พระสงฆ์ สามเณร วอนโยมเห็นใจเลี้ยงวัวติดกุฏิ กลิ่นขี้วัวโชยเช้าเย็น เดือดร้อนไปทั้งวัด เจ้าหน้าที่รีบลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ

นายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ นายอำเภอเมืองน่าน ร่วมกับ อบต.ผาสิงห์ และหน่วยทหารมณฑลทหารบกที่ 38 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองน่าน ได้เข้าตรวจสอบไซโลบริษัท น่านฟ้าพืชผล จำกัด ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน หลังพระสงฆ์ สามเณร ผู้เข้าปฏิบัติธรรม และชาวบ้าน ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นมูลวัว กว่า 50 ตัว ที่ทางไซโลเลี้ยงไว้ติดกับกุฏิพระ สถานปฏิบัติธรรม ในระยะห่างเพียง 20 เมตร และทำการชะล้างมูลวัว ลงบ่อที่อยู่ติดกับลำห้วยสาธารณะโดยไม่มีการบำบัด ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเตรียมการก่อสร้างขยายโรงเลี้ยงโค และสนามโคชนอีกด้วย

พระครูกิตติจันทโรภาส เจ้าอาวาสวัดป่านันทบุรีญาณสังวราราม (ในพระสังฆราชูปถัมภ์) กล่าวว่า วัดได้สร้างขึ้นในปี 2555 ซึ่งต่อมาเอกชนรายหนึ่ง มีที่ดินติดกับวัดได้สร้างไซโลผลผลิตการเกษตร มีเนื้อที่ 80 ไร่ โดยช่วงปี 2560 พบว่ามีการทำโรงเลี้ยงวัวติดกับเขตวัด ส่งผลกระทบทั้งเรื่องกลิ่นเหม็นของมูลวัว น้ำเน่าเสีย นอกจากนี้ยังมีตัวริ้นไรจากวัว มาเกาะและกัดทำให้เกิดตุ่มคันที่ผิวหนัง และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ต้องทนดมกลิ่น คันตามผิวหนัง มานานนับ 2 ปี และทราบว่าได้มีการขออนุญาตจัดทำสถานที่เล่นการพนันประเภทชนโคอีกด้วย จึงอยากขอวอนให้เห็นใจพระสงฆ์ สามเณร ให้พิจารณาแก้ไข โดยขอให้มีการย้ายโรงเลี้ยงวัวและสนามชนโค ให้ห่างพ้นเขตวัด โดยทางวัดยืนยันว่าไม่ก้าวก่ายในทางโลก แต่ขออย่าให้กระทบรบกวนพระสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรม

อย่างไรก็ตาม นายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ นายอำเภอเมืองน่าน ได้ตรวจสอบพบว่าโรงเลี้ยงวัวที่อยู่ติดกับเขตวัด ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจริง โดยขณะนี้ทาง อบต.ผาสิงห์ ได้ออกใบอนุญาตในการก่อสร้างอาคารโรงเลี้ยงวัว และสนามโคชนแล้ว แต่ในส่วนของการขออนุญาตเรื่องการพนันประเภทชนโค ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ทำการพิจารณาในระดับกระทรวง ทั้งนี้หลังตรวจสอบจะทำรายงานเสนอถึงนายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เพื่อทราบและมีความเห็นสั่งการ และเตรียมประชุมเร่งด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุขจังหวัดน่าน และ ปศุสัตว์จังหวัดน่าน เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายและขั้นตอนดำเนินการ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่จะต้องไม่ให้กระทบต่อพระสงฆ์อย่างแน่นอนปทั้งวัด เจ้าหน้าที่รีลลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ

นายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ นายอำเภอเมืองน่าน ร่วมกับ อบต.ผาสิงห์ และหน่วยทหารมณฑลทหารบกที่ 38 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองน่าน ได้เข้าตรวจสอบไซโลบริษัท น่านฟ้าพืชผล จำกัด ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน หลังพระสงฆ์ สามเณร ผู้เข้าปฏิบัติธรรม และชาวบ้าน ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นมูลวัว กว่า 50 ตัว ที่ทางไซโลเลี้ยงไว้ติดกับกุฏิพระ สถานปฏิบัติธรรม ในระยะห่างเพียง 20 เมตร และทำการชะล้างมูลวัว ลงบ่อที่อยู่ติดกับลำห้วยสาธารณะโดยไม่มีการบำบัด ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเตรียมการก่อสร้างขยายโรงเลี้ยงโค และสนามโคชนอีกด้วย

พระครูกิตติจันทโรภาส เจ้าอาวาสวัดป่านันทบุรีญาณสังวราราม (ในพระสังฆราชูปถัมภ์) กล่าวว่า วัดได้สร้างขึ้นในปี 2555 ซึ่งต่อมาเอกชนรายหนึ่ง มีที่ดินติดกับวัดได้สร้างไซโลผลผลิตการเกษตร มีเนื้อที่ 80 ไร่ โดยช่วงปี 2560 พบว่ามีการทำโรงเลี้ยงวัวติดกับเขตวัด ส่งผลกระทบทั้งเรื่องกลิ่นเหม็นของมูลวัว น้ำเน่าเสีย นอกจากนี้ยังมีตัวริ้นไรจากวัว มาเกาะและกัดทำให้เกิดตุ่มคันที่ผิวหนัง และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ต้องทนดมกลิ่น คันตามผิวหนัง มานานนับ 2 ปี และทราบว่าได้มีการขออนุญาตจัดทำสถานที่เล่นการพนันประเภทชนโคอีกด้วย จึงอยากขอวอนให้เห็นใจพระสงฆ์ สามเณร ให้พิจารณาแก้ไข โดยขอให้มีการย้ายโรงเลี้ยงวัวและสนามชนโค ให้ห่างพ้นเขตวัด โดยทางวัดยืนยันว่าไม่ก้าวก่ายในทางโลก แต่ขออย่าให้กระทบรบกวนพระสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรม

อย่างไรก็ตาม นายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ นายอำเภอเมืองน่าน ได้ตรวจสอบพบว่าโรงเลี้ยงวัวที่อยู่ติดกับเขตวัด ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจริง โดยขณะนี้ทาง อบต.ผาสิงห์ ได้ออกใบอนุญาตในการก่อสร้างอาคารโรงเลี้ยงวัว และสนามโคชนแล้ว แต่ในส่วนของการขออนุญาตเรื่องการพนันประเภทชนโค ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ทำการพิจารณาในระดับกระทรวง ทั้งนี้หลังตรวจสอบจะทำรายงานเสนอถึงนายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เพื่อทราบและมีความเห็นสั่งการ และเตรียมประชุมเร่งด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุขจังหวัดน่าน และ ปศุสัตว์จังหวัดน่าน เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายและขั้นตอนดำเนินการ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่จะต้องไม่ให้กระทบต่อพระสงฆ์อย่างแน่นอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น