สนธิกำลังรวบเด็ก สปป.ลาว รับจ้างนายทุน อ.สันติสุข ถางป่าสงวนแห่งชาติ

เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ทำการหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.10 (ภูเพียง) จนท.สนธิกำลัง โดยการอำนวยการของ นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ นายไชยรัตน์ แสงปาน ผอ.ส่วนป้องกันและควบคุมไฟป่า และนายชาติชาย สมวงษ์อินทร์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้น่าน นายณัฐชนน คนสูง หัวหน้าหน่วย ป้องกันรักษาป่าที่ นน.10 (ภูเพียง) จนท.หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ภูเพียง จนท.ป่าไม้ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้น่าน ศูนย์ป่าไม้น่าน จนท.ป่าไม้ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่

จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.9 (สันติสุข) ร.ต.ท.สมบัติ แกล้วกล้า จนท.ตร.กก.4 บก.ปทส. ร.ต.อ อภิศิษฎ์ สุดใจ รอง สว.สส.สภ.ภูเพียง นายประทุน สุยาว ปลัด อ.ภูเพียง จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ภูเพียง ร.ต.ท ชวลิต ประพัน จนท.ทหารชุดร้อย รส.ที่ 1 มทบ.38 และ ร.ต.ท อดุลย์ ไชยา รอง ผบ.ร้อย ตชด.324 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาว สปป.ลาว จำนวน 4 คน ซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง 14 ปี เท่านั้น ประกอบด้วย

1.ท้าวเหนี่ยว (สา) พอน อายุ 14 ปี, 2.ท้าวคิม ฟ้า อายุ 14 ปี, 3.ท้าวสุก ไพ อายุ 14 ปี, 4.ท้าวอาม ไพ อายุ 14 ปี ทั้ง 4 คน อยู่บ้านสะเขต เมืองไชยสถาน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว พร้อมด้วยของกลาง มีดพร้า จำนวน 4 เล่ม / หินลับมีด 1 ก้อน และ รถ จ.ย.ย. จำนวน 2 คัน สภาพเก่า

ซึ่งก่อน จนท.สนธิกำลัง ได้รับแจ้งจากราษฎรในพื้นที่บ้านห้วยไฮ ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ว่ามีกลุ่มบุคคลนายทุนจาก อ.สันติสุข ว่าจ้างคนต่างด้าว(สปป.ลาว)เข้ามาลักลอบบุกรุกแผ้วถางป่าบริเวณป่าห้วยน้ำกุ๋ย หมู่ 14 บ้านห้ายไฮ ต.ฝายแก้ว จึงเข้าไปตรวจสอบโดยได้เดินทางด้วยเท้าเข้าไป ประมาณ 5 กิโลเมตร ก็พบกลุ่มบุคคลตามที่รับแจ้ง จำนวน 4 คน กำลังบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนฯอยู่ จึงตรวจสอบเข้าจับกุมและสอบถามเกี่ยวกับเอกสารหรือหนังสือเดินทาง แต่ไม่สามารถนำแสดงได้ ซึ่งชายทั้ง 4 คน สามารถฟังและพูดภาษาไทยได้

จากการสอบสวนเด็กผู้ต้องหาชาวลาวทั้ง 4 ให้การว่า ได้เข้ามาทำงานแล้ว 4 วัน โดยมีนายคนทุนหนึ่งชื่อ ส. เป็น อ.สันติสุข เป็นคนว่าจ้างมาถางป่าเพื่อปลูกข้าวโพด โดยได้นำรถยนต์มารับพวกตนเอง มาจากบ้านเปียงซ้อ อ.บ่อเกลือ ซึ่งเป็นช่องทางเดินธรรมชาติ แล้วนำมาแผ้วถางป่า ที่บริเวณป่าห้วยน้ำกุ๋ย พร้อมอุปกรณ์แผ้วถางป่า

จากนั้น จนท.จึงได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ จับค่าพิกัดรอบแปลงได้ 11 จุด และคำนวณพื้นที่ได้ 15-0-6 ไร่ ที่ถูกทำลายไป พื้นที่มีลักษณะเป็นป่าฟื้นธรรมชาติแล้ว จนท.จึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน โดยอาศัยอำนาจ มาตรา 64 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2482

โดยมี นายณัฐชนน คนสูง หัวหน้าหน่วย ป้องกันรักษาป่าที่ นน.10 (ภูเพียง) เป็นเจ้าพนัก งานแจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับรับทราบว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยแจ้งข้อกล่าวว่า ร่วมกันสร้าง แผ้วถาง และยึดถือครอบครองดังกล่าว เป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่าสงวนแห่งชาติตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 การสร้าง แผ้วถาง และยึดถือครอบครองพื้นที่ดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ / เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ควบคุม ผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง พงส.สภ.ภูเพียง เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น