จ.แม่ฮ่องสอน เร่งแก้ไขปัญหาไฟป่า หลังพบว่ามีการลักลอบเผาป่าในหลายพื้นที่

ค่าฝุ่นละอองพิษของจังหวัดแม่ฮ่องสอน สูงต่อเนื่องเกินมาตรฐาน ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังพบว่ามีการลอบเผาป่าในหลายพื้นที่และการชิงเผาป่าหลังศาลากลางจังหวัด ฯ ขณะที่ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่อนหนังสือไปยังหน่วยงานในสังกัด ทุกจังหวัดให้เร่งบูรณาการร่วมกับจังหวัดแก้ไขปัญหาไฟป่าและชี้แจงต่อสื่อถึงการปฏิบัติงาน

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 07.00น. กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองเจือปนในอากาศ พื้นที่ตำบลจองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ค่า PM 2.5 วัดได้ 67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ค่า AQI วัดได้ 142 ซึ่งเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 หลังมีการชิงเผาป่าพื้นที่ใกล้เคียงศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน และฝุ่นควันไฟป่าที่สะสมต่อเนื่องมาหลายวัน

ทางด้านศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จ.แม่ฮ่องสอน สิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้แจ้งไปยังหน่วยงานในสังกัดของศูนย์ โดยแจ้งทุกท่านเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่า ขณะนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ระหว่างการจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งกำหนดให้ทุกอำเภอจัดการเชื้อเพลิงโดยการชิงเผาตามหลักวิชาการ การทำปุ๋ยหมัก หรือการไถกลบตอซัง ตามแผนจัดการเชื้อเพลิงที่แต่ละอำเภอกำหนดไว้แล้ว โดยดำเนินการชิงเผาในช่วงเวลา 15.00 น. และต้องมีการควบคุมการชิงเผาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการลุกลามออกนอกพื้นที่ชิงเผา จึงขอนำเรียนทุกอำเภอ ดำเนินการตามแผนและมาตรการจัดการเชื้อเพลิงตามที่กำหนดไว้ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากหมอกควันไฟป่า ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเมื่อค่ำวานที่ผ่านมา ( 24 ) ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า แม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งเหตุเกิดไฟป่าบริเวณพื้นที่บ้านห้วยโป่งแข่ ต.ปางหมู อ.เมือง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่ามีเหตุไฟป่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมองเห็นควันไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างชัดเจนในระยะไกล จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบ ต่อมา นายกัมปนาท ประจงพิมพ์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน ( โป่งแดง ) ผู้รายงานว่าได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านไม้แงะ เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป จะมีการชิงเผา บริเวณในพื้นที่รับผิดชอบและพื้นที่ใกล้เคียง (หลังศาลากลาง บ้านห้วยโป่งแข่ง) โดยมีการควบคุมการชิงเผาของผู้ใหญ่บ้าน และทีมงาน อย่างใกล้ชิด

สำหรับ จุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจจับได้ของวันที่ 24 ก.พ. 2562 มีทั้งหมด จำนวน 25 จุด ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม 2 จุด , ต.เมืองแปง อ.ปาย 4 จุด , ต.แม่ฮี้ อ.ปาย 1 จุด , ต.ทุ่งยาว อ.ปาย 4 จุด , ต.เวียงเหนือ อ.ปาย 1 จุด , ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า 1 จุด , ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า 4 จุด , ต.ห้วยผา เมือง 2 จุด และ ต.ห้วยปูลิง อ.เมือง 1 จุด

ในส่วนของจุดไฟป่า อ.เมือง พื้นที่บ้านนาป่าแปก นายสำราญ ธรรมตา หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า ได้รายงานรายงานผลการปฏิบัติงาน ประจำวัน ดังนี้ 1.เวลา 08.00-10.00 น.เจ้าหน้าที่สถานีฯร่วมกับเครือข่ายฯบ.ห้วยมะเขือส้ม ทำแนวกันไฟรอบๆโรงเรียนห้วยมะเขือส้ม ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 2.เจ้าหน้าที่สถานีฯลาดตระเวนตรวจหาไฟป่าการลักลอบเผาป่าและประชาสัมพันธ์ติดโปสเตอร์ ในท้องที่ ต.ห้วยผา ต.หมอกจำแป่ ต.ปางหมู อ.เมือง ฯ 3.เวลา 10.30 น.เจ้าหน้าที่สถานีฯตรวจสอบจุด Hotspot ในท้องที่ ต.หมอกจำแป่ ของวันที่ 23 ก.พ.62 เวลา 22.40 น.จำนวน 1จุด พิกัดที่ 1 E 380409 N 2162194 เจ้าหน้าที่สถานีฯเช็คพิกัดตามแผนที่แล้วอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านนาป่าแปก ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พบไฟป่าเกิดบริเวณแดนประเทศเมียนมาไม่สามรถเข้าตรวจสอบได้สาเหตุมาจากการเผาของทหารเมียนมา สังเกตจากไฟไหม้ลงมาจากสันเขาตรวจสอบแล้วคงเหลืออีกจุดเดียวที่ยังมีควันอยู่

นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการไปยัง ผอ.ทสจ. ทุกจังหวัดโดยเฉพาะ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นมีความเป็นห่วงต่อ สถานการณ์หมอกควัน และไฟไหม้ ในพื้นที่ต่างๆของ 9 จังหวัดภาคเหนือรวมทั้งหลายจังหวัด ยังคงเกิดขึ้นอยู่ เป็นประจำและสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายเนื่องจาก ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูแล้ง ดังนั้น จึงให้ ทสจ. ดำเนินการ
1.) ติดตามประสาน เพื่อดำเนินการตามแนวทางที่ ท่าน รมว.ทส. ได้ไปประชุม ที่จังหวัดลำพูนที่ผ่านมา
2.) ขอให้รายงาน สถานการณ์และการเข้าไป แก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ทราบรวมทั้งภาพประกอบด้วย
3.) หากสถานการณ์จังหวัดไหนรุนแรงขอให้ประสาน กับทาง กองการบิน สำนักงานปลัดกระทรวงฯ เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ได้เข้าไปช่วยระดม โปรยน้ำ ดังเช่นที่จ.ลำปาง
4.) ให้ประสานกับทาง สจป.และ สบอ. ในพื้นที่ ในการระดมเจ้าหน้าที่ไปช่วยกับทางจังหวัด เพื่อให้เห็นถึง การบูรณาการ ของกระทรวงทรัพยากรฯ กับจังหวัดด้วย
5.) ให้ประสานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้กลไกของการทำงานในพื้นที่โดยเฉพาะจากระดับจังหวัด สู่อำเภอ สู่ตำบลและหมู่บ้าน ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้
6.) ให้ชี้แจงกับทางสื่อ ในการทำงานและการป้องกันแก้ไขอยู่ เป็นระยะๆ

ร่วมแสดงความคิดเห็น