลามีแดดมากระทบก็จะเห็นแสงสะท้อนกับสระน้ำพุคล้าย ๆ กับสีของรุ้งกินน้ำ  น้ำที่ออกมานี้ก็จะเป็นน้ำแร่ซึ่งมี แคลเซียมคาร์บอเนตอยู่มากกว่าน้ำแร่ปกติ

เวลาทำการ: ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-17.00 น.

เบอร์ติดต่อ: 087-173-5860 และ 092-608-6647

ค่าบริการ: นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมน้ำตกบัวตองฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น (ทั้งชาวไทยและต่างชาติ)

การเดินทาง: ใช้เส้นทางเชียงใหม่-อำเภอพร้าว (ทางไปมหาวิทยาลัยแม่โจ้) ขับเลยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ประมาณ 43 กิโลเมตร พอมาถึงตรงหลักกิโลเมตรที่ 48-49 ก็จะมีทางแยกขวามือเข้าไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตองและน้ำพุเจ็ดสี

สรุป

การเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง ควรศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนออกเดินทาง และควรคำนึงถึงฤดูกาลเป็นสำคัญ เนื่องจากอำเภอแม่แตงมีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขา ดังนั้นในฤดูฝน จึงเกิดน้ำป่าไหลหลากบ่อยมาก ดังนั้นจึงไม่ควรเลือกเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งน้ำ หรือล่องแพ ในฤดูฝน และที่สำคัญคือ ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้งนะคะ

เรียบเรียงโดย: “เชียงใหม่นิวส์

ขอบคุณภาพจาก: Unseen Tour Thailand

ร่วมแสดงความคิดเห็น