จังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือ Unhcr ส่ง ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบกว่า 50 คน จากพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านใหม่ในสอย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางกลับสู่มาตุภูมิสู่รัฐคะยา เมียนมา โดยทางการพม่าให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 12.00 น.จังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือUnhcr ส่งผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบจำนวน 15 ครอบครัวรวม 59 คนแบ่งเป็นเด็ก 21 คน ผู้ใหญ่ 38 คน ตามโครงการ ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ กลับสู่มาตุภูมิโดยสมัครใจ จากพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านใหม่ในสอย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน สู่รัฐคะยา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผ่านช่องทางจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนบ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยมีนายอูแอลผ่องโฉ่ว มุขมนตรีรัฐคะยา และคณะมารอต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนบ้านห้วยต้นนุ่น และมีนายอูเตนติน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ จังหวัดเชียงใหม่ และนายอูจ่อเมียวเต็ด กงสุลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพันเอกสมเจตตะณ์ ภักดีบรรณดิษฐ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นสักขีพยาน พร้อมกันนี้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 มอบผ้าห่มและยารักษาโรค รวม 15 ชุดแก่ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ
ส่วนทางด้านUnhcr มอบเงินช่วยเหลือผู้ใหญ่คนละ 9,300 บาท เด็กคนละ 7,500 บาท จัดพาหนะในการเดินทาง พร้อมอาหาร สิ่งของ เครื่องใช้ ด้านรัฐคะยาและกาชาดมอบเงินคนละ 600 จ๊าด หรือ 180 บาท ต่อคนนาน 1 เดือน เสื้อผ้า เครื่องครัว และของใช้ในครัวเรือน โดยผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบจะกลับไปอยู่กับญาติพี่น้อง 5 เมืองในรัฐคะยา และเชื่อมั่นในความปลอดภัย
นางเดซิ ไม่มีนามสกุล อายุ 52 ปี ราษฎรพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยง รัฐคะยา สหภาพเมียนมา 1 ในผู้อพยพ เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกกลัวที่จะต้องกลับสู่บ้านเกิด โดยตนมีบ้านเกิดในอำเภอผาซอง จังหวัดลอยก่อว์ รัฐคะยา ในการกลับไปอาศัยอยู่ในถิ่นฐานเดิมในครั้งนี้ จะจะไปทำอาชีพเกษตรกร เนื่องจากญาติพี่น้องใน บ้านผาซอง มีที่ดินอยู่เป็นจำนวนมาก คิดสามารถดำรงชีวิตอยู่ในพม่าได้เหมือนเดิมก่อนที่จะเกิดสงคราม ครั้งนี้ครอบครัวของตนที่เดินทางกลับมีทั้งหมด 5 คน มีตน สามี และบุตรอีก 3 คน
สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน ได้จัดตั้งพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ลี้ภัย บริเวณชายแดนเมียนมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อย โดยจัดตั้งทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่พื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านใหม่ในสอย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน/ บ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม/ บ้านแม่ลามาหลวง และบ้านแม่ละอูน อ.สบเมย มีผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ จำนวนกว่า 20,000 คน และมีการส่งผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบไปยังมาตุภูมิและประเทศที่ 3 อย่างต่อเนื่อง
ร่วมแสดงความคิดเห็น