ส้ม สรรพคุณสุดยอดกับชีวิต แต่มีสารเคมีพิษปนเปื้อนสูง

กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกส้ม ในภาคเหนือ กล่าวว่า ส้มเคยเป็นพืชเศรษฐกิจติดอันดับทำเงิน ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกในแหล่งผลิตหลักๆ ทั้งน่าน,เชียงใหม่,สุโขทัย,แพร่ ลดน้อยลง เฉพาะเชียงใหม่เคยปลูก7-8หมื่นไร่ ใน 18 อำเภอ เช่นเชียงดาว,แม่แตง,ไชยปราการ,แม่อาย, เวียงแหง ทั้งพันธุ์สายน้ำผึ้ง,สีทอง,ฟรีมองต์

เพราะปัญหาเรื่องโรคแมลง ต้องใช้สารเคมีป้องกัน กำจัด โรค บำรุง ค่อนข้างเยอะแม้ราคาจะดี แต่ไม่คุ้มทุนที่สูง ทำให้เกษตรกรหันไปปลูกเงาะ ทุเรียน กล้วย เสาวรสแทน
ข้อมูลด้านสุขภาพระบุส้มมีสรรพคุณทางยา ชาวจีนและชาวตะวันตกเชื่อว่าเป็นผลไม้มงคล ด้านเภสัชวิทยาค้นพบว่าส้มอุดมด้วย วิตามินซี, บี 1 สารต้นอนุมูลอิสระ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สารที่สกัดได้จากเปลือก ผลส้มไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ ต้านมะเร็ง ต้านแบคทีเรีย ไวรัส พยาธิ

สรรพคุณให้ประโยชน์กับร่างกาย การรับประทานส้มจะช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน รักษาโรคเหงือก ทำให้เจริญอาหาร ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ขจัดความหมองคล้ำ ชะลอการเกิดริ้วรอย เป็นต้น

แต่ล่าสุดข้อมูลโครงการตรวจสอบเฝ้าระวังสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ ประจำปีที่ผ่านมาเป็นความร่วมมือกันหลายหน่วยงานระดับประเทศ ได้เก็บตัวอย่างผักและผลไม้สด 41 ชนิดพืช รวม 7,054 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่าผักและผลไม้สดที่พบปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ พริก ,ถั่วฝักยาว ,คะน้า, ส้ม ,มะเขือ และมะเขือเทศ
ส้มเป็นพืชที่พบปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด หากจะนำส้มไปคั้นน้ำ ควรล้างเปลือกด้านนอกให้สะอาด
หรือปลอกเปลือกทิ้งไป และปัญหาด้านสุขภาพที่พบจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ เมื่อมีการซื้อส้มมาแล้วปลอกเปลือก มือไม่ล้าง หยิบจับผลส้มรับประทาน ทำให้ร่างกายได้สารปนเปื้อนที่สะสมในเปลือก ซึ่งเปลือกส้มเป็นแหล่งสารอันตรายต่อร่างกายสูงสุดกว่าผลไม้ประเภทอื่นๆ

ร่วมแสดงความคิดเห็น