คาดปีนี้ร้อนจัดกว่าปีที่ผ่านมา เมษามีโอกาสแตะ 43 องศาฯ สูงสุดในรอบ 60 ปี เตือน 27 ก.พ. เตรียมรับมือเกิดพายุฤดูร้อน-พายุลูกเห็บ

คาดปีนี้ร้อนจัดกว่าปีที่ผ่านมา เมษามีโอกาสแตะ 43 องศาฯ สูงสุดในรอบ 60 ปี เตือนเตรียมรับมือเกิดพายุฤดูร้อนและพายุลูกเห็บ ห่วงพื้นที่แล้งซ้ำซากจะขาดน้ำใช้ ย้ำให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เตือนถึงวันที่ 27 ก.พ. อาจเกิดพายุฤดูร้อนได้

นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร นักอุตุนิยมวิทยาชำนาญการพิเศษ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ชี้แจงการคาดหมายลักษณะอากาศในช่วงฤดูร้อน ว่า ฤดูร้อนของประเทศไทยในปี 2562 นี้ จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งช้ากว่าปกติราว 2 สัปดาห์และจะไปสิ้นสุดราวกลางเดือนพฤษภาคม ลักษณะอากาศจะร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป คาดว่าจะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 35-37 องศาเซลเซียส จะสูงกว่าค่าปกติซึ่งอยู่ที่ 35.4 องศาเซลเซียส และคาดว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าปี 2561 ที่ผ่านมา ปริมาณฝนเฉลี่ยจะต่ำกว่าค่าปกติในคาบ 30 ปี

“ในช่วงฤดูร้อนมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นในหลายพื้นที่ โดยมีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง และมีพายุลูกเห็บเกิดได้ในบางพื้นที่ ซึ่งช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างการประกาศเตือนภัยพายุฤดูร้อน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศให้เฝ้าระวังพายุฤดูร้อนระหว่างวันที่ 25-27 ก.พ. 62 ส่วนฝนที่จะตกนั้นจะไม่เพียงพอกันความต้องการในหลายพื้นที่ในทุกกิจกรรมที่ต้องใช้น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก พื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทาน จึงขอให้ทุกภาคส่วนรวมถึงพี่น้องประชาชนขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้ให้มีประโยชน์สูงสุด” นายวรพจน์ฯ กล่าว

นายวรพจน์ฯ กล่าวอีกว่า ลักษณะอากาศโดยทั่วไปในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ต่อเนื่องไปถึงกลางเดือนมีนาคมคาดว่าจะมีอากาศร้อนในช่วงกลางวัน กลับจะมีหมอกหนาในหลายๆ พื้นที่โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีอากาศหนาวเย็น บริเวณพื้นที่ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่อุณหภูมิไม่เกิน 15 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายนจะเข้าสู่ฤดูร้อน สภาพอากาศโดยทั่วไปจะร้อนอบอ้าวถึงอากาศร้อนจัด อุณหภูมิตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป คาดการณ์ไว้ว่าฤดูร้อนปีนี้อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 43 องศาเซลเซียส ช่วงนี้มีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นได้ในบางวันรวมถึงพายุลูกเห็บด้วย

ทั้งนี้ข้อมูลสถิติอุณหภูมิสูงสุดของประเทศไทยในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ปี 2494 จนถึงปีที่ผ่านมา ข้อมูลของจังหวัดเชียงใหม่ช่วงเดือนมีนาคมเคยวัดได้ 40.9 องศาฯ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2548 ส่วนเดือนเมษายนวัดได้ 41.5 องศาฯ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2503 ล่าสุดเมื่อปี 2559 ในเดือนพฤษภาคมเคยวัดได้ 42.5 เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2559 ส่วนอุณหภูมิสูงที่สุดที่เคยวัดได้ในพื้นที่ภาคเหนือคือที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนวัดได้ 44.6 องศาฯ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2559

นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร กล่าวต่อว่า ในช่วงปลายเดือนเมษายนจะเป็นช่วงท้ายของฤดูร้อนต่อเนื่องไปจนถึงช่วงแรกของเดือนพฤษภาคมลักษณะอากาศโดยทั่วไปจะแปรปรวน เนื่องจากเป็นช่วงการเปลี่ยนฤดูที่จะเข้าสู่ฤดูฝน แต่อากาศยังจะร้อนอบอ้าวทั่วไป บางช่วงบางวันอุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสขึ้นไปได้ นอกจากนั้นอาจมีพายุฝนฟ้าคะนองอีกได้ เนื่องจากอิทธิพลของลมใต้ หรือลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอยู่จะเป็นเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้แผ่เข้ามาแทน

ร่วมแสดงความคิดเห็น