สาวโพสต์โซเชียล ทำไมต้องตัดต้นยางนา ถนนเชียงใหม่-ลำพูน อีกมุมมองของคนมีบ้านเรือนแถวนั้น

วันที่ 22 ก.พ.62 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการดำเนินการตัดต้นยางนา 2 ต้น อายุกว่า 100 ปี ที่อยู่บริเวณสี่แยกกองทราย ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ถนนวงแหวนรอบนอกเมืองเชียงใหม่ ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ สภาพเหลือแต่ตอ ตั้งตระหง่านสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งในเวลาต่อมาทางกลุ่มเครือข่าย เขียว สวย หอม และหมอต้นไม้ รวมทั้งหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ออกมาสำรวจข้อมูลในการดำเนินการฟื้นฟูและรักษา ขณะที่วานนี้ (21 ก.พ.62) ทางด้าน นายสมชาติ วัฒนากล้า ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายชัยศิลป์ ปัญญาบุตร หัวหน้าฝ่ายเครื่องจักรกล อบจ.เชียงใหม่ ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในการดำเนินการตัดต้นยางนา 2 ต้น อายุกว่า 100 ปี ที่อยู่บริเวณสี่แยกกองทราย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้

ล่าสุดบนโลกโซเชียล ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งใช้ชื่อว่า “ปนัดดา เคลย์ตัน” ได้มีการโพสต์ภาพและข้อความเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากต้นยางนาที่เกิดหักโค่นลงมาทับบ้านเรือนและทรัพย์สินของเจ้าตัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้กับต้นยางนาที่มีขนาดใหญ่โต แต่เมื่อเกิดพายุฝนพัดกระหน่ำแรงก็ทำให้ต้นหักโค่นลงมา ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่กรณีลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังเป็นอันตรายกับประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมาบนถนนสายดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ที่กิ่งของต้นยางนาขนาดใหญ่นี้เคยหักลงมาทับรถจนได้รับความเสียหายและมีคนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว ขณะเดียวกันทางเจ้าตัวได้ระบุภายในโพสต์ดังกล่าวว่า “#ตามหาคนที่ด่าเรื่องตัดต้นยางสารภี#ให้ช่วยมารับผิดชอบค่าซ่อมรถ บ้านด้วย#ดิฉันก็คือผู้โชคร้ายเมื่อปีที่แล้วค่ะ#ส่วนคนที่บอกว่าให้หลีกเลี่ยง จะหลีกได้ไง ในเมื่อบ้านเราอยู่เส้นนี้ #ตลกร้ายมาก” ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีประชาชนและผู้พบเห็นโพสต์ดังกล่าวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ออกไปจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จากการสอบถามทางด้าน นายสมชาติ วัฒนากล้า ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า อบจ.เชียงใหม่ มีหน้าที่ในการดูแลเส้นทางถนนสายดังกล่าวที่มีระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร และมีหน้าที่ในการทำการตัดแต่งกิ่งต้นยางนาที่อยู่ในบริเวณ 2 ข้างทาง เนื่องจากที่ผ่านมา เมื่อถึงช่วงฤดูร้อนช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน มักจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น และส่งผลทำให้กิ่งแห้งของต้นยางนา หักโค่นลงมาสร้างความเสียหายและเป็นอันตรายต่อประชาชน โดยทาง อบจ.เชียงใหม่ จะมีงบประมาณในการดำเนินการตัดแต่งกิ่งของต้นยางนาตลอดทั้งปี ประกอบกับได้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเป็นคระอนุกรรมการต้นยางนาคอยดูแลพื้นที่ดังกล่าว โดยจะเข้าไปดูแลตรวจสอบ หากพบว่ามีกิ่งแห้ง หรือกิ่งที่ถูกแมลงกัดเซาะเข้าไป หรือกัดกินแกนข้างใน จนอาจเป็นอันตรายที่จะหักลงมาก็จะมีการตัดแต่งกิ่งตลอด

ส่วนต้นยางทั้ง 2 ต้นที่มีกระแสวิจารณ์ออกมานั้น ตรวจสอบพบว่าต้น 1 ได้ยืนต้นตายแล้ว รวมไปถึงอีกต้นที่สภาพเริ่มย่ำแย่ เนื่องจากมีการปูพื้นถนนทับรากของต้น จนทำให้ขาดสารอาหาร อากาศ และน้ำ โดยต้นยางจะเริ่มตายจากข้างบนแล้วแห้งลงมา เมื่อข้างบนตายหมดแล้ว ทาง อบจ.เชียงใหม่ จึงเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายที่จะหักโค่นลงมาใส่ประชาชนและผู้สัญจรบนถนน จึงได้มีการดำเนินการตัด แต่หลังจากดำเนินการตัดก็พบว่าโค่นต้นมีโพรง ซึ่งหากไม่ตัดทิ้งก็มีโอกาสที่จะหักโค่นลงมาได้ รวมไปถึงได้มีการตรวจสอบด้านล่างก็มีแมลง ปลวก กัดกิน หากไม่มีการดำเนินการก็จะเกิดการหักโค่น ล้มลงมาอย่างเช่นในเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2559 ที่เกิดมีพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำแรง จนกระทั่งมีต้นยางนาขนาดใหญ่หักโค่นลงมาทั้งต้นทับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้รับความเสียหาย และที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ทำให้ทาง อบจ.ต้องมีการดำเนินการตัดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนรวมทั้งทรัพย์สินด้วย

ปัจจุบันต้นยางนาบน ถนนเชียงใหม่-ลำพูน มีเหลืออยู่ทั้งหมด 949 ต้น ซึ่งที่ผ่านมาทาง อบจ.เชียงใหม่ ก็ได้ร่วมกับทุกเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ในการฟืนฟู ดูแล ต้นยางนาที่เหลือ โดยเฉพาะในส่วนของระบบรากของต้น เนื่องจากปัจจุบันมีการทำถนนโดยการเททับคอนกรีตกดทับรากของต้นยางจำนวนมาก ทำให้รากของต้นขาดน้ำ อากาศ และสารอาหาร โดยทางออกในการแก้ไขจะต้องมีการรื้อถนนบางส่วนที่มีการปิดทับรากต้นยางนาออก แล้วทำการปูด้วยบล็อกพรุนที่น้ำหรือสารอาหารสามารถซึมเข้าไปได้ ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังหารือและกำลังจะดำเนินการอยู่ รวมไปถึงการค้ำยันต้นยาง ที่มีสภาพใกล้จะล้ม เพื่อป้องกันการหักโค่น

ร่วมแสดงความคิดเห็น